เภสัชกร อาชีพนี้คือ อาชีพที่ฉันใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กทั้งๆที่ฉันรู้ว่าการเป็นเภสัชกรนั้นต้องเรียนหนักใกล้เคียงกับการเป็นหมอต้องใช้ความรู้,ความเข้าใจและทักษะทางด้นเคมีเป็นอย่างมาก และที่ยากไปกว่านั้นคือสาขาวิชาเภสัชศาสตร์ต้องใช้เวลานานถึง 6 ปี แต่ฉันก็ยังคิดที่จะยังอยากเป็นเภสัชกรเพราะฉันรักในอาชีพนี้ ฉันคิดว่าความรู้และทักษะต่างๆที่ฉันมีสามารถพัฒนาศักยภาพทำให้ฉันเป็นเภสัชกรที่เก่งและดีได้ ดังนั้นฉันจะพูดถึงสิ่งสำคัญที่ทำให้ฉันยึดมั่นในการที่จะเป็นเภสัชกรซึ่งมีทั้งด้านประสบการในชีวิตของฉัน,ความสามารถและบุคคลที่มีอิทธิพลในการที่ทำให้ฉันอยากเป็นเภสัชกร
ประสบการณ์ในชีวิตของฉัน ฉันเป็นคนที่สนใจด้านการเรียนมาตั้งแต่เด็กและชอบขวนขวายหาความรู้อยู่ตลอดเวลา พ่อแม่ของฉันจะคอยสอนและบอกฉันอยู่เสมอว่าการที่เราจะมีอนาคตที่ดีได้นั้นเราจะต้องมีพื้นฐานทางการศึกษาที่ก่อน ฉันเชื่อในคำพูดนี้ตลอดมา ดังนั้นฉันจึงตั้งใจที่จะเรียนสูงๆและเรียนในคณะดีๆและคณะที่ฉันคิดว่าเหมาะสมกับฉันคือ การเป็นเภสัชกร ซึ่งตั้งแต่เด็กฉันมีโอกาสได้สัมผัสกับยาเพราะบ้านน้าของฉันเปิดร้านขายยาเวชภัณฑ์และแม่ก็ชอบพาฉันไปเที่ยวบ้านน้าอยู่บ่อยๆ ซึ่งฉันจะคอยถามน้าอยู่เสมอว่าคุณสมบัติของยาแต่ละตัวใช้รักษาโรคเกี่ยวกับอะไรบ้าง พอฉันโตพอที่ฉันจะพอช่วยน้าขายยาได้ แม่ก็ให้ฉันมาช่วยน้าขายยา มันทำให้ฉันรู้สึกชอบในอาชีพการเป็นเภสัชกรมากขึ้น และฉันรู้สึกว่าอาชีพเภสัชกรก็เป็นหมออีกอาชีพหนึ่งแต่เพียงเป็นหมอทางด้านการใช้ยา เพราะบุคคลที่มาซื้อยาก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ป่วยที่ไม่อยากไปโรงพยาบาลเพราะกลัวเสียเวลา ดังนั้นเราในฐานะหมอยาก็ต้องจัดยาให้ผู้ป่วยเพื่อที่จะให้เค้าได้หายจากอาการป่วยให้ได้ โดยที่ทำให้ผู้ป่วยคิดว่าการมาหาเภสัชกรนั้นไม่ทำให้เค้าผิดหวัง
และประสบการณ์พื้นฐานของฉันที่นอกเหนือจากนั้นคือ เมื่อตอนฉันเรียนมัธยมต้นฉันมีโอกาสได้ไปแข่งขันทักษะทางด้านวิชาการในสาขาวิชาเคมี เป็นการแข่งขันที่ต้องใช้ความรู้และความ
สามารถทางด้านวิชาเคมีสูงมากเพราบุคลลที่มาแข่งขันล้วนเป็นนักเรียนเก่งๆจากโรงเรียนประจำจังหวัด มันทำให้ฉันรู้สึกกลัวแต่ฉันก็มั่นใจว่าหากฉันมีความตั้งใจและความพยายามฉันก็สามารถที่จะเอาชนะผู้เข้าร่วมแข่งขันกับฉันได้ และผลการแข่งขันที่ออกมาฉันได้รับรางวัลชนะเลิศซึ่งมันเป็นเครื่องยืนยันว่าฉันเหมาะที่จะเป็นบุคลากรด้านเภสัชกรจริงๆเพราะเภสัชกรต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับวิชาเคมีสูงมาก หลังจากนั้นโรงเรียนก็ส่งฉันไปแข่งขันทักษะทางด้านวิชาเคมีเรื่อยมาและฉันก็ได้รับรางวัลมากมายมันทำให้ฉันมั่นใจขึ้นในการที่จะประกอบอาชีพเป็นเภสัชกร
สุดท้ายบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ฉันอยากเป็นเภสัชกรอย่างจริงจังคือน้าของฉัน เพราะตอนที่ฉันได้ไปช่วยน้าขายยานั้น น้าจะเป็นคนที่คอยบอกและสอนฉันอยู่เสมอว่าการเป็นเภสัชกรที่ดีนั้นต้องรักและซื่อสัตย์ต่อผู้ป่วยที่มาซื้อยาต้องจ่ายยาที่ถูกต้องตามอาการใก้กับผู้ป่วยและราคาของยาก็ต้องมีความยุติธรรม หากเราทำได้อย่างนี้เราก็จะเป็นเภสัชกรที่ดีได้ ดังนั้นฉันจึงคิดว่าฉันจะต้องเป็นเภสัชกรที่ดีอย่างน้าให้ได้เพราะน้าคือต้นแบบเภสัชกรที่ดีของฉัน
สรุปสิ่งสำคัญหรือเหตุปัจจัยที่ทำให้ฉันอยากเป็นเภสัชกรนั้นมีมากมายจากการที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น มีทั้งประสบการณ์จากการที่ไปช่วยน้าขายยาซึ่งมันทำให้ฉันได้รับความรู้เกี่ยวกับการเป็นเภสัชกรมากขึ้น และน้าของฉันก็คือต้นแบบในการเป็นเภสัชกรที่ดีของฉันทำให้ฉันมุ่งมั่นที่จะเลือกศึกษาต่อในด้านคณะเภสัชศาสตร์มากขึ้น และจากประสบการณ์และพื้นฐานที่ฉันมีตอนมัธยมมันทำให้ฉันมั่นใจได้ว่าฉันสามารถพํฒนาศักยภาพของฉันให้เป็นเภสัชกรที่เก่งและดีได้ในอนาคต