HubsA hub is typically the least ex

Hubs
A hub is typically the least expensive, least intelligent, and least complicated of the three. Its job is very simple – anything that comes in one port is sent out to the others.
If a message1 comes in for computer “A”, that message is sent out all the other ports, regardless of which one computer “A” is on:

And when computer “A” responds, its response also goes out to every other port on the hub:

Every computer connected to the hub “sees” everything that every other computer on the hub sees. The computers themselves decide if they are the targeted recipient of the message and when a message should be paid attention to or not.
The hub itself is blissfully ignorant of the data being transmitted. For years, simple hubs have been quick and easy ways to connect computers in small networks.
Switches
A switch does essentially what a hub does, but more efficiently. By paying attention to the traffic that comes across it, it can “learn” where particular addresses are.
Initially, a switch knows nothing and simply sends on incoming messages to all ports:
Even accepting that first message, however, the switch has learned something – it knows on which connection the sender of the message is located. Thus, when machine “A” responds to the message, the switches only need to send that message out to the one connection:

In addition to sending the response through to the originator, the switch has now learned something else – it now knows on which connection machine “A” is located.
That means that subsequent messages destined for machine “A” need only be sent to that one port:
Switches learn the location of the devices that they are connected to almost instantaneously. The net result is that most network traffic only goes where it needs to rather than to every port. On busy networks, this can make the network significantly faster.
Routers
A router is the smartest and most complicated of the bunch. Routers come in all shapes and sizes – from the small, four-port broadband routers that are very popular right now to the large industrial strength devices that drive the internet itself.
A simple way to think of a router is as a computer that can be programmed to understand, possibly manipulate, and route the data that it’s being asked to handle. Many routers today are, in fact, little computers dedicated to the task of routing network traffic.
As far as simple traffic routing is concerned, a router operates exactly as a switch, learning the location of the computers on its connections and routing traffic only to those computers.
Consumer grade routers perform at minimum two additional and important
tasks: DHCP and NAT.
DHCP – Dynamic Host Configuration Protocol – is the way dynamic IP addresses are assigned. A device asks for an IP address to be assigned to it from “upstream” and a DHCP server responds with an IP address assignment. A router connected to your ISP-provided internet connection will typically ask your ISP’s server for an IP address; this will be your IP address on the internet. Your local computers, on the other hand, will ask the router for an IP address and these addresses are local to your network.

NAT – Network Address Translation – is the way that the router translates the IP addresses of packets that cross the internet/local network boundary. When computer “A” sends a packet out, the IP address that it’s “from” is that of computer “A” – 192.168.1.2 in the example above. When the router passes that on to the internet, it replaces the local IP address with the internet IP address assigned by the ISP. It also keeps track, so that if a response comes back from somewhere on the internet, the router knows to do the translation in reverse – replace the internet IP address with the local IP address for machine “A” and then send that response packet on to machine “A”.
A side effect of NAT is that machines on the internet cannot initiate communications to local machines – they can only respond to communications initiated by those local machines.
The net effect is that the router then also acts as a firewall:
What that means is that malware that might spread by trying to independently connect to your computer over the network cannot.
All routers include some kind of user interface for configuring how the router will treat traffic. The really large routers include the equivalent of a full-blown programming language to describe how they should operate as well as the ability to communicate with other routers to describe or determine the best way to get network traffic from point A to point B

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฮับฮับเป็นปกติอย่างน้อยราคาแพง อัจฉริยะน้อย ความซับซ้อนน้อยที่สุดสาม อะไรที่มีหนึ่งพอร์ตส่งออกกับคนอื่น ๆ ได้งานง่ายมากถ้าข้อความ 1 มาในคอมพิวเตอร์ "A" ข้อความที่ส่งพอร์ตทั้งหมดอื่น ๆ โดยไม่คำนึงถึงคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่ "A" เป็น:และเมื่อคอมพิวเตอร์ A"ตอบสนอง การตอบสนองยังออกไปให้ทุกพอร์ตอื่น ๆ ใน hub:คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกับฮับ "เห็น" ทุกอย่างที่เห็นทุกฝ่ายบนฮับ คอมพิวเตอร์ตัวเองตัดสินใจ ว่า มีผู้รับเป้าหมายของข้อความ และ เมื่อข้อความควรจะจ่ายให้ หรือไม่ฮับเองเป็นสุขสันต์ไม่รู้ข้อมูลที่ถูกส่ง ปี ฮับง่ายได้อย่างรวดเร็ว และวิธีง่าย ๆ ในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายขนาดเล็กสวิตช์สวิตช์ไม่เป็นหลักเป็นศูนย์กลางอะไร แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสนใจกับการจราจรที่มาผ่านมัน มันสามารถ "เรียนรู้" ที่อยู่เฉพาะตอนแรก สวิตช์ไม่ทราบ และก็ส่งบนข้อความขาเข้าทั้งหมดพอร์ต:อย่างไรก็ตาม แม้การยอมรับว่าข้อแรก สวิตช์ได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง – รู้ว่าเชื่อมต่อที่ผู้ส่งของข้อความที่มีอยู่ ดังนั้น เมื่อเครื่อง A"ตอบข้อ สวิตช์จะต้องส่งข้อความนั้นออกจากการเชื่อมต่อหนึ่ง: นอกเหนือจากการส่งการตอบสนองผ่านผู้ริเริ่ม การสลับตอนนี้ได้เรียนรู้สิ่งอื่น – ขณะนี้รู้ว่าเชื่อมต่อที่เครื่อง A"ที่มีอยู่นั่นหมายความ ว่า ข้อความถัดไปที่ destined สำหรับเครื่อง A"ต้องถูกส่งไปที่หนึ่งพอร์ต:สลับเรียนรู้ตำแหน่งของอุปกรณ์ที่พวกเขาเชื่อมต่อแทบจะทันที ผลสุทธิคือ ว่า ส่วนใหญ่เครือข่ายเฉพาะไปที่ต้องการ แทนทุกพอร์ต บนเครือข่ายไม่ว่าง นี้สามารถทำให้เครือข่ายได้เร็วมากขึ้นเราเตอร์เราเตอร์เป็นฉลาด และมีความซับซ้อนมากที่สุดของพวง เราเตอร์มาในทุกรูปแบบขนาดเล็ก สี่พอร์ตเราเตอร์บรอดแบนด์ที่เป็นที่นิยมมากขณะนี้กับความแรงของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อุปกรณ์ ไดรฟ์อินเทอร์เน็ตตัวเองวิธีง่าย ๆ ที่จะคิดว่า ของเราเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถตั้งโปรแกรมให้เข้าใจ อาจจะจัดการกับ และเส้นทางข้อมูลที่จะถูกถามในการจัดการ เราเตอร์หลายวันนี้มี ในความเป็นจริง ทุ่มเทให้กับงานการกำหนดเส้นทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์เล็ก ๆ น้อย ๆเป็นเส้นทางจราจรอย่างง่าย ๆ เป็นห่วง เราเตอร์ทำงานเหมือนเป็นสวิตช์ การเรียนรู้ที่ตั้งของคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อและการจราจรเส้นทางเฉพาะกับคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเราเตอร์เกรดผู้บริโภคดำเนินขั้นต่ำสองเพิ่มเติม และที่สำคัญงาน: DHCP และ nat ได้DHCP –ไดนามิกโฮสต์กำหนดค่าโพรโทคอล – เป็นวิธีถูกกำหนดที่อยู่ IP แบบไดนามิก อุปกรณ์ขอจากที่อยู่ IP ที่ถูกกำหนดจาก "ต้นน้ำ" และ DHCP เซิร์ฟเวอร์ตอบสนอง ด้วยการกำหนดที่อยู่ IP เราเตอร์ที่เชื่อมต่อกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ ISP จัดเตรียมให้โดยทั่วไปจะถามเซิร์ฟเวอร์ของ ISP ของคุณสำหรับที่อยู่ IP นี้จะเป็นอยู่ IP บนอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ท้องถิ่น คง จะขอเราเตอร์ที่อยู่ IP และที่อยู่เหล่านี้อยู่ภายในเครือข่ายของคุณ NAT –การแปลที่อยู่เครือข่าย – เป็นวิธีที่เราเตอร์แปลที่อยู่ IP ของแพคเก็ตที่ข้ามขอบเขตของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตภายในเครื่อง เมื่อคอมพิวเตอร์ "A ส่งแพคเก็ตข้อมูล ที่อยู่ IP ที่ได้จาก" เป็นของคอมพิวเตอร์ A 192.168.1.2 ในตัวอย่างข้างต้น เมื่อเราเตอร์ผ่านที่บนอินเทอร์เน็ต มันแทนอยู่ IP ภายในเครื่องกับอินเทอร์เน็ตที่อยู่ IP ที่กำหนด โดย ISP ช่วยติดตาม ดังนั้นถ้าการตอบสนองกลับมาจากที่ใดที่หนึ่งบนอินเทอร์เน็ต เราเตอร์รู้ทำคำแปลย้อนกลับ –อินเทอร์เน็ตแทนที่อยู่ IP ด้วย IP ภายในที่อยู่สำหรับเครื่อง A" และจากนั้น ส่งแพคเก็ตที่ตอบรับไปยังเครื่อง A"ผลข้างเคียงของ NAT คือ ว่า เครื่องบนอินเทอร์เน็ตไม่สามารถเริ่มต้นการสื่อสารเครื่องจักร – พวกเขาสามารถเท่านั้นที่ตอบสนองต่อการสื่อสารโดยเครื่องจักรท้องถิ่นผลสุทธิคือที่ เราเตอร์ แล้วยัง ทำหน้าที่เป็นไฟร์วอลล์:สิ่งที่หมายความ ว่า มัลแวร์ที่อาจแพร่กระจาย โดยพยายามที่จะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างอิสระในเครือข่าย ไม่เราเตอร์ทั้งหมดรวมถึงบางชนิดของอินเตอร์เฟซผู้ใช้สำหรับการกำหนดค่าเราเตอร์ว่าจะจัดการจราจร เราเตอร์ใหญ่รวมเทียบเท่ากับภาษาการเขียนโปรแกรมเต็มเป่าเพื่ออธิบายวิธีการที่พวกเขาควรจะทำงานตลอดจนความสามารถในการสื่อสารกับเราเตอร์อื่น ๆ เพื่ออธิบายถึง และกำหนดวิธีที่ดีที่สุดในการรับส่งข้อมูลเครือข่ายจากจุด A ไปจุด B

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฮับ
ฮับเป็นปกติอย่างน้อยราคาแพง, ฉลาดน้อยและน้อยที่มีความซับซ้อนของทั้งสาม งานของมันคือง่ายมาก - อะไรที่มาในพอร์ตหนึ่งคือการส่งออกไปยังคนอื่น ๆ .
ถ้า message1 มาในสำหรับคอมพิวเตอร์ "A", ข้อความที่ถูกส่งออกทุกพอร์ตอื่น ๆ โดยไม่คำนึงถึงคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง "A" ที่อยู่ใน :

และเมื่อคอมพิวเตอร์ "A" ตอบสนองต่อการตอบสนองยังออกไปทุกพอร์ตอื่นบนฮับ:

คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกับฮับ "เห็น" ทุกอย่างที่ทุกคอมพิวเตอร์อื่น ๆ บนฮับเห็น คอมพิวเตอร์ของตัวเองตัดสินใจว่าพวกเขาเป็นผู้รับกำหนดเป้าหมายของข้อความและเมื่อข้อความควรจะให้ความสนใจกับหรือไม่.
ฮับตัวเองเป็นสุขสันต์โง่เขลาของข้อมูลที่ถูกส่ง สำหรับปีฮับง่ายได้รับวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายขนาดเล็ก.
สวิทช์
สวิทช์ไม่หลักสิ่งที่เป็นศูนย์กลางไม่ แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยให้ความสนใจกับการจราจรที่ผ่านมามันก็สามารถ "เรียนรู้" ที่อยู่โดยเฉพาะมี.
ตอนแรกสวิทช์รู้อะไรและก็ส่งข้อความเข้ากับพอร์ตทั้งหมด:
แม้ยอมรับว่าข้อความแรกที่บางสิ่งบางอย่าง แต่สวิทช์ได้เรียนรู้ - มันรู้ที่เชื่อมต่อผู้ส่งข้อความตั้งอยู่ ดังนั้นเมื่อเครื่อง "A" ตอบสนองต่อข้อความสวิทช์จะต้องส่งข้อความที่ออกไปการเชื่อมต่อที่หนึ่ง:

นอกจากจะสามารถส่งการตอบสนองผ่านไปยังผู้ริเริ่มที่สวิทช์ได้เรียนรู้ในขณะนี้อย่างอื่น - มันตอนนี้รู้ที่ . การเชื่อมต่อเครื่อง "A" ตั้งอยู่
นั่นหมายความว่าข้อความที่ตามมา destined สำหรับเครื่อง "A" ต้องการเพียงถูกส่งไปยังที่หนึ่งพอร์ต:
สวิทช์เรียนรู้สถานที่ตั้งของอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อไปยังเกือบจะทันทีทันใด ผลสุทธิก็คือเครือข่ายการจราจรมากที่สุดเท่านั้นไปที่จะต้องมากกว่าทุกพอร์ต บนเครือข่ายไม่ว่างนี้จะทำให้เครือข่ายอย่างมีนัยสำคัญได้เร็วขึ้น.
เราเตอร์
เราเตอร์เป็นที่ฉลาดและมีความซับซ้อนมากที่สุดของพวง เราเตอร์มาในรูปทรงและขนาด -. จากขนาดเล็กบรอดแบนด์เราเตอร์สี่พอร์ตที่เป็นที่นิยมมากในขณะนี้กับอุปกรณ์ความแรงของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ขับรถอินเทอร์เน็ตเอง
วิธีง่ายๆในการคิดของเราเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถเป็น โปรแกรมที่จะเข้าใจอาจจะจัดการและเส้นทางข้อมูลที่ว่ามันถูกถามในการจัดการ เราเตอร์หลายคนในวันนี้ในความเป็นจริง, คอมพิวเตอร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทุ่มเทให้กับการทำงานของเครือข่ายการจราจรเส้นทาง.
เท่าที่การกำหนดเส้นทางการจราจรที่เรียบง่ายเป็นห่วงเราเตอร์ดำเนินการตรงตามที่สวิทช์, การเรียนรู้สถานที่ตั้งของเครื่องคอมพิวเตอร์ในการเชื่อมต่อและการกำหนดเส้นทางเฉพาะการเข้าชม . คอมพิวเตอร์เหล่านั้น
เราเตอร์เกรดผู้บริโภคดำเนินการอย่างน้อยสองเพิ่มเติมและที่สำคัญ
งาน:. DHCP และ NAT
DHCP - แบบไดนามิก Host Configuration Protocol - เป็นวิธีที่อยู่ IP แบบไดนามิกที่ได้รับมอบหมาย อุปกรณ์ที่จะขอที่อยู่ IP จะได้รับมอบหมายไปจาก "ต้นน้ำ" และเซิร์ฟเวอร์ DHCP ตอบสนองด้วยการกำหนดที่อยู่ IP เราเตอร์ที่เชื่อมต่อกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ISP ที่ให้คุณโดยทั่วไปจะขอให้เซิร์ฟเวอร์ของ ISP ของคุณที่อยู่ IP; นี้จะเป็นที่อยู่ IP ของคุณบนอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ท้องถิ่นของคุณในมืออื่น ๆ ที่จะขอให้เราเตอร์สำหรับที่อยู่ IP และที่อยู่เหล่านี้มีในท้องถิ่นเครือข่ายของคุณ.

NAT - Network Address Translation - เป็นวิธีการที่เราเตอร์แปลที่อยู่ IP ของแพ็คเก็ตที่ข้ามอินเทอร์เน็ต / ท้องถิ่น ขอบเขตของเครือข่าย เมื่อคอมพิวเตอร์ "A" ส่งแพ็คเก็ตออกที่อยู่ IP ว่ามันเป็น "จาก" เป็นที่ของคอมพิวเตอร์ "A" - 192.168.1.2 ในตัวอย่างข้างต้น เมื่อเราเตอร์ผ่านที่บนอินเทอร์เน็ตจะแทนที่ที่อยู่ในท้องถิ่นที่มีอยู่อินเทอร์เน็ต IP ได้รับมอบหมายจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังติดตามเพื่อที่ว่าถ้ามีการตอบสนองกลับมาจากที่ไหนสักแห่งบนอินเทอร์เน็ตมาเราเตอร์รู้ว่าจะทำอย่างไรการแปลในแบบย้อนกลับ - เปลี่ยนที่อยู่อินเทอร์เน็ต IP ที่มีอยู่ในท้องถิ่นสำหรับเครื่อง "A" และจากนั้นส่งที่ตอบสนองตบน . กับเครื่อง "A"
ผลข้างเคียงของ NAT คือว่าเครื่องบนอินเทอร์เน็ตไม่สามารถเริ่มต้นการสื่อสารไปยังเครื่องท้องถิ่น - พวกเขาเท่านั้นที่สามารถตอบสนองต่อการสื่อสารที่ริเริ่มโดยเครื่องท้องถิ่นเหล่านั้น.
ผลกระทบสุทธิเป็นว่าเราเตอร์แล้วยังทำหน้าที่เป็นไฟร์วอลล์:
สิ่งที่หมายถึงคือมัลแวร์ที่อาจแพร่กระจายโดยการพยายามที่จะเป็นอิสระเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณผ่านเครือข่ายไม่สามารถ.
เราเตอร์ทั้งหมดรวมถึงชนิดของอินเตอร์เฟซผู้ใช้บางส่วนสำหรับการกำหนดค่าวิธีการที่เราเตอร์จะรักษาอัตราการเข้าชม เราเตอร์ขนาดใหญ่จริงๆ ได้แก่ เทียบเท่าของภาษาโปรแกรมเต็มเป่าเพื่ออธิบายวิธีการที่พวกเขาควรจะดำเนินการเช่นเดียวกับความสามารถในการสื่อสารกับเราเตอร์อื่น ๆ เพื่ออธิบายหรือหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้รับการจราจรเครือข่ายจากจุด A ไปยังจุด B