pregnancy, 5.0 vs 2.3%, 95% CI (1.0

pregnancy, 5.0 vs 2.3%, 95% CI (1.03-5.09). Respiratory distress syndrome (RDS) and hypoglycemic remained as the main complication among babies of women with diabetes (Table 3). Babies of diabetic women on insulin had higher number of macrosomia, need for NICU admission with Apgar score less than 7 in 1 min, RDS and hypoglycaemia as compared to those on diet control (Table 4). Higher HbA1c was associated with higher rate of caesarean section, increased NICU admission, higher incidence of macrosomia and RDS (Table 5).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตั้งครรภ์ 5.0 กับ 2.3%, 95% CI (1.03-5.09) ทางเดินหายใจกลุ่มอาการทุกข์ (RDS) และยังคงเป็นภาวะแทรกซ้อนหลักระหว่างเด็กผู้หญิงกับโรคเบาหวาน (ตาราง 3) ②ฤทธิ์ลดน้ำตาล เด็กผู้หญิงที่เป็นโรคเบาหวานในอินซูลินมีของ macrosomia ต้องเข้า NICU มีน้อยกว่า 7 ใน 1 นาที RDS และ hypoglycaemia เมื่อเทียบกับผู้ที่ควบคุมอาหาร (ตาราง 4) คะแนน Apgar HbA1c สูงถูกเชื่อมโยงกับอัตราสูงคลอด เข้า NICU เพิ่มขึ้น สูงเกิด macrosomia และ RDS (ตาราง 5)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การตั้งครรภ์ 5.0 vs 2.3%, 95% CI (1.03-5.09) กลุ่มอาการของโรคระบบทางเดินหายใจความทุกข์ (RDS) และลดน้ำตาลในเลือดยังคงเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญในหมู่เด็กทารกของผู้หญิงที่เป็นโรคเบาหวาน (ตารางที่ 3) ทารกของผู้หญิงที่เป็นโรคเบาหวานในอินซูลินมีจำนวนที่สูงขึ้นของ macrosomia จำเป็นสำหรับการเข้า NICU กับ Apgar คะแนนน้อยกว่า 7 ใน 1 นาที, RDS และ hypoglycaemia เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ในการควบคุมอาหาร (ตารางที่ 4) HbA1c ในระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับอัตราที่สูงของซีซาร์ส่วนเพิ่มการรับเข้า NICU อุบัติการณ์สูงขึ้นของ macrosomia และ RDS (ตารางที่ 5)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การตั้งครรภ์ , 5.0 , 2.3% , 95% CI ( 1.03-5.09 ) กลุ่มอาการหายใจลำบาก ( RDS ) และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ยังคงเป็นหลัก ภาวะแทรกซ้อนของทารกของหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวาน ( ตารางที่ 3 ) ทารกของผู้หญิงโรคเบาหวานบนอินซูลินมีจำนวนที่สูงขึ้นของทารกตัวโต ต้องการให้อินโดนีเซียเข้าด้วยคะแนน Apgar น้อยกว่า 7 ใน 1 นาที , เด่น hypoglycaemia เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่ในอาหารควบคุม ( ตารางที่ 4 )ผลการศึกษาที่สูงขึ้นมีความสัมพันธ์กับอัตราการถ่ายเทความร้อนเพิ่มขึ้นเข้า ICU ที่สูง อุบัติการณ์ของทารกตัวโต และ RDS ( ตารางที่ 5 )