แรกเริ่มเดิมทีชาวไทยวนนั้นมีถิ่นฐานอยู่ลุ่มแม่น้ำโขงตรงบริเวณที่เรียกว่าเมืองหรือเวียงโยนก คำว่าโยนกเป็นภาษาบาลีซึ่งมาจากคำว่า ยะนะ หรือเยนะ ฉะนั้นคนไทที่อาศัยอยู่เมืองโยนกจึงเรียกตัวเองว่า ไทโยนก หรือไทโยนะกะ หรือไทยวน เมืองโยนกในปัจจุบันคือเมืองเชียงแสนในจังหวัดเชียงราย ซึ่งก็นับได้ว่าเป็นถิ่นกำเนิดของชาวไทยวนทั้งหมด แต่ต่อมาก็ได้อพยพไปอยู่ตามภาคเหนือของไทย หรือบ้างก็ถูกพม่าจับเป็นเชลย พอถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงมีพระบัญชาให้พระยายมราชยกทัพหลวงไปร่วมกับหัวเมืองฝ่ายเหนือ เพื่อทำการกวาดล้างพม่าที่ยึดครองเมืองเชียงแสนอยู่ในขณะนั้นให้สิ้นซากไป หลังจากตีเมืองเชียงแสนได้สำเร็จแล้ว จึงได้ทำการเผาป้อมปราการและกำแพงเมืองทิ้งเสีย พร้อมกับกวาดต้อนผู้คนที่พม่าจับไว้เป็นเชลยซึ่งก็ได้แก่ชาวไทยวนจำนวนกว่า 2 หมื่นคนลงมาด้วย ในระหว่างนั้น ชาวไทยวนบางกลุ่มก็ขอไปตั้งถิ่นฐานใหม่อยู่ที่เชียงใหม่ น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ เช่น ไทยวนที่อำเภอลับแล ท่าปลา ตรอน เป็นต้น ส่วนที่อพยพลงมาทางใต้ตามทัพหลวงซึ่งนำโดยพระยายมราชนั้นก็เลือกมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ลุ่มแม่น้ำป่าสักในเขตอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี และอีกส่วนหนึ่งก็ลงไปถึงจังหวัดราชบุรีในปัจจุบัน
ชาวไทยวนที่อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ได้สืบเชื้อสายกันมากว่า 5 ชั่วคน และกระจายกันอยู่ตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัดสระบุรี เมื่อได้ทำการสืบสาวเรื่องราวความเป็นมาของชาวไทยวนจนแน่ชัดแล้ว