Method A quasi-experimental researc

Method

A quasi-experimental research design with a wait-listed nonequivalent control group was used. Schizophrenic patients who had been admitted in psychiatric units in a governmental psychiatric hospital in Thailand were potential participants for this study. Inclusion criteria included: a) being an adult aged 18 or older; b) being diagnosed with schizophrenia according to the International Classification of Disease-1015 and exhibiting mild psychotic symptoms determined by 18-36 marks on the Brief Psychiatric Rating Scale.16 This scale has been routinely used to assess the severity of psychotic symptoms of patients admitted in hospital; d) having an obligation to utilize mental health services at the hospital; and e) returning to



J Nurs Sci Vol.27 No.3 S2 Sep-Dec 2009
Journal of Nursing Science (Supplement 2) 7
a known address with telephone access after discharge. Patients who received electroconvulsive therapy (ECT) and have been diagnosed with brain dysfunction or cognitive impairment would be excluded. In this study, matching techniques (based on age) were used to select the experimental group participants. Pairs with an age difference of less than five years were acceptable. A total of 70 participants, including 60 male and 10 female patients, who met the inclusion criteria were identified by reviewing medical records. Of this female group, four refused to take part due to feeling reluctant to receive the telephone followup sessions; six were not discharged as scheduled due to family problems and thus the telephone follow-up sessions could not be initiated. The participants were divided into control and
experimental groups with each group consisting of 30 participants. However, five participants in the control group exhibited deteriorating psychotic symptoms and were subsequently excluded. Thus, the total sample size was fiftyfive, consisting of 30 participants in the experimental group and 25 in the control group. All participants were male. In the experimental group, most participants were single (n = 26, 87%), unemployed (n = 24, 80%), and lived with their parents (n = 22: 73.33%). In the control group, most were single (n = 18, 72%). Half were unemployed (n = 13, 52%). Nearly half of the participants lived with their parents (n = 11, 44%). There was no significant difference in age, years of education, income, years of illness, and number of hospitalization between the two groups (Table 1).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีการ ใช้แบบการวิจัยกึ่งทดลองกับกลุ่มควบคุม nonequivalent รออยู่ Schizophrenic ผู้ป่วยที่ได้รับการยอมรับในหน่วยจิตเวชในโรงพยาบาลจิตเวชภาครัฐในประเทศไทย มีผู้เรียนที่มีศักยภาพสำหรับการศึกษานี้ เกณฑ์รวมรวม: ยัง) เป็นผู้ใหญ่อายุ 18 หรือ มากกว่า ขถูกวินิจฉัยกับโรคจิตเภทตามนานาประเภทของโรค-1015 และอาการ psychotic อ่อนตาม 18-36 เครื่องบนย่อจิตเวชคะแนน Scale.16 นี้ขนาดเป็นประจำใช้เพื่อประเมินความรุนแรงของอาการของผู้ป่วยที่ยอมรับในโรงพยาบาล psychotic อย่างมีระดับ d) มีการใช้บริการสุขภาพจิตโรงพยาบาล และอี) ความ S2 J วิทยาศาสตร์วิศวกรรม Nurs Vol.27 No.3 กันยายน 2009 ธันวาคม สมุดรายวันการพยาบาลวิทยาศาสตร์ (ภาคผนวกที่ 2) 7ที่อยู่ที่รู้จักเข้าโทรศัพท์หลังจากปล่อย ต้องแยกผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วย electroconvulsive (ECT) และได้รับการวินิจฉัยกับสมองบกพร่องหรือด้อยค่าที่รับรู้ ในการศึกษานี้ เทคนิคการจับคู่ (ตามอายุ) ถูกใช้เพื่อเลือกผู้เรียนกลุ่มทดลอง คู่ มีความแตกต่างที่อายุน้อยกว่า 5 ปีเป็นที่ยอมรับได้ จำนวนผู้เข้าร่วม 70, 60 ชายและผู้ป่วยหญิง 10 ที่เกณฑ์รวมได้ระบุ โดยตรวจรักษา คณะนี้ผู้หญิง สี่ปฏิเสธการมีส่วนร่วมเนื่องจากรู้สึกไม่ได้รับการเซสชันการโทรศัพท์ติดตาม หกถูกออกตามกำหนดเวลาครบกำหนดปัญหาครอบครัว แล้วดังนั้น รอบเวลาในการติดตามโทรศัพท์อาจไม่สามารถเริ่มต้น ผู้เข้าร่วมถูกแบ่งออกเป็นการควบคุม และ กลุ่มทดลองกลุ่มละ 30 คนประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม ร่วม 5 ในกลุ่มควบคุมจัดแสดงอาการ psychotic ที่เสื่อมสภาพ และถูกแยกออกมา ดังนั้น ขนาดตัวอย่างทั้งหมดถูก fiftyfive ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมกลุ่มทดลอง 30 และ 25 ในกลุ่มควบคุม ร่วมเพศได้ ในกลุ่มทดลอง ผู้เรียนส่วนใหญ่เดียว (n = 26, 87%), คนตกงาน (n = 24, 80%), และอาศัยอยู่กับครอบครัว (n = 22:73.33%) ในกลุ่มควบคุม ส่วนใหญ่เดียว (n = 18, 72%) ครึ่งหนึ่งมีงาน (n = 13, 52%) เกือบครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมอาศัยอยู่กับครอบครัว (n = 11, 44%) มีไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในอายุ ปีการศึกษา รายได้ เจ็บป่วย และจำนวน ๑๐๐๐ ระหว่าง 2 กลุ่ม (ตารางที่ 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการออกแบบการวิจัยกึ่งทดลองกับการรอคอยที่จดทะเบียนในกลุ่มควบคุม nonequivalent ถูกนำมาใช้ ผู้ป่วยจิตเภทที่ได้รับการยอมรับในหน่วยจิตเวชในโรงพยาบาลจิตเวชภาครัฐในประเทศไทยมีผู้เข้าร่วมที่มีศักยภาพสำหรับการศึกษาครั้งนี้ เกณฑ์การคัดเลือกรวม:) เป็นผู้ใหญ่อายุ 18 ปีหรือมากกว่า; ข) ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภทตามการจำแนกระหว่างประเทศของโรค 1015 และแสดงอาการโรคจิตอ่อนกำหนดโดย 18-36 เครื่องหมายบนการจัดอันดับจิตเวชย่อ Scale.16 ขนาดนี้ได้ถูกนำมาใช้เป็นประจำเพื่อประเมินความรุนแรงของอาการทางจิตของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ในโรงพยาบาล; ง) มีภาระผูกพันในการใช้บริการสุขภาพจิตที่โรงพยาบาล; และ e) กลับไปJ Nurs วิทย์ Vol.27 ฉบับที่ 3 S2 ก.ย. ธันวาคม 2009 วารสารพยาบาลศาสตร์ (ภาคผนวก 2) 7? อยู่ที่รู้จักกันกับการเข้าถึงโทรศัพท์หลังจากที่ปล่อย ผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดด้วยไฟฟ้า (ECT) และได้รับการวินิจฉัยว่ามีความผิดปกติของสมองหรือความบกพร่องทางสติปัญญาจะได้รับการยกเว้น ในการศึกษานี้การจับคู่เทคนิค (ขึ้นอยู่กับอายุ) ถูกนำมาใช้เพื่อเลือกผู้เข้าร่วมกลุ่มทดลอง คู่ที่มีความแตกต่างที่อายุน้อยกว่าห้าปีเป็นที่ยอมรับ ทั้งหมด 70 คนรวมทั้งชาย 60 และ 10 ผู้ป่วยหญิงที่เข้าเกณฑ์ถูกระบุโดยการตรวจสอบเวชระเบียน ของกลุ่มหญิงนี้สี่ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมเนื่องจากรู้สึกลังเลที่จะได้รับการประชุมการติดตามโทรศัพท์; หกไม่ได้ถูกปล่อยออกมาตามที่กำหนดเนื่องจากปัญหาครอบครัวและทำให้การประชุมติดตามโทรศัพท์ไม่สามารถเริ่มการ ผู้เข้าร่วมถูกแบ่งออกเป็นการควบคุมและกลุ่มทดลองกับแต่ละกลุ่มประกอบด้วย 30 คน แต่ห้าผู้เข้าร่วมในกลุ่มควบคุมแสดงอาการโรคจิตเสื่อมและต่อมาได้รับการยกเว้น ดังนั้นขนาดของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดเป็น fiftyfive ประกอบด้วย 30 ผู้เข้าร่วมในกลุ่มทดลองและ 25 ในกลุ่มควบคุม ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเป็นเพศชาย ในกลุ่มทดลองผู้เข้าร่วมมากที่สุดคือเดียว (n = 26, 87%), อัตราการว่างงาน (n = 24, 80%) และอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของพวกเขา (n = 22: 73.33%) ในกลุ่มควบคุมมากที่สุดคือเดียว (n = 18, 72%) ครึ่งมีการว่างงาน (n = 13, 52%) เกือบครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของพวกเขา (n = 11, 44%) ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในอายุอายุการศึกษารายได้ปีที่ผ่านมาของการเจ็บป่วยและจำนวนของโรงพยาบาลระหว่างสองกลุ่ม (ตารางที่ 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธี

เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบออกแบบกับรอไว้โดยที่กลุ่มควบคุมใช้ ผู้ป่วยจิตเภทที่ได้รับการรักษาในหน่วยจิตเวชในโรงพยาบาลจิตเวชในประเทศไทยมีศักยภาพของผู้เข้าร่วมการวิจัย เกณฑ์การรวมรวม : ) เป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุ 18 หรือเก่าข ) ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภท ตามประเภทของ disease-1015 ระหว่างประเทศและจัดแสดงไม่รุนแรง อาการทางจิตที่กำหนดโดย 18-36 เครื่องหมายบนสั้น scale.16 อันดับจิตเวชระดับนี้ได้ตรวจใช้ประเมินความรุนแรงของอาการทางจิตของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ; D ) มีภาระที่จะต้องใช้บริการสุขภาพจิตในโรงพยาบาล ;และ E ) กลับไป



J การพัฒนาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์ vol.27 วิทย์ 3 ก.ย. ธ.ค. S2
วารสารพยาบาลศาสตร์ ( ภาคผนวก 2 ) 7 
รู้จักที่อยู่ โทรศัพท์ เข้าถึง หลังจากปล่อย ผู้ป่วยที่ได้รับการกระตุ้นสมอง ( ECT ) และได้รับการวินิจฉัยที่มีความผิดปกติหรือความบกพร่องทางสติปัญญา สมองจะไม่รวม ในการศึกษานี้เทคนิคการจับคู่ ( ตามอายุ ) ถูกใช้เพื่อเลือกผู้เข้าร่วมกระบวนการกลุ่ม คู่ที่มีอายุห่างกันไม่ถึงห้าปี ยังยอมรับได้ รวม 70 คน รวมทั้งชายและหญิง 60 รายที่ 10 ที่พบรวมเกณฑ์ที่ระบุโดยการตรวจสอบบันทึกทางการแพทย์ กลุ่มหญิงนี้สี่ปฏิเสธที่จะใช้เวลาส่วนหนึ่งเนื่องจากรู้สึกลังเลที่จะได้รับโทรศัพท์ติดตามเซสชัน ; หกไม่ไปตามกำหนดการเดิม เนื่องจากปัญหาครอบครัว และดังนั้นจึง โทรศัพท์ การติดตามจะเริ่มต้น ผู้เรียนแบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง กลุ่มละ
จำนวน 30 คน อย่างไรก็ตาม5 ผู้เข้าร่วมในกลุ่มควบคุมมีอาการทางจิตและเสื่อมสภาพ จัดการแยกออก ดังนั้นมีจำนวนตัวอย่างเป็น fiftyfive ประกอบด้วย 30 ผู้เข้าร่วมในกลุ่มทดลองและ 25 ในกลุ่มควบคุม ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเป็นเพศชาย ในกลุ่มทดลองที่เข้าร่วมส่วนใหญ่เป็นเดี่ยว ( n = 26 , 87% ) , ว่างงาน ( n = 24 , 80 % )และอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ( N = 22 : 73.33 % ) ในกลุ่มควบคุม ส่วนใหญ่ยังโสด ( n = 18 , 72 % ) ครึ่งตกงาน ( n = 13 , 52 ) เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ( n = 11 , 44 ) มีความแตกต่างในด้านอายุ ปี การศึกษา รายได้ ระยะเวลาการเจ็บป่วย และจำนวนครั้งของการระหว่างสองกลุ่ม ( ตารางที่ 1 )