The aim of the study was to determi

The aim of the study was to determine factors affecting the short term retention of sealant provided by mobile dental clinics to Thai schoolchildren in the southern region of Thailand. The study was carried out in Songkhla from April 2008 to February 2009. The survey was conducted 6 months after the application of sealant. 347 teeth of 206 grade 1 schoolchildren were examined for retention of sealant. Retention of sealant was classified into two categories: full retention and loss of sealant retention. The respective percentages were 67.7 and 33.3. The result from logistic regression showed that significant factors affected the short term retention including the position of teeth (odds ratio = 2.10), the presence of assistance (odds ratio = 2.29) and the checking procedure after the application of sealant (odds ratio = 2.75). The improvement of sealant retention could be applied by reallocating dental manpower and sealant training to emphasize sealant checking procedure.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือการ ตรวจสอบปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรักษาระยะสั้นของกาวโดยคลินิกทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อนักเรียนไทยในภาคใต้ของประเทศไทย การศึกษาได้ดำเนินการในจังหวัดสงขลาจาก 2551 เมษายนถึง 2552 กุมภาพันธ์ การสำรวจดำเนินการ 6 เดือนหลังจากการประยุกต์ใช้ซีลแลนท์ 347 ฟันของนักเรียนเกรด 1 206 ถูก examined เพื่อรักษาซีลแลนท์ การเก็บรักษากาวถูกแบ่งเป็นสองประเภท: การเก็บรักษาและสูญเสียการเก็บรักษากาว 67.7 และ 33.3 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับได้ ผลจากการถดถอยโลจิสติกการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีผลกระทบการเก็บข้อมูลระยะสั้นรวมทั้งตำแหน่งของฟัน (อัตราต่อรอง = 2.10), การปรากฏตัวของความช่วยเหลือ (อัตราส่วนราคาต่อรอง = 2.29) และกระบวนการตรวจสอบหลังจากการประยุกต์ใช้ซีลแลนท์ (อัตราส่วนราคาต่อรอง = 2.75) การปรับปรุงการเก็บรักษากาวสามารถนำมาใช้ โดยปันทันตบุคลากรและฝึกอบรมจะเน้นขั้นตอนตรวจกาวกาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเก็บรักษาในระยะสั้นของการเคลือบหลุมร่องฟันให้โดยคลินิกทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อเด็กนักเรียนไทยในภาคใต้ของประเทศไทย การศึกษาได้ดำเนินการในจังหวัดสงขลาตั้งแต่เดือนเมษายน 2008 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2009 สำรวจได้ดำเนินการ 6 เดือนหลังจากการประยุกต์ใช้เคลือบหลุมร่องฟัน 347 ฟัน 206 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนมีการตรวจสอบสำหรับการเก็บรักษาเคลือบหลุมร่องฟัน การเก็บรักษาเคลือบหลุมร่องฟันถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท: การเก็บรักษาอย่างเต็มรูปแบบและการสูญเสียการยึดติด ร้อยละ 67.7 ตามลำดับและ 33.3 ผลที่ได้จากการถดถอยโลจิสติกแสดงให้เห็นว่าปัจจัยที่สำคัญได้รับผลกระทบการเก็บรักษาในระยะสั้นรวมถึงตำแหน่งของฟัน (odds ratio = 2.10) การปรากฏตัวของการให้ความช่วยเหลือ (odds ratio = 2.29) และขั้นตอนการตรวจสอบหลังจากการประยุกต์ใช้เคลือบหลุมร่องฟัน (อัตราส่วนราคาต่อรอง = 2.75 ) การปรับปรุงการยึดติดที่สามารถนำไปใช้โดยการจัดสรรกำลังคนทางทันตกรรมและการฝึกอบรมเคลือบหลุมร่องฟันที่จะเน้นการตรวจสอบขั้นตอนการเคลือบหลุมร่องฟัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือ เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเก็บรักษาระยะสั้นของเคลือบหลุมร่องฟันโดยคลินิกทันตกรรมเคลื่อนที่ เด็กนักเรียนไทยในภาคใต้ ได้ดำเนินการใน อ.หาดใหญ่ จ. สงขลา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2551 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 สำรวจ 6 เดือนหลังการใช้เคลือบหลุมร่องฟัน แต่ฟันของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อดูความคงทนของเคลือบหลุมร่องฟัน ความคงทนของวัสดุถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท : ความคงทนเต็มและการสูญเสียวัสดุในตัว ร้อยละ 67.7 ตามลำดับและมี 3 . ผลจากการถดถอยโลจิสติกพบว่าปัจจัยที่มีผลต่อการเก็บรักษาระยะสั้น รวมถึงตำแหน่งของฟัน ( Odds Ratio = 2.10 ) การปรากฏตัวของความช่วยเหลือ ( Odds Ratio = 2.29 ) และตรวจสอบขั้นตอนหลังจากการใช้เคลือบหลุมร่องฟัน ( Odds Ratio = 2.75 ) การปรับปรุงความคงทนของวัสดุสามารถใช้ reallocating กำลังคนและวัสดุทันตกรรม โดยการฝึกอบรมจะเน้นการตรวจสอบขั้นตอนการเคลือบหลุมร่องฟัน