William Henry "Bill" Gates III (bor

William Henry "Bill" Gates III (born October 28, 1955) is an American business magnate, philanthropist, investor, and computer programmer.[2][3] In 1975, Gates and Paul Allen co-founded Microsoft, which became the world's largest PC software company. During his career at Microsoft, Gates held the positions of chairman, CEO and chief software architect, and was the largest individual shareholder until May 2014.[4][a] Gates has authored and co-authored several books.

Starting in 1987, Gates was included in the Forbes list of the world's wealthiest people[7] and was the wealthiest from 1995 to 2007, again in 2009, and has been since 2014.[8] Between 2009 and 2014, his wealth doubled from US$40 billion to more than US$82 billion.[9] Between 2013 and 2014, his wealth increased by US$15 billion.[10] Gates is currently the richest man in the world.[11]

Gates is one of the best-known entrepreneurs of the personal computer revolution. Gates has been criticized for his business tactics, which have been considered anti-competitive, an opinion which has in some cases been upheld by numerous court rulings.[12][13] Later in his career Gates pursued a number of philanthropic endeavors, donating large amounts of money to various charitable organizations and scientific research programs through the Bill & Melinda Gates Foundation, established in 2000.

Gates stepped down as Chief Executive Officer of Microsoft in January 2000. He remained as Chairman and created the position of Chief Software Architect for himself. In June 2006, Gates announced that he would be transitioning from full-time work at Microsoft to part-time work, and full-time work at the Bill & Melinda Gates Foundation. He gradually transferred his duties to Ray Ozzie, chief software architect and Craig Mundie, chief research and strategy officer. Ozzie later left the company. Gates's last full-time day at Microsoft was June 27, 2008. He stepped down as Chairman of Microsoft in February 2014, taking on a new post as technology advisor to support newly appointed CEO Satya Nadella.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

William Henry "บิล" เกตส์ III (เกิด 28 ตุลาคม 1955) เป็นเจ้าสัวธุรกิจอเมริกัน philanthropist ลงทุน และคอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์ [2] [3] ใน 1975 ประตูและ Paul อัลเลนร่วมก่อตั้ง Microsoft ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ PC ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงอาชีพของเขาที่ Microsoft ประตูจัดตำแหน่งประธาน ซีอีโอ และประธานซอฟต์แวร์สถาปนิก และ ผู้ถือหุ้นแต่ละตัวที่ใหญ่ที่สุดจนถึง 2014 พฤษภาคมนั้น [4] ประตู [a] ได้เขียน และเขียนหนังสือหลายร่วมเริ่มต้นในปีค.ศ. 1987 ประตูรวมอยู่ในรายการ Forbes คนร่ำรวยที่สุดในโลก [7] ได้ที่ร่ำรวยจาก 1995 2007 อีกครั้งในปี 2009 และตั้งแต่ปี 2014 [8] ระหว่างปี 2009 และปี 2014 มั่งคั่งของเขาสองเท่าจาก 40 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปกว่า 82 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ [9] ระหว่างปี 2013 และ 2014 สมบัติของเขาโดย 15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น [10] ประตูอยู่คนที่รวยที่สุดในโลก [11]ประตูเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่สัญลักษณ์ของการปฏิวัติคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ประตูมีการวิพากษ์วิจารณ์สำหรับเขาธุรกิจกลยุทธ์ ซึ่งมีการต่อต้านแข่งขัน ความเห็นซึ่งมีในบางกรณีการยึดถือตามบัญญัติศาลจำนวนมาก [12] Later [13] ในอาชีพของเขาประตูติดตามจำนวนความพยายาม philanthropic บริจาคเงินให้องค์กรการกุศลต่าง ๆ และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์โปรแกรมผ่านบิล & Melinda มูลนิธิประตู ก่อตั้งขึ้นใน 2000 จำนวนมากGates stepped down as Chief Executive Officer of Microsoft in January 2000. He remained as Chairman and created the position of Chief Software Architect for himself. In June 2006, Gates announced that he would be transitioning from full-time work at Microsoft to part-time work, and full-time work at the Bill & Melinda Gates Foundation. He gradually transferred his duties to Ray Ozzie, chief software architect and Craig Mundie, chief research and strategy officer. Ozzie later left the company. Gates's last full-time day at Microsoft was June 27, 2008. He stepped down as Chairman of Microsoft in February 2014, taking on a new post as technology advisor to support newly appointed CEO Satya Nadella.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิลเลียมเฮนรี่ "บิล" เกตส์ที่สาม (เกิด 28 ตุลาคม 1955) เป็นเจ้าสัวธุรกิจอเมริกันใจบุญนักลงทุนและโปรแกรมคอมพิวเตอร์. [2] [3] ในปี 1975 เกตส์และพอลอัลเลนผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ซึ่งกลายเป็นของโลก บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ในอาชีพของเขาที่ไมโครซอฟท์เกตส์ดำรงตำแหน่งประธานซีอีโอและหัวหน้าสถาปนิกซอฟต์แวร์และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของแต่ละบุคคลจนถึงเดือนพฤษภาคม 2014 [4] [เป็น] เกตส์ได้ประพันธ์และร่วมประพันธ์หนังสือหลายเล่ม. เริ่มต้นในปี 1987 เกตส์ ถูกรวมอยู่ในรายการ Forbes ของคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก [7] และเป็นที่ร่ำรวย 1995-2007 อีกครั้งในปี 2009 และได้รับตั้งแต่ปี 2014 [8] ระหว่างปี 2009 และปี 2014 ความมั่งคั่งของเขาสองเท่าจากสหรัฐ 40000000000 $ ให้มากขึ้น กว่า US $ 82000000000. [9] ระหว่างปี 2013 และปี 2014 ความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้น US $ 15000000000. [10] เกตส์ในปัจจุบันคือคนที่รวยที่สุดในโลก. [11] เกตส์เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่รู้จักกันดีของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การปฏิวัติ เกตส์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กลยุทธ์ทางธุรกิจของเขาซึ่งได้รับการพิจารณาต่อต้านการแข่งขัน, ความเห็นที่มีในบางกรณีรับการรักษาโดยการวินิจฉัยของศาลจำนวนมาก. [12] [13] ต่อมาในอาชีพของเขาเกตส์ไล่ตามจำนวนของความพยายามการกุศลที่บริจาค เงินจำนวนมากให้กับองค์กรการกุศลต่างๆและโปรแกรมการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ผ่าน Bill & Melinda Gates Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ประตูก้าวลงมาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมโครซอฟท์ในเดือนมกราคมปี 2000 เขายังคงเป็นประธานกรรมการและสร้างตำแหน่งของหัวหน้าสถาปนิกซอฟต์แวร์สำหรับ ตัวเอง ในเดือนมิถุนายนปี 2006 เกตส์ประกาศว่าเขาจะได้รับการเปลี่ยนจากการทำงานเต็มเวลาที่ไมโครซอฟท์ในการทำงานนอกเวลาและการทำงานเต็มเวลาที่ Bill & Melinda Gates Foundation เขาค่อยๆโอนหน้าที่ของเขาที่จะ Ray Ozzie, หัวหน้าสถาปนิกซอฟต์แวร์และเครกมันดี้วิจัยและหัวหน้าเจ้าหน้าที่กลยุทธ์ ชีวิตคู่ต่อมาออกจาก บริษัท เกตส์วันเต็มเวลาที่ผ่านมาไมโครซอฟท์เป็นวันที่ 27 มิถุนายน 2008 เขาก้าวลงมาเป็นประธานไมโครซอฟท์ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 ในการโพสต์ใหม่ในฐานะที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการแต่งตั้งใหม่ซีอีโอสัตยานาเดลลา