Scholars of Southeast Asian politic

Scholars of Southeast Asian politics have emphasized contingent factors. The effect that the social classes might have on political change depends on the institutional starting point. Authoritarian regimes vary enormously in terms of their strength and their style of management. They can be based primarily on personal rule-by which a single leader rules arbitrarily according to his or her will-or they can be highly institutionalized, in which case the leader, or ruling group, abides by a set of formal or informal rules, including at times some form of elections, adoption of laws and decrees and parliamentary roles. Rules of conduct dictate the exercise of power of different elements within the state and guide relations with societal groups. In Indonesia, for instance, the type of authoritarian regime led to a highly institutionalized role of the military, elements of the bureaucracy and connections between the state and the business sector the proved quite resilient to pressures for change. Opposition groups, whether workers, students or other middle class groups, could not necessarily muster sufficient strength to mobilize effectively against the regime (Slater, 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักปราชญ์การเมืองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เน้นปัจจัยกอง ผลที่ชั้นทางสังคมอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของสถาบัน ระบอบประเทศแตกต่างกันไปความแข็งแรงของพวกเขาและลักษณะของการจัดการ พวกเขาสามารถยึดหลักบุคคลกฎการเป็นผู้นำเดี่ยวโดยกฎตามเขา หรือเธอจะ- หรือพวกเขาสามารถจะสูง institutionalized ซึ่ง เป็นผู้นำ การปกครองกลุ่ม abides โดยชุดของกฎอย่างเป็นทางการ หรือไม่เป็นทางการ รวมถึงบางครั้งบางรูปแบบของการเลือกตั้ง ยอมรับกฎหมายกฎเกณฑ์ และบทบาทรัฐสภาได้ กฎจรรยาบรรณบอกสิทธิอำนาจขององค์ประกอบต่าง ๆ ภายในรัฐ และความสัมพันธ์กับกลุ่มข้อมูลให้คำแนะนำ อินโดนีเซีย เช่น ชนิดของระบอบการปกครองประเทศที่นำไปสู่บทบาทสูง institutionalized ของทหาร องค์ประกอบของระบบราชการและการเชื่อมต่อระหว่างรัฐและภาคธุรกิจที่ proved ค่อนข้างทนแรงดันสำหรับเปลี่ยน ฝ่ายค้านกลุ่ม ว่าผู้ปฏิบัติงาน นักศึกษา หรือ กลุ่มอื่น ๆ ชั้นกลาง อาจไม่จำเป็นต้องชุมนุมแรงพอที่จะระดมได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อต้านระบอบการปกครอง (สเลเทอร์ 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิชาการของการเมืองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เน้นปัจจัยที่อาจเกิดขึ้น ผลกระทบที่สังคมชนชั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของสถ​​าบัน เผด็จการปกครองแตกต่างกันอย่างมากในแง่ของความแข็งแรงและสไตล์ของพวกเขาในการจัดการของพวกเขา พวกเขาสามารถอยู่กับส่วนบุคคลของกฎระเบียบที่เป็นผู้นำเดี่ยวโดยพลตามที่เขาหรือเธอจะหรือพวกเขาสามารถเป็นสถาบันอย่างมากซึ่งในกรณีที่ผู้นำหรือกลุ่มปกครองปฏิบัติตามชุดของกฎอย่างเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ, รวมทั้งในบางครั้งบางรูปแบบของการเลือกตั้งยอมรับของกฎหมายและนามและบทบาทของรัฐสภา กฎการปฏิบัติบังคับใช้อำนาจขององค์ประกอบที่แตกต่างกันอยู่ในรัฐและให้คำแนะนำความสัมพันธ์กับกลุ่มทางสังคม ในอินโดนีเซียเช่นประเภทของระบอบการปกครองเผด็จการนำไปสู่​​การเป็นสถาบันที่มีบทบาทอย่างมากของทหารองค์ประกอบของระบบราชการและการเชื่อมต่อระหว่างรัฐและภาคธุรกิจที่ได้รับการพิสูจน์ความยืดหยุ่นมากทีเดียวที่จะกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลง กลุ่มต่อต้านไม่ว่าจะเป็นคนงานนักเรียนหรือกลุ่มชนชั้นกลางอื่น ๆ ที่อาจจะไม่จำเป็นต้องรวบรวมความแข็งแรงเพียงพอที่จะระดมได้อย่างมีประสิทธิภาพกับระบอบการปกครอง (ตำหนิ 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักวิชาการการเมืองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีเน้นปัจจัยที่ผูกพัน . ผลกระทบที่ชั้นเรียนสังคมอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้นอยู่กับสถาบันที่จุดเริ่มต้น ระบอบการปกครองเผด็จการแตกต่างกันอย่างมากในแง่ของความแข็งแรงและลักษณะของการจัดการของพวกเขาพวกเขาสามารถยึดกฎส่วนตัวที่เป็นผู้นำเดี่ยวตามกฎโดยพลการ ของเขาหรือเธอ จะ หรือ พวกเขาสามารถสูงสถาบันเป็นหลัก ซึ่งในกรณีที่ผู้นำ หรือผู้ปกครองกลุ่มที่ยึดถือตามชุดของกฎที่เป็นทางการหรือทางการ รวมทั้งในบางครั้งบางรูปแบบของการเลือกตั้ง , การยอมรับของกฎหมายและคำสั่งและบทบาทของรัฐสภา .กฎการปฏิบัติตามอำนาจขององค์ประกอบที่แตกต่างกันภายในรัฐและคู่มือความสัมพันธ์กับกลุ่มทางสังคม ในอินโดนีเซีย เช่น ประเภทของระบอบการปกครองเผด็จการไปสู่ขอ institutionalized บทบาทของทหาร , องค์ประกอบของระบบราชการและการเชื่อมต่อระหว่างรัฐและภาคธุรกิจที่พิสูจน์แล้วว่าค่อนข้างยืดหยุ่น เพื่อกดดันให้เปลี่ยนกลุ่มฝ่ายค้านว่า แรงงาน นักศึกษา หรือกลุ่มระดับกลางอื่นๆ อาจไม่จําเป็นต้องรวบรวมความแข็งแรงเพียงพอที่จะระดมมีประสิทธิภาพต่อต้านการปกครอง ( สเลเตอร์ , 2008 )