PROPHECY HAS A CONTEXTProphecy is a

PROPHECY HAS A CONTEXT

Prophecy is a sign of God's nearness and concern, that the Lord is still there with us to build up, tear down, or console (as per 1 Corinthians 14:3; Isaiah 40). Prophecy serves as God's way of getting through to people in a particular situation (2 Samuel 12:7; 1 Corinthians 14:24; Acts 8:30-35). It can, within that context, offer a view of what is to come -- especially if repentance is not forthcoming. This is true for societies as a whole -- the prophets and apostles of old pronounced judgement on all and called all to righteousness, even the pagans, for societal evil and injustice.

Prophecy is something done within a context, the context of God's covenants with human beings, shown through the Word as revealed in Scripture. If it is not within that context and in full accord with it, it is false and not from God, and furthermore it will quite likely prove evil in its effect. What prophecy can do for us today is to show how in daily living we have set aside the biblical truths and went our own way; it can place into the foreground what we have been avoiding and burn the true way into our hearts. It can convict us of our current path and provide us with new direction; if so, other gifts will follow which will empower the new direction.

There was much more prophecy from the Lord than what we have in Scripture. The Bible itself testifies to that. Many of the prophets spent a good deal of their time giving messages of encouragement and comfort to those who were following the Lord. Some wrote books, and likely also songs, some of which are mentioned but are otherwise unknown today. Jeremiah and Ezekiel give a few glimpses into a prophet's more usual life. What the Bible holds is a record of prophecies which bore what the later Jewish community recognized as having meaning beyond its day. Even on that front, they probably left out a lot, though nothing essential.

The Old Testament prophets spoke within the context of their tradition, using the rich oral and written poetry and stories which were the common heritage of the Israelites over the millenniums since Abraham, the stuff from which our Old Testament histories and writings were made. Some of the prophets were highly-skilled wordsmiths (Habakkuk, for example) and were even first class poets (Isaiah, for example). Prophets of the Church speak within the framework of the New Testament apostolic tradition of faith (as in Romans 12:6). Thus, in both Testaments, it is the core of that tradition which can be used to measure the prophecy's value; for us, Christ and Christ's work are the core against which all prophecy is measured (1 Corinthians 12:3; Matt 7:15-20; 1 Thessalonians 5:20-21; 1 John 4:1-2). The gift of discernment of spirits also comes into play when judging prophecy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คำพยากรณ์มีบริบททำนายเป็นสัญญาณของความใกล้ชิดของพระเจ้าและความกังวลว่าพระเจ้ายังคงมีกับเราที่จะสร้างขึ้นฉีกลงหรือคอนโซล (ตาม 1 โครินธ์ 14: 3; อิสยาห์ 40) ทำนายทำหน้าที่เป็นทางของพระเจ้าในการได้รับผ่านไปยังคนที่อยู่ในสถานการณ์เฉพาะ (2 ซามูเอล 12: 7; 1 โครินธ์ 14:24; กิจการ 8: 30-35) มันสามารถในบริบทที่นำเสนอมุมมองของสิ่งที่จะมา - โดยเฉพาะถ้าการกลับใจไม่ได้เตรียมพร้อม นี้เป็นจริงสำหรับสังคมโดยรวม - ศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกของการตัดสินเด่นชัดเก่าทั้งหมดและเรียกทุกความชอบธรรมแม้ศาสนา, ความชั่วร้ายทางสังคมและความอยุติธรรม. ทำนายเป็นสิ่งที่ทำได้ภายในบริบทบริบทของพันธสัญญาของพระเจ้าด้วย มนุษย์ที่แสดงผ่าน Word เป็นเปิดเผยในพระคัมภีร์ ถ้ามันไม่ได้อยู่ในบริบทที่สอดคล้องและเต็มไปด้วยมันเป็นเท็จและไม่ได้มาจากพระเจ้าและนอกจากนี้มันค่อนข้างจะพิสูจน์ความชั่วร้ายในผลของมัน คำทำนายสิ่งที่สามารถทำเพื่อเราในวันนี้คือการแสดงให้เห็นว่าในชีวิตประจำวันที่เราได้ตั้งสำรองความจริงในพระคัมภีร์ไบเบิลและไปทางของตัวเองของเรา; มันสามารถวางลงไปในเบื้องหน้าสิ่งที่เราได้รับการหลีกเลี่ยงและการเผาไหม้วิธีที่แท้จริงมาสู่หัวใจของเรา มันสามารถลงโทษเราของเส้นทางในปัจจุบันของเราและให้เรามีทิศทางใหม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นของขวัญอื่น ๆ จะตามมาซึ่งจะช่วยให้ทิศทางใหม่. มีคำทำนายอื่น ๆ อีกมากมายจากพระเจ้าเป็นกว่าสิ่งที่เรามีอยู่ในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ตัวเองเป็นพยานว่า หลายของผู้เผยพระวจนะใช้เวลาจัดการที่ดีของเวลาของพวกเขาให้ข้อความของการให้กำลังใจและความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ได้รับต่อไปนี้พระเจ้า บางคนเขียนหนังสือและเพลงยังมีแนวโน้มที่บางแห่งที่มีการกล่าวถึง แต่ไม่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างอื่นในวันนี้ เยเรมีย์และเอเสเคียลให้มองเห็นลงในไม่กี่ผู้เผยพระวจนะของชีวิตปกติมากขึ้น สิ่งที่พระคัมภีร์ถือเป็นบันทึกของคำพยากรณ์ที่เบื่อสิ่งที่ชุมชนชาวยิวในภายหลังได้รับการยอมรับว่าเป็นความหมายที่มีเกินวันของมัน แม้ในด้านหน้าที่พวกเขาอาจปล่อยออกมาเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีอะไรที่สำคัญ. ผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์เดิมพูดในบริบทของประเพณีของพวกเขาโดยใช้บทกวีพูดและการเขียนที่อุดมไปด้วยและเรื่องราวซึ่งเป็นมรดกร่วมกันของอิสราเอลในช่วง millenniums ตั้งแต่อับราฮัม สิ่งที่ประวัติศาสตร์พันธสัญญาของเราเก่าและงานเขียนที่ถูกทำ บางส่วนของศาสดาพยากรณ์มา wordsmiths ที่มีทักษะสูง (ฮาบากุกเช่น) และแม้กระทั่งกวีชั้นแรก (อิสยาห์เป็นต้น) พยากรณ์ของคริสตจักรพูดอยู่ในกรอบของพันธสัญญาใหม่เผยแพร่ประเพณีของความเชื่อ (ในขณะที่โรม 12: 6) ดังนั้นใน Testaments ทั้งสองก็เป็นหลักของประเพณีที่สามารถนำมาใช้ในการวัดค่าพยากรณ์ของ; สำหรับเราคริสคริสและการทำงานเป็นหลักกับที่คำทำนายทั้งหมดจะถูกวัด (1 โครินธ์ 12: 3; แมตต์ 7: 15-20; 1 สะโลนิกา 5: 20-21; 1 ยอห์ 4: 1-2) ของขวัญจากความฉลาดของวิญญาณยังมาลงเล่นเมื่อการตัดสินคำทำนาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คำทำนายมีบริบท

คำทำนายเป็นสัญญาณของพระเจ้าของความใกล้ชิดและความกังวลว่าท่านยังอยู่กับเรา สร้างขึ้น ดึงลง หรือคอนโซล ( 1 โครินธ์ 14 : 3 ; อิสยาห์ 40 ) คำทำนาย เป็นวิธีการของพระเจ้า จะผ่านผู้คนในสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจง ( 2 ซามูเอล 12 : 7 ; 1 โครินธ์ 14 : 24 ; การกระทำ 8:30-35 ) มันสามารถ ภายใน บริบทเสนอมุมมองของสิ่งที่จะมา . . . โดยเฉพาะถ้ากลับใจไม่เตรียมพร้อม นี้เป็นจริงสำหรับสังคมโดยรวม -- ศาสดาและอัครสาวกของเก่าออกเสียงการตัดสินเกี่ยวกับทั้งหมดและเรียกความชอบธรรม แม้แต่พวกนอกศาสนา เพราะความชั่วร้ายของสังคมและความอยุติธรรม คำทำนายบางอย่าง

เสร็จภายในบริบทบริบทของพันธสัญญาของพระเจ้ากับมนุษย์แสดงถึงคำที่พบในคัมภีร์ ถ้ามันไม่ได้อยู่ในที่บริบทและตามเต็มกับมัน มันเป็นเท็จไม่ได้มาจากพระเจ้า และนอกจากนี้จะค่อนข้างอาจพิสูจน์ร้ายในผลของมัน สิ่งที่คำทำนายสามารถทำเพื่อเราในวันนี้ คือเพื่อแสดงให้เห็นว่า ในชีวิตประจําวันเราได้ตั้งค่าไว้ ความจริงในพระคัมภีร์และเดินทางของเราเองมันสามารถเกิดขึ้นในเบื้องหน้า สิ่งที่เราได้รับการหลีกเลี่ยง และเขียนวิธีที่แท้จริงในจิตใจของเรา มันสามารถให้เรารู้ว่าเส้นทางปัจจุบันของเรา และให้เรากับทิศทางใหม่ ถ้าดังนั้น ของขวัญอื่น ๆที่จะปฏิบัติตามซึ่งจะช่วยให้ทิศทางใหม่

มีมากขึ้นคำพยากรณ์จากพระเจ้ามากกว่าสิ่งที่เรามีในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ตัวเองเป็นพยานนั้นหลายของผู้พยากรณ์ ใช้เวลาจัดการที่ดีของเวลาของพวกเขาให้ข้อความให้กําลังใจและความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ติดตามพระองค์ บางคนเขียนหนังสือ และอาจยังเพลงบางส่วนที่กล่าวถึง แต่เป็นอย่างอื่นที่ไม่รู้จักในวันนี้ และเยเรมีย์เอเสเคียลให้ไม่กี่ภาพเป็นศาสดาพยากรณ์ปกติชีวิตให้มากขึ้นสิ่งที่พระคัมภีร์เก็บเป็นบันทึกคำทำนายซึ่งเบื่ออะไร ต่อมาชุมชนชาวยิวได้รับการยอมรับที่มีความหมายเกินกว่าวันของมัน แม้แต่ในหน้า พวกเขาอาจจะออกมามาก แต่ไม่มีอะไรที่สำคัญ

ผู้เผยพระวจนะพันธสัญญาเดิมพูดในบริบทของประเพณีของพวกเขาโดยใช้เรื่องราวมากมายในช่องปากและเขียนบทกวีที่พบมรดกของอิสราเอลเหนือ Millenniums ตั้งแต่อับราฮัมของพันธสัญญาเดิมซึ่งประวัติศาสตร์ของเรา และเขียนได้ บางส่วนของผู้ที่มีทักษะสูง มี wordsmiths ( ฮาบากุก ตัวอย่างเช่น ) และแม้กวีชั้นแรก ( อิสยาห์ , ตัวอย่างเช่น )ผู้พยากรณ์ของโบสถ์พูดในกรอบของพันธสัญญาใหม่ที่เผยแพร่ประเพณีความเชื่อ ( ในโรม 12 : 6 ) ดังนั้นใน Testaments ทั้งสอง มันเป็นหลักของประเพณี ซึ่งสามารถใช้วัดค่าของคำทำนาย เพราะเรา พระคริสต์ และพระคริสต์ทำงานเป็นหลักกับที่คำทำนายเป็นวัด ( 1 โครินธ์ 12 : 3 ; แม็ตต์ 7:15-20 1 เธสะโลนิกา 5:20-21 ; 1 ยอห์น 4:1-2 )ของขวัญของความฉลาดของวิญญาณมาเข้าสู่การเล่นเมื่อดูคำทำนาย