Abstract the Determinants of Mortal

Abstract the Determinants of Mortality
Mortality rates have fallen dramatically over time, starting in a few countries in the 18th century, and continuing to fall today. In just the past century, life expectancy has increased by over 30 years. At the same time, mortality rates remain much higher in poor countries, with a difference in life expectancy between rich and poor countries of also about 30 years. This difference persists despite the remarkable progress in health improvement in the last half century, at least until the HIV/AIDS pandemic. In the closing decades of the nineteenth century and into the twentieth, the second phase occurred, in which public health mattered more—first negatively, because of high mortality in cities, then positively in the delivery of clean water, removal of wastes, and advice about personal health practices. The third phase, dating from the 1930s on, has been the era of big medicine, starting with vaccination and antibiotics, and moving on to the expensive and intensive personal interventions that characterize the medical system today Is there a universal theory of mortality that can explain improvements over time, differences across countries, and differences across groups? The authors argue that "knowledge, science, and technology are the keys to any coherent explanation," perhaps controversially downplaying the role of income. As for the future, they predict that an acceleration in the production of new knowledge and treatments is likely to increase inequality in health outcomes in the short run, but the silver lining is that "help is on the way, not only for those who receive it first, but eventually for everyone."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นามธรรมดีเทอร์มิแนนต์ของการตาย อัตราการตายได้ลดลงอย่างมากตลอดเวลา เริ่มต้นในไม่กี่ประเทศในศตวรรษที่ 18 และเข้าอยู่วันนี้ เพียงช่วงศตวรรษ อายุขัยได้เพิ่มขึ้นกว่า 30 ปี ในเวลาเดียวกัน อัตราการตายยังคงสูงในประเทศที่ยากจน มีความแตกต่างในอายุระหว่างประเทศรวย และคนจนยังประมาณ 30 ปี ความแตกต่างนี้ยังคงอยู่แม้ มีความก้าวหน้าโดดเด่นในการปรับปรุงสุขภาพในครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา น้อยจนระบาดเอดส์ ในทศวรรษปิด ของคริสต์ ศตวรรษที่ 19 และ เป็นที่ยี่สิบ ระยะสองเกิดขึ้น ในที่สาธารณ mattered มาก — แรกในเชิงลบ เนื่องจากอัตราการตายสูง ในเมือง แล้วบวก ในการส่งน้ำสะอาด กำจัดของเสีย และคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติสุขภาพส่วนบุคคล ระยะที่ 3 จากช่วงทศวรรษ 1930 และได้รับยุคของยาใหญ่ เริ่มต้น ด้วยการฉีดวัคซีนและยาปฏิชีวนะ เคลื่อนย้ายไปราคาแพง และเร่งรัดส่วนตัวแทรกแซงที่ระบบการแพทย์ปัจจุบันมี ทฤษฎีเป็นสากลของการตายที่สามารถอธิบายการปรับปรุง ต่างประเทศ และความแตกต่างระหว่างกลุ่ม ผู้เขียนยืนยันว่า "ความรู้ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเป็นคำอธิบายใด ๆ สอดคล้อง บทบาทของเงิน downplaying เพลงที สำหรับอนาคต ทำนายว่า การเร่งในการผลิตความรู้ใหม่และการรักษามีแนวโน้มที่จะเพิ่มความไม่เท่าเทียมกันในผลการตรวจสุขภาพในระยะสั้น แต่เป็นซับเงินว่า "ช่วยเป็นทาง ไม่เพียงแต่ สำหรับผู้ที่ได้รับครั้งแรก แต่ในที่สุด สำหรับทุกคน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อปัจจัยของการตาย
อัตราการตายได้ลดลงอย่างมากในช่วงเวลาเริ่มต้นในไม่กี่ประเทศในศตวรรษที่ 18 และการศึกษาที่จะตกอยู่ในวันนี้ ในเวลาเพียงศตวรรษที่ผ่านมาอายุขัยได้เพิ่มขึ้นกว่า 30 ปี ในขณะเดียวกันยังคงมีอัตราการตายสูงมากในประเทศยากจนที่มีความแตกต่างในอายุขัยระหว่างประเทศคนรวยและคนจนของยังประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา ความแตกต่างนี้ยังคงมีอยู่แม้จะมีความคืบหน้าในการปรับปรุงที่โดดเด่นด้านสุขภาพในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาอย่างน้อยก็จนกว่าเอชไอวี / โรคเอดส์ระบาด ในทศวรรษที่ผ่านมาปิดของศตวรรษที่สิบเก้าและเข้าไปในยี่สิบระยะที่สองที่เกิดขึ้นซึ่งในสุขภาพของประชาชนที่สำคัญมากขึ้นเป็นครั้งแรกในเชิงลบเพราะการตายสูงในเมืองแล้วในเชิงบวกในการส่งมอบน้ำสะอาดกำจัดของเสียและคำแนะนำ เกี่ยวกับการปฏิบัติสุขภาพส่วนบุคคล ขั้นตอนที่สามสืบมาจากช่วงทศวรรษที่ 1930 ที่ได้รับยุคของยาขนาดใหญ่ที่เริ่มต้นด้วยการฉีดวัคซีนและยาปฏิชีวนะและย้ายไปยังราคาแพงและเร่งรัดการแทรกแซงส่วนบุคคลที่เป็นลักษณะระบบการแพทย์ในวันนี้คือมีทฤษฎีสากลของการเสียชีวิตที่สามารถอธิบายได้ว่า การปรับปรุงในช่วงเวลาที่แตกต่างกันทั่วประเทศและความแตกต่างระหว่างกลุ่ม? ผู้เขียนยืนยันว่า "ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นกุญแจในการเชื่อมโยงกันคำอธิบายใด ๆ " บางทีคัล downplaying บทบาทของรายได้ สำหรับอนาคตที่พวกเขาคาดการณ์ว่าการเร่งความเร็วในการผลิตความรู้ใหม่และการรักษาที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความไม่เท่าเทียมกันในผลลัพธ์ด้านสุขภาพในระยะสั้น ๆ แต่ซับเงินนั่นคือ "ช่วยอยู่ในทางที่ไม่เพียง แต่สำหรับผู้ที่ได้รับ มันเป็นครั้งแรก แต่ในที่สุดสำหรับทุกคน. "