UNDERSTANDING OF STATISTICAL THINKI

UNDERSTANDING OF STATISTICAL THINKING 33
this ability to use statistical thinking without data as follows: “the uniqueness of
statistical thinking is that it consists of thought processes rather than numerical
techniques. These thought processes affect how people take in, process, and react to
information.”
Tversky and Kahneman’s insights about how regression to the mean affects
people’s beliefs about the effects of reward and punishment are widely promulgated
in quality management as part of “understanding the theory of variation.” The
setting used to illustrate this is typically the reactions of sales managers to the highs
and lows in sales figures of their staff. According to Joiner and Gaudard (1990),
many managers fail to recognize, interpret, and react appropriately to variation over
time in employee performance data. These statisticians are attempting to get
managers to understand that looking at single time-interval changes and meting out
praise and censure is not conducive to improving performance. The way to improve
performance is to make some system change that will increase the average level of
performance. Managers need to recognize that there will always be variation, and
that unless there is a system change there will be regression to the mean. This
suggests that managers are being asked to take on a world view that allows for
indeterminism.
Statistical thinking in quality management is now seen not only as necessary for
gleaning information from data but also as a way of perceiving the world reality.
From quality management we learn that statistical thinking is, first and foremost,
about thought processes that consider variation, about seeking explanations to
explain the variation, about recognizing the need for data to guide actions, and about
reasoning with data by thinking about the system or process as a whole. Implicit in
their concepts about variation is that system (not people or individual) causal
thinking is paramount. Once the type of variation has been categorized as specialcause
or common-cause, then there are appropriate strategies for identifying the
causes of that variation. The quality management thinking approach is not to leave
variation to chance, but to reduce it in an attempt to improve processes and
performance.
Some Contributions from Statistics Education Researchers
The quality management approach to statistical thinking arose from the
confluence of a focus on empirical data and the need to improve processes. In
contrast, the statistics education field tended to have its origins in mathematics
education and in a deductive rather than inductive culture.
Statistics education research emerged in the late 1970s and focused mainly on
probability (e.g., Fischbein, 1975; Tversky & Kahneman, 1982). It has really only
been in the last decade that statistical thinking has begun to be addressed. We will
now discuss some of these developments.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถิติคิด 33ความสามารถในการใช้ความคิดทางสถิติ โดยไม่มีข้อมูลดังนี้: "เอกลักษณ์ของสถิติคิดเป็นประกอบ ของกระบวนการคิด มากกว่าตัวเลขเทคนิค เหล่านี้คิดว่า กระบวนการส่งผลต่อวิธีที่คนใช้ใน ประมวลผล และตอบสนองข้อมูล"ข้อมูลเชิงลึกของคาฮ์นะมันและทเวอร์เกี่ยวกับผลต่อการถดถอยการหมายถึงมีแพร่หลายและเนื่องจากความเชื่อของคนเกี่ยวกับผลกระทบของการให้รางวัลและลงโทษในการจัดการคุณภาพเป็นส่วนหนึ่งของ "การศึกษาทฤษฎีของการเปลี่ยนแปลง" การการตั้งค่าที่ใช้ในการแสดงนี้คือ ปฏิกิริยาของผู้จัดการฝ่ายขายสูงและต่ำในตัวเลขการขายของพนักงาน ช่างไม้และ Gaudard (1990),ผู้จัดการจำนวนมากไม่รู้จัก แปล และตอบสนองการเปลี่ยนแปลงอย่างเหมาะสมกว่าเวลาในข้อมูลประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน จิตวิทยาเหล่านี้พยายามที่จะได้รับการเข้าใจว่าการดูการเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาเดียวและรายงานการประชุมที่ออกสรรเสริญและวิจารณ์ไม่เอื้อต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพ วิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพคือการ ให้บางระบบที่เปลี่ยนแปลงที่จะเพิ่มระดับเฉลี่ยประสิทธิภาพการทำงาน ผู้จัดการต้องตระหนักว่า มีจะไม่เปลี่ยนแปลง และที่เว้นแต่จะมี การเปลี่ยนแปลงระบบมีจะถดถอยจะหมายถึง นี้แนะนำว่า ผู้จัดการถูกต้องใช้เวลาในมุมมองโลกที่ช่วยให้indeterminismตอนนี้เห็นไม่เฉพาะเท่าที่จำเป็นสำหรับการคิดสถิติในการจัดการคุณภาพgleaning ข้อมูล จากข้อมูล แต่ เป็นวิธีการรับรู้ความเป็นจริงของโลกจัดการคุณภาพจาก เราเรียนรู้ว่า สถิติคิดเป็น แรกเกี่ยวกับกระบวนการคิดที่พิจารณาเปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับการแสวงหาคำอธิบายอธิบายการเปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับการสังเกตต้อง การข้อมูลเพื่อแนะนำการดำเนินการ และทั้งหมดที่เกี่ยวกับใช้เหตุผลกับข้อมูล โดยการคิดเกี่ยวกับระบบหรือกระบวนการทั้งหมด นัยในแนวคิดของพวกเขาเกี่ยวกับรูปแบบเป็นระบบ (ไม่คนหรือบุคคล) สาเหตุที่คิดเป็นที่สุด เมื่อมีการแบ่งชนิดของการเปลี่ยนแปลงเป็น specialcauseหรือทั่วไปสาเหตุ แล้วมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับการระบุการสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงที่ แนวทางการคิดการจัดการคุณภาพจะไม่ปล่อยเปลี่ยนแปลง การโอกาส แต่ การลดในความพยายามที่ปรับปรุงกระบวนการ และประสิทธิภาพการทำงานบางอย่างมีส่วนร่วมจากนักวิจัยการศึกษาสถิติวิธีการจัดการคุณภาพการคิดสถิติที่เกิดขึ้นจากการจุดบรรจบของการเน้นข้อมูลเชิงประจักษ์และการปรับปรุงกระบวนการ ในความคมชัด ช่องการศึกษาสถิติมีแนวโน้มที่จะ มีต้นกำเนิดในคณิตศาสตร์การศึกษาและวัฒนธรรมพลาด แทนที่เหนี่ยวนำสถิติการศึกษาวิจัยมาในปลายทศวรรษ 1970 และได้เน้นความน่าเป็น (เช่น Fischbein, 1975 ผลงาน & Kahneman, 1982) มีจริง ๆ เท่านั้นในทศวรรษที่คิดทางสถิติได้เริ่มแก้ไขได้ เราจะตอนนี้ กล่าวถึงการพัฒนาเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทำความเข้าใจกับสถิติการคิด 33
ความสามารถในการใช้ความคิดที่ไม่มีข้อมูลทางสถิติดังนี้: "เอกลักษณ์ของ
ความคิดทางสถิติก็คือว่ามันประกอบด้วยกระบวนการคิดมากกว่าตัวเลข
เทคนิค กระบวนการคิดเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อวิธีการที่คนใช้เวลาในการประมวลผลและการตอบสนองต่อ
ข้อมูล. "
Tversky และข้อมูลเชิงลึก Kahneman เกี่ยวกับวิธีการถดถอยไปหมายถึงมีผลกระทบต่อ
ความเชื่อของผู้คนเกี่ยวกับผลกระทบของรางวัลและการลงโทษที่มีการประกาศใช้กันอย่างแพร่หลาย
ในการบริหารจัดการที่มีคุณภาพเป็นส่วนหนึ่งของ" การทำความเข้าใจทฤษฎี ของการเปลี่ยนแปลง. "การ
ตั้งค่าที่ใช้ในการแสดงนี้โดยทั่วไปจะมีปฏิกิริยาของผู้บริหารการขายให้กับความคิดฟุ้งซ่านที่
และต่ำในตัวเลขยอดขายของพนักงานของตน ตามที่ช่างไม้และ Gaudard (1990),
ผู้จัดการหลายคนไม่ได้รู้ตีความและตอบสนองอย่างเหมาะสมเพื่อการเปลี่ยนแปลงในช่วง
เวลาในข้อมูลประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน สถิติเหล่านี้กำลังพยายามที่จะได้รับ
ผู้จัดการที่จะเข้าใจว่ามองไปที่การเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาเดียวและ meting ออก
สรรเสริญและตำหนิไม่เอื้อต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน วิธีการปรับปรุง
ประสิทธิภาพการทำงานที่จะทำให้บางเปลี่ยนแปลงระบบที่จะเพิ่มระดับค่าเฉลี่ยของ
ผลการดำเนินงาน ผู้จัดการจำเป็นต้องรู้ว่ามีจะเป็นรูปแบบและ
ว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงระบบจะมีการถดถอยจะหมายถึง นี้
แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารจะถูกขอให้ใช้เวลาในมุมมองของโลกที่ช่วยให้การ
indeterminism.
ความคิดทางสถิติในการบริหารจัดการที่มีคุณภาพจะเห็นตอนนี้ไม่เพียง แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการ
เก็บตกข้อมูลจากข้อมูล แต่ยังเป็นวิธีการรับรู้ในความเป็นจริงโลก.
จากการจัดการที่มีคุณภาพเรา ได้เรียนรู้ว่าการคิดเชิงสถิติเป็นครั้งแรกและสำคัญที่สุด
เกี่ยวกับกระบวนการคิดที่พิจารณาการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการแสวงหาคำอธิบายที่จะ
อธิบายการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการตระหนักถึงความจำเป็นในการข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการและเกี่ยวกับ
เหตุผลที่มีข้อมูลโดยการคิดเกี่ยวกับระบบหรือกระบวนการที่เป็นทั้ง . นัยใน
แนวความคิดของพวกเขาเกี่ยวกับรูปแบบคือระบบ (ไม่ใช่คนหรือบุคคล) สาเหตุ
การคิดเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เมื่อประเภทของการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับการจัดหมวดหมู่เป็น specialcause
หรือทั่วไปสาเหตุนั้นมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับการระบุ
สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงที่ วิธีการคิดการจัดการที่มีคุณภาพไม่ได้ที่จะออกจาก
การเปลี่ยนแปลงที่จะมีโอกาส แต่เพื่อลดความมันในความพยายามที่จะปรับปรุงกระบวนการและ
ผลการดำเนินงาน.
ผลงานบางส่วนจากสถิติการศึกษาวิจัย
แนวทางการจัดการคุณภาพการคิดทางสถิติที่เกิดขึ้นจาก
การชุมนุมของมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลเชิงประจักษ์และ จำเป็นที่จะต้องปรับปรุงกระบวนการ ใน
ทางตรงกันข้ามข้อมูลสถิติการศึกษามีแนวโน้มที่จะมีต้นกำเนิดในคณิตศาสตร์
ศึกษาและในนิรนัยมากกว่าวัฒนธรรมอุปนัย.
การวิจัยการศึกษาสถิติโผล่ออกมาในช่วงปลายปี 1970 และส่วนใหญ่เน้น
ความน่าจะเป็น (เช่น Fischbein 1975; Tversky & Kahneman, 1982) . มันได้จริงๆเท่านั้น
รับในทศวรรษที่ผ่านมาว่าการคิดเชิงสถิติได้เริ่มที่จะได้รับการแก้ไข เราจะ
คุยบางส่วนของการพัฒนาเหล่านี้