Return to secular music[edit]I hear

Return to secular music[edit]
I heard so much about the audience reaction, I thought there must be some exaggeration. But it was all true. He drove the whole house into a complete frenzy ... I couldn't believe the power of Little Richard onstage. He was amazing.

Mick Jagger[71]
In 1962, concert promoter Don Arden persuaded Little Richard to tour Europe after telling him his records were still selling well there. Arden booked him as the headline artist, with Sam Cooke second on the bill.[72] Little Richard performed gospel material at the first show and received a tepid response (Cooke did not open that show, as he was delayed in arriving). After Cooke opened the second show, with vigorous applause from the crowd, Little Richard and his organist Billy Preston warmed up in darkness before launching into "Long Tall Sally", resulting in hysterical responses. Little Richard's shows received similar responses wherever he performed, including a show at Mansfield's Granada Theatre, which closed early after fans rushed the stage.[73] Wanting to capitalize on these headline-grabbing performances, Brian Epstein, the manager of the Beatles, asked Little Richard and Arden to allow his newly recorded band to open for Little Richard on some tour dates, to which they agreed. The first show for which the Beatles opened was at New Brighton's Tower Ballroom that October.[74] The following month, they opened for Little Richard at the Star Club in Hamburg.[75] During this time, Little Richard advised the group on how to perform his songs and taught Paul McCartney his distinctive vocalizations.[75] Back in the U.S., Little Richard recorded six rock and roll songs with the Upsetters for Little Star Records, under the name "World Famous Upsetters", allowing him to keep his options open in the ministry.

Little Richard returned to the UK the following fall, with the Rolling Stones as openers.[76] At the end of that tour, he starred in his own special, The Little Richard Spectacular, for Granada Television. The special became a ratings success and was rebroadcast twice, after over 60,000 fan letters had been received. Footage of the special was shown around the world, highlighting the frenzy associated with rock and roll.[77] In 1964, Little Richard returned briefly to Specialty and recorded five songs, including the charted single, "Bama Lama Bama Loo", which reached the top 20 in the UK but only number 82 in the US.[78] Later that year, he signed with Vee-Jay Records and issued the album Little Richard Is Back. The album failed to catch on domestically, despite a televised performance of the single "Whole Lotta Shakin' Goin' On" on Shindig! that drew wild responses from audience members. By September 1964, Jimi Hendrix, known to Richard as Maurice James, had joined the Upsetters band, as a full member.[79][80] In December, Jimi and some '50s band members joined Richard in New York for a session of remakes. The most successful collaboration between Little Richard and Hendrix came in the following year, also in New York, when Hendrix, Billy Preston, and Little Richard recorded the soul ballad "I Don't Know What You've Got (But It's Got Me)", which became a number 12 R&B hit.[81][nb 1] Little Richard and Hendrix clashed over tardiness, wardrobe and Hendrix's stage antics, and as a result, in July 1965, Little Richard's brother Robert fired Hendrix.[83] That same year, Little Richard attempted to set up his own record label but only cut two unreleased tracks. Instead he signed with Modern Records, which resulted in a very agreeable string of rock and soul singles but yielded just one chart-maker, "Do You Feel It?". He left that label in early 1966 for Okeh Records. Okeh paired Little Richard musically with his friend from the mid-1950s, Larry Williams, who produced two albums for him in 1966 and 1967; the first being a studio album, The Explosive Little Richard, which generated the modest hit singles "Poor Dog" and "Commandments of Love", and the second, Little Richard's Greatest Hits: Recorded Live!, which returned him to the pop album charts for the first time in ten years and also hit number 28 on the Hot R&B LPs chart.[84][85][86] Williams also acted as the music director for Little Richard's live performances at the Okeh Club in Los Angeles amid the Okeh period, during which time the demand for Little Richard's appearances increased greatly.[87] Leaving Okeh in late 1967, Little Richard briefly recorded with Brunswick but left shortly after his final session.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กลับไปยังเพลงฆราวาส [แก้]ผมได้ยินมามากเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาของผู้ชม ผมคิดว่า ต้องมีบางพูด แต่มันเป็นความจริงทั้งหมด เขาขับรถทั้งบ้านเป็นความตื่นเต้นที่สมบูรณ์... ผมไม่เชื่อว่าพลังของลิตเติ้ลริชาร์ด onstage เขาก็ตื่นตาตื่นใจMick แจ็กเกอร์รับบท [71]ใน 1962 โปรโมเตอร์คอนเสิร์ต Don Arden เกลี้ยกล่อมน้อยริชาร์ดให้ทัวร์ยุโรปหลังเขาบอกเขาคอร์ดก็ยังคงขายดีมี Arden จองเขาเป็นศิลปินหัว กับแซมคุกสองจ่าย [72] ลิตเติ้ลริชาร์ดทำวัสดุกิตติคุณที่แรก และได้รับการตอบสนองไม่กระตือรือร้น (Cooke ไม่เปิดแสดงว่า เขาล่าช้าในการเดินทางมาถึง) หลังจาก Cooke เปิดแสดงสอง กับเสียงปรบมือที่แข็งแรงจากฝูงชน ลิตเติ้ลริชาร์ดและออร์แกนของเขาบิลลีเพรสตันอุ่นขึ้นในความมืดก่อนที่จะเปิดเป็น "ยาว Tall Sally" เป็นผลในการตอบสนอง hysterical ลิตเติ้ลริชาร์ดแสดงการตอบสนองคล้ายกับได้รับทุกที่ที่เขาดำเนินการ รวมทั้งการแสดงที่โรงละครกรานาดาของแมนส์ฟิลด์ ซึ่งปิดก่อนหลังจากที่แฟน ๆ วิ่งระยะ [73] ต้องการประโยชน์จากโลภหัวแสดงเหล่า ไบรอันเอ็ป ผู้จัดการของเดอะบีเทิลส์ ถามน้อยริชาร์ดและ Arden ให้วงของเขาเพิ่งบันทึกเปิดน้อยริชาร์ดวันบางทัวร์ ซึ่งพวกเขายอมรับ การแสดงครั้งแรกที่เปิดเดอะบีเทิลส์คือเวลาบินรัสเซียทาวเวอร์ห้องบอลรูมที่ตุลาคม [74] เดือนต่อไป พวกเขาเปิดสำหรับริชาร์ดน้อยที่คลับแห่งในฮัมบูร์ก [75] ในช่วงเวลานี้ ลิตเติ้ลริชาร์ดแนะนำกลุ่มในการทำเพลงของเขา และสอนพอลแม็กคาร์ตนีย์เปล่งเสียงที่โดดเด่นของเขา [75] ในสหรัฐอเมริกา ลิตเติ้ลริชาร์ดบันทึกหกร็อกแอนด์โรลเพลงกับ Upsetters สำหรับระเบียนดาวน้อย ภายใต้ชื่อ "โลกชื่อดัง Upsetters" อนุญาตให้เขาเพื่อให้เขาเลือกเปิดในกระทรวงลิตเติ้ลริชาร์ดกลับไปสหราชอาณาจักรฤดูใบไม้ร่วงต่อไปนี้ ด้วยหินกลิ้งเป็นเปิด [76] ในตอนท้ายของทัวร์นั้น เขาแสดงในพิเศษของเขาเอง เดอะลิตเติ้ลริชาร์ดงดงาม สำหรับโทรทัศน์กรานาดา พิเศษกลายเป็น ความสำเร็จของการจัดอันดับ และถูก rebroadcast สองครั้ง หลังจากได้รับจดหมายจากแฟนมากกว่า 60,000 ฟุตพิเศษถูกแสดงทั่วโลก เน้นบ้าที่เกี่ยวข้องกับร็อกแอนด์โรล [77] ในปี 1964 ริชาร์ดน้อยกลับไปที่พิเศษ และบันทึกเพลงห้า รวมเดี่ยวภูมิ "ลามะปาร์มปาร์ม Loo" ซึ่งสูงสุดในสหราชอาณาจักรแต่เฉพาะตัวเลข 82 ในสหรัฐอเมริกา [78] ปี เขาลงกับเรกคอร์ด Vee-Jay และออกอัลบั้มน้อยริชาร์ดจะกลับ อัลบั้มไม่สามารถจับในประเทศ แม้ มีการแสดงรายการของเดียว"ทั้ง Lotta Shakin' Goin'" บน Shindig ที่วาดป่าการตอบสนองจากกลุ่มเป้าหมายสมาชิก โดย 1964 กันยายน Jimi Hendrix ริชาร์ดเป็นเจมส์มอริส ที่รู้จักกันได้เข้าร่วมวง Upsetters เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ [79] [80] ในเดือนธันวาคม Jimi และสมาชิกวง ' 50s ร่วมริชาร์ดในนิวยอร์กสำหรับเซสชันของ remakes ความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จระหว่างน้อยริชาร์ดและ Hendrix มาในปีต่อไปนี้ ในนิวยอร์ก เมื่อ Hendrix บิลลี่เพรสตัน ลิตเติ้ลริชาร์ดบันทึกบทกวีจิตวิญญาณ "ไม่ทราบว่าคุณได้ (แต่จะได้มีฉัน) ", ซึ่งกลายเป็นเลข 12 R & B ตี [81] [nb 1] น้อยริชาร์ดและ Hendrix clashed เชื่องช้า ตู้เสื้อผ้า และการแสดงตลกเวทีของ Hendrix และผล ใน 1965 กรกฎาคม พี่น้อยริชาร์ดโรเบิร์ตยิง Hendrix [83] ปีเดียวกัน ริชาร์ดน้อยพยายามที่จะตั้งค่ายเพลงของตัวเอง แต่ตัดสองเพลงไม่เท่า นี้ แทนเขาเซ็นชื่อ ด้วยระเบียนสมัยใหม่ ในสายร็อคที่น่าพอใจมาก และจิตเดี่ยว แต่ให้ผลเพียงหนึ่งแผนภูมิ-maker "คุณ รู้สึกอย่างไรมัน" เขาซ้ายป้ายกำกับในช่วง 1966 สำหรับเรกคอร์ด Okeh Okeh คู่น้อยริชาร์ดไนท์คลับกับเพื่อนของเขาจากการช่วงกลางปี 1950, Larry วิลเลียมส์ ผู้ผลิตอัลบั้มสองเขาใน 1966 และ 1967 แรก เป็นสตูดิโออัลบั้ม การระเบิดลิตเติ้ลริชาร์ด ที่สร้างตีเจียมเนื้อเจียมตัวซิงเกิล "สุนัขที่ไม่ดี" และ "บัญญัติรัก" และครั้งที่ สอง ลิตเติ้ลริชาร์ดที่ยิ่งใหญ่: บันทึก Live !, ซึ่งส่งกลับเขาชาร์ตอัลบั้มป๊อปครั้งแรกในสิบปี และยัง ตีเลข 28 แผนภูมิร้อน R & B LPs [84] [85] [86] วิลเลียมส์ยังดำเนินการเป็นผู้อำนวยเพลงของริชาร์ดน้อยแสดงสด Okeh คลับใน Los Angeles ท่ามกลางงวด Okeh ในระหว่างที่เวลาความต้องการปรากฏตัวของริชาร์ดน้อยเพิ่มขึ้นมาก [87] ออกจาก Okeh ในปลายปี 1967 ลิตเติ้ลริชาร์ดสั้น ๆ บันทึก ด้วยบรันสวิคแต่ซ้ายไม่นานหลังจากช่วงสุดท้ายของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ย้อนกลับไปยังโลกดนตรี [แก้ไข]
ผมได้ยินมามากเกี่ยวกับปฏิกิริยาของผู้ชมที่ผมคิดว่าจะต้องมีการพูดเกินจริงบางอย่าง แต่มันก็เป็นความจริงทุกประการ เขาขับรถบ้านทั้งหมดเป็นความตื่นเต้นที่สมบูรณ์ ... ฉันไม่อยากจะเชื่ออำนาจของลิตเติ้ลริชาร์ดบนเวที เขาเป็นคนที่น่าตื่นตาตื่นใจ.

มิคแจ็คเกอร์ [71]
ในปี 1962 คอนเสิร์ตก่อการดอนอาร์เดนชักชวนลิตเติ้ลริชาร์ดที่จะทัวร์ยุโรปหลังจากเขาบอกว่าบันทึกของเขาก็ยังคงขายดีมี อาร์เดนจองเขาเป็นศิลปินที่พาดหัว, กับแซม Cooke ที่สองเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงิน. [72] ลิตเติ้ลริชาร์ดดำเนินการวัสดุพระกิตติคุณที่แสดงเป็นครั้งแรกและได้รับการตอบอุ่น (Cooke ไม่ได้เปิดแสดงให้เห็นว่าขณะที่เขากำลังเดินทางมาถึงล่าช้า) หลังจาก Cooke เปิดโชว์ครั้งที่สองด้วยเสียงปรบมือแข็งแรงจากฝูงชน, ลิตเติ้ลริชาร์ดและออแกนของเขาบิลลีเพรสตันอุ่นขึ้นในความมืดก่อนที่จะเปิดเข้า "สูงนานแซลลี" ที่มีผลในการตอบสนองตีโพยตีพาย แสดงให้เห็นว่าลิตเติ้ลริชาร์ดรับการตอบรับที่คล้ายกันทุกครั้งที่เขาดำเนินการรวมทั้งการแสดงที่แมนส์กรานาดาเธียเตอร์ซึ่งปิดช่วงต้นหลังจากที่แฟน ๆ รีบเวที. [73] ต้องการที่จะลงทุนในการแสดงเหล่านี้พาดหัวโลภไบรอันเอพสเตผู้จัดการของบีทเทิลถามลิตเติ้ลริชาร์ดอาร์เดนที่จะอนุญาตให้วงดนตรีที่บันทึกใหม่ของเขาที่จะเปิดให้ลิตเติ้ลริชาร์ดในวันที่ทัวร์บางที่พวกเขาตกลงกัน การแสดงครั้งแรกที่บีทเทิลเปิดอยู่ที่ใหม่ของไบรตันทาวเวอร์ห้องบอลรูมเดือนตุลาคม. [74] เดือนต่อมาพวกเขาเปิดสำหรับ Little ริชาร์ดที่คลับดาวในฮัมบูร์ก. [75] ในช่วงเวลานี้ริชาร์ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คำแนะนำกลุ่มเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการเพลงของเขาและสอน Paul McCartney เปล่งเสียงที่โดดเด่นของเขา. [75] ย้อนกลับไปในสหรัฐอเมริกา, ลิตเติ้ลริชาร์ดบันทึกหกร็อกแอนด์โรลเพลงกับ Upsetters สำหรับดาวน้อยประวัติภายใต้ชื่อ "World Famous Upsetters" ปล่อยให้เขาเพื่อให้ตัวเลือกของเขาเปิดในกระทรวง.

ลิตเติ้ลริชาร์ดกลับไปอังกฤษฤดูใบไม้ร่วงต่อไปนี้ กับโรลลิงสโตนเป็น openers. [76] ในตอนท้ายของการท่องเที่ยวที่เขาแสดงในภาพยนตร์พิเศษของตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ ริชาร์ดที่งดงามสำหรับกรานาดาโทรทัศน์ พิเศษกลายเป็นความสำเร็จและได้รับการจัดอันดับ rebroadcast ครั้งที่สองหลังจากที่มากกว่า 60,000 ตัวอักษรแฟนได้รับการตอบรับ ภาพของพิเศษก็แสดงให้เห็นทั่วโลกเน้นความตื่นเต้นที่เกี่ยวข้องกับร็อกแอนด์โรล. [77] ในปี 1964, ลิตเติ้ลริชาร์ดกลับไปพิเศษและบันทึกห้าเพลงรวมถึงสถานที่เกิดเหตุเดียว "Bama มะ Bama Loo" ถึง 20 อันดับแรกในสหราชอาณาจักร แต่เพียงจำนวน 82 ในสหรัฐอเมริกา. [78] ต่อมาในปีที่เขาเซ็นสัญญากับวีเจประวัติและออกอัลบั้มลิตเติ้ลริชาร์ดกลับ อัลบั้มล้มเหลวที่จะจับในประเทศแม้จะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของประสิทธิภาพการทำงานคนเดียว "Whole Lotta เช็กกิน Goin 'On" ที่ตั้งแยะ! ที่ดึงการตอบสนองของป่าจากสมาชิกผู้ชม โดยเดือนกันยายนปี 1964 Jimi Hendrix ที่รู้จักกันเป็นริชาร์ด Maurice เจมส์ได้เข้าร่วมวง Upsetters เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ. [79] [80] ในเดือนธันวาคม Jimi และบาง '50s สมาชิกวงเข้าร่วมริชาร์ดในนิวยอร์กเซสชั่นของ remakes ความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดระหว่างลิตเติ้ลริชาร์ดเฮนดริกมาในปีต่อไปนอกจากนี้ในนิวยอร์กเมื่อเฮนดริกบิลลี่เพรสตันและลิตเติ้ลริชาร์ดบันทึกเพลงจิตวิญญาณ "ผมไม่ทราบว่าสิ่งที่คุณมี ( แต่ก็ Got Me) "ซึ่งกลายเป็นเลขที่ 12 อาร์แอนด์บียอดฮิต. [81] [nb 1] ลิตเติ้ลริชาร์ดเฮนดริกปะทะกันมากกว่าเชื่องช้าตู้เสื้อผ้าและเฮนดริกของการแสดงตลกเวทีและเป็นผลให้ในเดือนกรกฎาคมปี 1965 น้องชายริชาร์ดโรเบิร์ตยิงนดริกซ์. [83] ในปีเดียวกันนั้นลิตเติ้ลริชาร์ดพยายามที่จะตั้งค่าการบันทึกชื่อของเขาเอง แต่เพียงตัดสองอาคิโอะ แต่เขาเซ็นสัญญากับประวัติที่ทันสมัยซึ่งส่งผลให้สตริงที่น่าพอใจมากของหินและจิตวิญญาณของซิงเกิ้ล แต่ให้ผลเพียงหนึ่งแผนภูมิชง "คุณรู้สึกว่ามัน?" เขาออกจากฉลากว่าในช่วงต้น 1966 สำหรับรับทราบประวัติ รับทราบการจับคู่ลิตเติ้ลริชาร์ดดนตรีกับเพื่อนของเขาจากกลางทศวรรษ 1950 แลร์รี่วิลเลียมส์ผู้ผลิตอัลบั้มสองสำหรับเขาในปี 1966 และ 1967; แรกเป็นสตูดิโออัลบั้ม, ระเบิดลิตเติลริชาร์ดซึ่งสร้างเจียมเนื้อเจียมตัวตีซิงเกิ้ล "หมาที่น่าสงสาร" และ "ประการของความรัก" และที่สอง, ลิตเติ้ลริชาร์ดสุดฮิต: บันทึกสด !, ซึ่งส่งเขากลับไปชาร์ตอัลบั้มป๊อป เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีและยังตีหมายเลข 28 บนชาร์ต Hot R & B ซีรี่ส์. [84] [85] [86] วิลเลียมส์ยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเพลงสำหรับการแสดงสดลิตเติ้ลริชาร์ดที่รับทราบคลับใน Los Angeles ท่ามกลางช่วงเวลาที่รับทราบในช่วงเวลาที่ความต้องการสำหรับการปรากฏตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของริชาร์ดเพิ่มขึ้นอย่างมาก. [87] ออกจากรับทราบในช่วงปลายปี 1967 ริชาร์ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บันทึกไว้ในเวลาสั้น ๆ กับบรันสวิก แต่ไม่นานหลังจากที่เซสชั่นสุดท้ายของเขา