Client-ServerThe personal computer

Client-Server
The personal computer originally was used as a stand-alone computing device. A program was installed
on the computer and then used to do word processing or number crunching. However, with the advent
of networking and local area networks, computers could work together to solve problems. Higher-end
computers were installed as servers, and users on the local network could run applications and share
information among departments and organizations. This is called client-server computing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์ตัวเดิมใช้เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบสแตนด์อโลน ติดตั้งโปรแกรมใช้คอมพิวเตอร์ และใช้ทำการประมวลผลคำหรือ crunching หมายเลข อย่างไรก็ตาม กับการถือกำเนิดระบบเครือข่ายและเครือข่ายท้องถิ่น คอมพิวเตอร์สามารถทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหา สูงสุดคอมพิวเตอร์ถูกติดตั้งเป็นเซิร์ฟเวอร์ และผู้ใช้บนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเรียกใช้โปรแกรมประยุกต์ และใช้ร่วมกันข้อมูลระหว่างหน่วยงานและองค์กร นี้จะเรียกว่าไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แต่เดิมใช้เป็นแบบสแตนด์อะโลนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โปรแกรมที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์และนำไปใช้ในการทำการประมวลผลคำหรือหมายเลขกระทืบ แต่ด้วยการถือกำเนิดของเครือข่ายและระบบเครือข่ายท้องถิ่นคอมพิวเตอร์สามารถทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหา ปลายสูงคอมพิวเตอร์มีการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์และผู้ใช้ในเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเรียกใช้โปรแกรมและแบ่งปันข้อมูลระหว่างหน่วยงานและองค์กร นี้เรียกว่าคอมพิวเตอร์ไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไคลเอ็นต์เซิร์ฟเวอร์
คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แต่เดิมใช้เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบสแตนด์อโลน โปรแกรมถูกติดตั้ง
ในคอมพิวเตอร์แล้วทำการประมวลผลคำหรือกระทืบจำนวน . อย่างไรก็ตาม ด้วยการมาถึง
เครือข่ายและเครือข่ายท้องถิ่น , คอมพิวเตอร์สามารถทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหา ที่สูงสิ้นสุด
คอมพิวเตอร์ติดตั้งเซิร์ฟเวอร์และผู้ใช้ในเครือข่ายสามารถเรียกใช้โปรแกรมประยุกต์และข้อมูลที่แบ่งปัน
ระหว่างแผนก และองค์กร นี้เรียกว่าไคลเอ็นต์เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์