In the 1st stanza as the poet descr

In the 1st stanza as the poet describes the moon as a dying lady he says that she is like a dying lady who is sick and pale. Pale because probably she has no blood in her body because she is in her death phase and lean because she is old. This poem can also be told to be an allegory because its each line has two meanings. He rather describes the moon to be senile because it was during the dusk time when the moon was rising and thus it looked pale. He has also told that the moon is wrapped in a "gauzy veil" i.e by something or transparent cloth and here the 'gauzy veil' has been compared with clouds. This is because when the moon was rising it was dusk time and the faint beam of sunlight was still their which made the time look gloomy and the clouds wrapped up the moon like the veil. The sky was yet to be dark so the moon was not bright enough so the poet compared the old lady's (the moon's) brain as a fading one as she was feeble and she was wandering.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในบทร้อยกรอง 1 เป็นกวีอธิบายดวงจันทร์เป็นผู้หญิงตาย เขาบอกว่า เธอเป็นเหมือนผู้หญิงตายผู้ป่วย และซีด ซีด เพราะคงมีไม่มีเลือดในร่างกายของเธอเนื่องจากเธออยู่ในขั้นตอนการตายของเธอ และแบบ lean เก่า กลอนนี้ยังจะบอกให้ เป็นอุปมานิทัศน์ของแต่ละบรรทัดมีความหมายสอง เขาค่อนข้างอธิบายดวงจันทร์จะ senile เนื่องจากเป็นเวลาค่ำเมื่อดวงจันทร์ถูกเพิ่มขึ้น และดังนั้น มันดูซีด นอกจากนี้เขายังได้บอกว่า ดวงจันทร์จะถูกห่อในอาทิ "gauzy ผิว" บางอย่าง หรือผ้าโปร่งใสและที่นี่ 'ม่าน gauzy' ได้ถูกเปรียบเทียบกับเมฆ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นเวลาค่ำเมื่อดวงจันทร์ถูกเพิ่มขึ้น และแสงจาง ๆ ของแสงแดดยังเป็นผู้ที่ทำเวลาดูมืดมน และเมฆห่อมูนเช่นม่าน ท้องฟ้ายังถูกให้เข้มเพื่อดวงจันทร์ไม่สว่างเพียงพอเพื่อให้กวีเปรียบเทียบหญิงของ (ดวงจันทร์ของ) สมองเป็นค่อย ๆ หนึ่งเธอเบา และเธอได้หลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในวันที่ 1 บทกวีอธิบายดวงจันทร์เป็นผู้หญิงที่กำลังจะตายเขาบอกว่าเธอเป็นเหมือนผู้หญิงที่กำลังจะตายที่มีอาการป่วยและซีด เพราะอาจจะซีดเธอมีเลือดในร่างกายของเธอเพราะเธออยู่ในขั้นตอนการตายของเธอและลีนเพราะเธอเป็นรุ่นเก่า บทกวีนี้ยังสามารถบอกให้เป็นสัญลักษณ์เพราะแต่ละสายมีสองความหมาย เขาค่อนข้างอธิบายถึงดวงจันทร์จะเป็นในวัยชราเพราะมันเป็นช่วงเวลาค่ำเมื่อดวงจันทร์ได้ที่เพิ่มขึ้นและทำให้มันดูซีด นอกจากนี้เขายังได้บอกว่าดวงจันทร์เป็นห่อใน "ม่านโปร่ง" เช่นโดยบางสิ่งบางอย่างหรือผ้าที่โปร่งใสและนี่ 'ม่านโปร่ง' ได้รับเมื่อเทียบกับเมฆ นี้เป็นเพราะเมื่อดวงจันทร์กำลังขึ้นมันเป็นเวลาที่มืดและแสงจางจากแสงแดดยังคงเป็นของพวกเขาซึ่งทำให้เวลาดูมืดมนและเมฆห่อดวงจันทร์เช่นม่าน ท้องฟ้าก็ยังมืดเพื่อให้ดวงจันทร์ก็ไม่สว่างมากพอดังนั้นเมื่อเทียบกวีหญิงชราของ (ดวงจันทร์) สมองเป็นสีซีดจางหนึ่งขณะที่เธอกำลังอ่อนแอและเธอก็หลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใน 1 ห้องเพลงเป็นกวีอธิบาย พระจันทร์เป็นตาย ผู้หญิงเขาบอกว่าเธอเหมือนจะตายผู้หญิงที่ป่วยและสีซีด ซีด เพราะคงไม่มีเลือดในร่างกายของเธอ เพราะเธออยู่ในเฟสเธอตาย และผอม เพราะมันเก่าแล้ว กลอนบทนี้ยังสามารถบอกเป็นสัญลักษณ์ เพราะแต่ละเส้นมีสองความหมายเขาจะอธิบายถึงดวงจันทร์เป็นคนแก่ เพราะมันอยู่ในช่วงค่ำเวลาพระจันทร์ขึ้นและทำให้มันดูซีดๆ เขายังบอกว่า พระจันทร์เป็นห่อใน " โปร่งเช่นม่าน " บางอย่าง หรือผ้าที่โปร่งใส และที่นี่ ' ร่ม ' โปร่งได้รับเมื่อเทียบกับเมฆนี้เป็นเพราะเมื่อพระจันทร์ขึ้น ถึงเวลาค่ำและคานเป็นลมแดดยังของพวกเขาซึ่งทำให้เวลาดูมืดมนและเมฆห่อดวงจันทร์เหมือนม่าน ฟ้ายังไม่มืด ดังนั้น พระจันทร์ไม่สว่างพอ กวีเปรียบหญิง ( ดวงจันทร์ ) สมองเป็นรอนๆ เมื่อเธออ่อนแอ เธอแค่เดินไป