Soils containing significant quanti

Soils containing significant quantities of gypsum, which may interfere with plant growth, are defined as gypsiferous soils (FAO, 1990).
In the natural environment, gypsum can be transported by water or wind, be re-deposited at new locations forming individual gypsum dunes or it can be incorporated in the soil layer (FAO, 1990).
The main reason for gypsum accumulation in the soil is its precipitation from supersaturated underground or runoff waters, as a result of intensive evaporation. Gypsum is also formed in acidic sulfate soils (Dent, 1986).
In these soils, the origin of the sulfate ions is due to the oxidation of sulfur rich minerals such as pyrite.
Due to natural weathering and oxidation cycles, the sulfur in these minerals is transformed into sulfuric acid, causing calcareous soils to react with calcium carbonate forming gypsum (Dent, 1986 and FAO, 1990).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีกำหนดประกอบด้วยปริมาณสำคัญของยิปซัม ซึ่งอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ดินเนื้อปูนเป็นดินเนื้อปูน gypsiferous (FAO, 1990) ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ยิปซัมสามารถขนส่ง โดยน้ำหรือลม สามารถนำฝากใหม่ ณที่ตั้งใหม่เป็นยิปซัมละดันส์ หรือสามารถรวมอยู่ในดินชั้น (FAO, 1990) ได้ เหตุผลหลักสำหรับยิปซัมสะสมในดินของฝนจาก supersaturated ใต้ดินหรือไหลบ่าน้ำ จากการระเหยแบบเร่งรัดได้ ยิปซัมจะยังเกิดขึ้นในดินเนื้อปูนกรดซัลเฟต (เด็นท์ 1986) ในดินเนื้อปูนเหล่านี้ ต้นกำเนิดของประจุซัลเฟตมีเนื่องจากการเกิดออกซิเดชันของแร่ธาตุที่อุดมไปด้วยกำมะถันเช่น pyrite สภาพอากาศธรรมชาติและวงจรการเกิดออกซิเดชัน กำมะถันในแร่ธาตุเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นกรดกำมะถัน ดินเนื้อปูนจะทำปฏิกิริยากับแคลเซียมคาร์บอเนตขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม (เด็นท์ 1986 และ FAO, 1990) ที่ทำให้เกิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดินที่มีปริมาณที่มีนัยสำคัญของยิปซั่มซึ่งอาจรบกวนการเจริญเติบโตของพืชจะถูกกำหนดเป็นดิน gypsiferous (FAO, 1990).
ในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ, ยิปซั่มสามารถขนส่งโดยน้ำหรือลมจะฝากอีกครั้งในสถานที่ใหม่ก่อตัวขึ้นเนินทรายยิปซั่มของแต่ละบุคคล หรืออาจจะรวมอยู่ในชั้นดิน (FAO, 1990).
เหตุผลหลักสำหรับการสะสมยิปซั่มในดินที่มีการตกตะกอนจากอิ่มตัวใต้ดินหรือน้ำที่ไหลบ่ามาเป็นผลมาจากการระเหยเข้มข้น ยิปซั่มเป็นที่เกิดขึ้นยังอยู่ในดินที่เป็นกรดซัลเฟต (บุ๋ม 1986).
ในดินเหล่านี้ที่มาของไอออนซัลเฟตเป็นเพราะการเกิดออกซิเดชันของแร่ธาตุที่อุดมไปด้วยกำมะถันเช่นหนาแน่น.
เนื่องจากสภาพดินฟ้าอากาศธรรมชาติและรอบออกซิเดชันกำมะถันในแร่ธาตุเหล่านี้ จะกลายเป็นกรดซัลฟูริกที่ก่อให้เกิดดินเนื้อปูนที่จะทำปฏิกิริยากับแคลเซียมคาร์บอเนตอดีตยิปซั่ม (บุ๋มปี 1986 และ FAO, 1990)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดินที่มีปริมาณสําคัญของยิปซัม ซึ่งอาจรบกวนการเจริญเติบโตของพืช มีการกําหนดเป็นดิน gypsiferous ( FAO , 2533 )
ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ยิปซัมสามารถขนส่งได้ด้วยน้ำหรือลมเป็นอีกฝากที่สถานที่ใหม่เป็นบุคคลยิปซัมเนินทรายหรืออาจจะรวมอยู่ในชั้นผิวดิน ( FAO , 2533 )
ดินที่มีปริมาณสําคัญของยิปซัม ซึ่งอาจรบกวนการเจริญเติบโตของพืช มีการกําหนดเป็นดิน gypsiferous ( FAO , 2533 )
ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ยิปซัมสามารถขนส่งได้ด้วยน้ำหรือลมเป็นอีกฝากที่สถานที่ใหม่เป็นบุคคลยิปซัมเนินทรายหรืออาจจะรวมอยู่ในชั้นผิวดิน ( FAO , 2533 )
เหตุผลหลักสำหรับการสะสมในดินตะกอนยิปซัมจาก supersaturated ใต้ดินหรือน้ำท่าน้ำเป็นผลจากการระเหยที่เข้มข้น ยิปซัมยังเกิดขึ้นในดินที่เป็นกรดซัลเฟต ( เดนท์ , 1986 )
ในดินเหล่านี้เป็นจุดกำเนิดของซัลเฟตไอออน เนื่องจากปฏิกิริยาออกซิเดชันของกำมะถันที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลายชนิด เช่น ไพ .
เนื่องจากธรรมชาติ สภาพอากาศ และวงจรการออกซิเดชัน