A water brake is a type of fluid co

A water brake is a type of fluid coupling used to absorb mechanical energy and usually consists of a turbine or propeller mounted in an enclosure filled with water.

As the turbine or propeller turns, mechanical energy is transferred to the water due to turbulence and friction. The shock caused by the acceleration of the water as it passes from pockets in the stator to the pockets in the spinning rotor requires energy. That energy heats the water due to the friction as the water moves through the water brake. Almost all of the horsepower of the system turning the rotor (usually an internal combustion engine) is converted into a temperature change of the water. A very small amount of energy is taken by the bearings and seals within the unit. Therefore, water must constantly move through the device at a rate proportional to the horse power that is being absorbed. Water temperature exiting the unit must be kept under 120-160F (50-70 °C) to prevent scale formation and cavitation. The water enters in the center of the device and after passing through the pockets in the stator and rotor exits the outside of the housing though a controlled orifice. The amount of loading is dependent on the level of water inside the housing. Some water brakes vary the load by controlling the inlet water volume only and have a set outlet orifice size depending on the desired hp to be absorbed and some control both input and output orifices at the same time which allows greater control over outlet water temperatures. The housing is vented to the outside to allow air to displace the water as the water level in the unit rises and falls.

The amount of torque that can be absorbed is defined by the equation T=kN2D5 where T = torque, N = RPM, D = the diameter of the rotor and k = a constant dependent on the size and shape and angle of the rotor/stator pockets.[1]

Systems which require the torque of the system under test to be measured typically use a strain gauge mounted on a torque arm that is attached to the housing perpendicular to the input shaft. The housing/stator is mounted on roller bearings and the rotor is mounted on roller bearings within the housing/stator so that it can turn independently of the rotor and frame. The strain gauge connects the torque arm to the frame assembly and keeps the housing from spinning as housing tries to turn in the same direction of the turbine. (Newton’s third law).

The amount of resistance can be varied by changing the amount of water in the enclosure at any one time. This is accomplished though manual or electronically controlled water valves. The higher the water levels within the brake the greater the loading. Water brakes are commonly used on some forms of dynamometer but have also been used on railways vehicles such as the British Advanced Passenger Train.

Hydrokinetic Construction (torque absorption)[edit]
The Froude waterbrake is based on hydrokinetic construction or (torque absorption).

The machine consists of an impeller (rotor) which accelerates water outwards by its rotation. The water has its velocity changed by a stator which causes the water to be returned to the inner diameter of the rotor. For given mass of water, this velocity change yields a corresponding momentum change – and the rate of change of momentum is proportional to a force. This force acting at some point within the rotor and stator is a distance from the shaft centerline, and a force multiplied by a distance produces torque

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ห้ามล้อน้ำเป็นชนิดของคลัป fluid ที่ใช้ในการดูดซับพลังงานกล และมักจะประกอบด้วยกังหันหรือใบพัดที่ติดตั้งในตู้เต็มไป ด้วยน้ำเป็นกังหันหรือใบพัดหมุน เครื่องจักรกลพลังงานถูกโอนย้ายไปน้ำเนื่องจากความปั่นป่วนและแรงเสียดทาน ภาวะช็อกที่เกิดจากการเร่งความเร็วของน้ำมันผ่านจากกระเป๋าใน stator ที่ไปกระเป๋าในใบพัดปั่นต้องการพลังงาน ว่า พลังงาน heats น้ำเนื่องจากแรงเสียดทานเป็นน้ำเคลื่อนที่ผ่านเบรคน้ำ แรงม้าระบบเปิดใบพัด (มักจะเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายใน) เกือบทั้งหมดจะถูกแปลงเป็นการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำ จำนวนพลังงานสะอาดจะนำตลับลูกปืนและซีลภายในหน่วย ดังนั้น น้ำต้องตลอดเวลาเลื่อนอุปกรณ์ในอัตราที่เป็นสัดส่วนกับกำลังม้าที่จะถูกดูดซึม อุณหภูมิน้ำที่ออกจากหน่วยต้องเก็บไว้ภายใต้ 120-160F (50-70 ° C) เพื่อป้องกันการก่อตัวสเกลและ cavitation น้ำเข้าในตัวอุปกรณ์ และหลัง จากผ่านกระเป๋าใน stator แล้วใบพัดออกนอกหมู่บ้านที่ว่า orifice ควบคุม จำนวนการโหลดจะขึ้นอยู่กับระดับน้ำภายในที่อยู่อาศัย บางเบรคน้ำเปลี่ยนโหลดตามการควบคุมทางเข้าของน้ำปริมาณเท่า และมีขนาด orifice ที่ตั้งร้านตาม hp ต้องหลง และควบคุมอินพุตทั้งสอง และบางผล orifices ในเวลาเดียวกันซึ่งช่วยให้การควบคุมอุณหภูมิน้ำร้าน ที่อยู่อาศัยเป็น vented ด้านนอกเพื่อให้อากาศเลื่อนน้ำระดับน้ำในหน่วยเพิ่มขึ้น และตกจำนวนบิดที่สามารถถูกดูดซึมจะถูกกำหนด โดยสมการ T = kN2D5 ที่ T =แรงบิด N =รอบต่อนาที D =เส้นผ่าศูนย์กลางของใบพัดและ k =ค่าคงขึ้นอยู่กับขนาด และรูปร่าง และมุมของกระเป๋าใบพัด/สเต [1]ระบบที่ต้องใช้แรงบิดของระบบภายใต้การทดสอบที่จะวัดโดยทั่วไป ใช้วัดต้องใช้ที่ติดตั้งบนแขนของแรงบิดที่อยู่ที่อยู่อาศัยที่ตั้งฉากกับเพลาเข้า ติดตั้งในที่อยู่อาศัยสเตบนแบริ่งลูกกลิ้ง และใบพัดติดตั้งบนแบริ่งลูกกลิ้งภายในที่อยู่ อาศัย/stator เพื่อให้สามารถเปิดใช้งานโดยอิสระจากใบพัดและเฟรม วัดต้องใช้แขนบิดที่เชื่อมต่อกับแอสเซมบลีเฟรม และรักษาที่อยู่อาศัยจากการปั่นบ้านพยายามเปิดในทิศทางเดียวกันของกังหันลม ของนิวตันสามกฎหมาย)ยอดของความต้านทานที่สามารถแตกต่างกัน โดยการเปลี่ยนแปลงปริมาณของน้ำในตู้ตลอดเวลาหนึ่ง นี้ได้แม้ด้วยตนเอง หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมวาล์วน้ำ ยิ่งน้ำระดับภายในเบรกยิ่งโหลด น้ำเบรคโดยทั่วไปใช้ในบางรูปแบบ dynamometer แต่ยังถูกใช้ในยานพาหนะรถไฟเช่นภาษาอังกฤษขั้นสูงผู้โดยสารรถไฟสร้าง hydrokinetic (การดูดซับแรงบิด) [แก้ไข]Froude waterbrake ขึ้นอยู่กับการก่อสร้าง hydrokinetic หรือ (ดูดซับแรงบิด)เครื่องประกอบด้วยการผลัก (ใบพัด) ซึ่งเพิ่มความเร็วน้ำ outwards ตามวาระของการ น้ำมีความเร็วที่เปลี่ยนแปลง โดย stator ซึ่งเป็นสาเหตุของน้ำจะส่งคืนไปเส้นผ่าศูนย์กลางภายในของใบพัด กำหนดให้มวลของน้ำ การเปลี่ยนแปลงความเร็วนี้ทำให้เปลี่ยนแปลงโมเมนตัมที่สอดคล้องกัน – และอัตราการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมเป็นสัดส่วนกับแรง แรงนี้กระทำในบางจุดภายในใบพัดและ stator เป็นระยะทางจาก centerline เพลา และแรงคูณ ด้วยระยะทางที่ทำให้เกิดแรงบิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เบรคน้ำเป็นประเภทของการมีเพศสัมพันธ์ของเหลวที่ใช้ในการดูดซับพลังงานกลและมักจะประกอบด้วยกังหันหรือใบพัดที่ติดตั้งอยู่ในตู้ที่เต็มไปด้วยน้ำ. ในฐานะที่เป็นกังหันหรือใบพัดเปลี่ยนพลังงานกลจะถูกโอนไปในน้ำอันเนื่องมาจากความวุ่นวายและแรงเสียดทาน ช็อตที่เกิดจากการเร่งความเร็วของน้ำในขณะที่มันผ่านจากกระเป๋าในกระเป๋าสเตเตอร์ในการปั่นใบพัดต้องใช้พลังงาน พลังงานที่ร้อนน้ำเนื่องจากแรงเสียดทานเป็นน้ำเคลื่อนผ่านเบรกน้ำ เกือบทั้งหมดของแรงม้าของระบบการเปลี่ยนใบพัด (โดยปกติเครื่องยนต์สันดาปภายใน) จะถูกแปลงเป็นการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของน้ำ จำนวนเงินที่น้อยมากของพลังงานที่จะนำโดยแบริ่งและซีลภายในหน่วย ดังนั้นน้ำอย่างต่อเนื่องจะต้องย้ายผ่านอุปกรณ์ที่สัดส่วนอัตราการพลังม้าที่มีการดูดซึม อุณหภูมิของน้ำออกจากหน่วยจะต้องเก็บไว้ภายใต้ 120-160F (50-70 ° C) เพื่อป้องกันการก่อตัวของขนาดและโพรงอากาศ น้ำที่เข้ามาในใจกลางของอุปกรณ์และหลังจากผ่านกระเป๋าในสเตเตอร์และโรเตอร์ออกนอกที่อยู่อาศัยแม้ปากควบคุม จำนวนของการโหลดจะขึ้นอยู่กับระดับของน้ำภายในที่อยู่อาศัย เบรกน้ำบางส่วนแตกต่างกันไปโหลดโดยการควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเท่านั้นและมีชุดเต้าเสียบขนาดปากขึ้นอยู่กับแรงม้าที่ต้องการจะถูกดูดซึมและการควบคุมทั้งนำเข้าและส่งออกกายทวารในเวลาเดียวกันซึ่งจะช่วยให้ควบคุมมากขึ้นกว่าอุณหภูมิของน้ำเต้าเสียบ ที่อยู่อาศัยจะถูกระบายออกไปข้างนอกเพื่อให้อากาศที่จะไล่น้ำเป็นระดับน้ำในหน่วยที่เพิ่มขึ้นและตก. the ปริมาณของแรงบิดที่สามารถดูดซึมได้ถูกกำหนดโดยสมการ T = kN2D5 ที่ T = แรงบิด, N = รอบต่อนาที D = ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของใบพัดและ k = ค่าคงที่ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปร่างและมุมของกระเป๋าโรเตอร์ / สเตเตอร์. [1] ระบบซึ่งต้องใช้แรงบิดของระบบภายใต้การทดสอบที่จะวัดมักจะใช้วัดความเครียดติดตั้งอยู่บน แขนแรงบิดที่แนบมากับที่อยู่อาศัยในแนวตั้งฉากกับเพลาการป้อนข้อมูล ที่อยู่อาศัย / สเตเตอร์ติดตั้งอยู่บนแบริ่งลูกกลิ้งและใบพัดติดตั้งอยู่บนแบริ่งลูกกลิ้งภายในที่อยู่อาศัย / สเตเตอร์เพื่อที่จะสามารถเปิดอิสระจากใบพัดและกรอบ วัดความเครียดเชื่อมต่อแขนแรงบิดในการประกอบกรอบและช่วยให้ที่อยู่อาศัยจากการปั่นเป็นที่อยู่อาศัยที่พยายามที่จะหันไปในทิศทางเดียวกันของกังหัน (นิวตันกฎข้อที่สาม). ปริมาณของความต้านทานจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยการเปลี่ยนปริมาณของน้ำในตู้ที่ใดเวลาหนึ่ง นี่คือความสำเร็จแม้ว่าตนเองหรือควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์วาล์วน้ำ สูงกว่าระดับน้ำภายในเบรกมากขึ้นโหลด เบรกน้ำที่ใช้ทั่วไปในบางรูปแบบของพลังงาน แต่ยังได้รับการใช้ในยานพาหนะทางรถไฟเช่นรถไฟโดยสารขั้นอังกฤษ. hydrokinetic ก่อสร้าง (การดูดซึมแรงบิด) [แก้ไข] waterbrake Froude จะขึ้นอยู่กับการก่อสร้าง hydrokinetic หรือ (การดูดซึมแรงบิด). เครื่องประกอบด้วยใบพัด (ใบพัด) ซึ่งเร่งน้ำออกตามวาระ น้ำที่มีความเร็วของการเปลี่ยนแปลงโดยสเตเตอร์ซึ่งเป็นสาเหตุของน้ำที่จะถูกส่งกลับไปยังเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของใบพัดที่ สำหรับมวลน้ำที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงความเร็วนี้มีผลเป็นแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกัน - และอัตราการเปลี่ยนแปลงของโมเมนตัมเป็นสัดส่วนกับแรง พลังนี้ทำหน้าที่ที่จุดภายในโรเตอร์และสเตเตอร์บางระยะทางจากเพลากลางและแรงคูณด้วยระยะทางที่ก่อให้เกิดแรงบิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เบรกน้ำคือของเหลวชนิดหนึ่งซึ่งใช้ดูดพลังงานกลและมักจะประกอบด้วยกังหันหรือใบพัดติดอยู่ในกรงที่เต็มไปด้วยน้ำ . . .

เป็นกังหันหรือใบพัดเปลี่ยนพลังงานกลมาเป็นน้ำเนื่องจากความวุ่นวายและแรงเสียดทานช็อกที่เกิดจากการเร่งความเร็วของน้ำที่ผ่านจากกระเป๋าในสเตเตอร์กับกระเป๋าในใบพัดหมุนต้องใช้พลังงาน พลังงานที่ร้อนน้ำเนื่องจากแรงเสียดทานเนื่องจากน้ำเคลื่อนผ่านน้ำเบรก เกือบทั้งหมดของแรงม้าของระบบการเปลี่ยนใบพัด ( โดยปกติเครื่องยนต์สันดาปภายใน ) จะถูกแปลงให้เป็นการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำปริมาณที่น้อยมากของพลังงานจะถูกถ่ายโดยแบริ่ง และซีลภายในหน่วย ดังนั้นน้ำตลอดเวลาจะต้องย้ายผ่านอุปกรณ์ในอัตราสัดส่วนกับม้าพลังงานที่ถูกดูดซึม อุณหภูมิของน้ำที่ออกจากเครื่องจะต้องเก็บไว้ภายใต้ 120-160f ( 50-70 องศา C ) เพื่อป้องกันการเกิดโพรงขนาดและ .น้ำเข้าไปในศูนย์กลางของอุปกรณ์ และหลังจากผ่านหลุมในสเตเตอร์และโรเตอร์ออกนอกที่อยู่อาศัย แม้ว่าควบคุมทางเข้า ยอดโหลดจะขึ้นอยู่กับระดับของน้ำภายในที่อยู่อาศัยมีเบรคน้ำแตกต่างกันโหลด โดยการควบคุมปริมาณน้ำเข้าและมีชุดร้านขนาดรูขึ้นอยู่กับต้องการ HP จะถูกดูดซึมและควบคุมทั้งอินพุตและเอาต์พุตสำหรับในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้การควบคุมมากกว่าร้านน้ำอุณหภูมิ ที่อยู่อาศัยถูกระบายสู่ภายนอกเพื่อให้อากาศไปแทนที่น้ำ ระดับน้ำในหน่วยที่เพิ่มขึ้นและตก

ปริมาณของแรงบิดที่สามารถถูกดูดซึมจะถูกกำหนดโดยสมการ t = kn2d5 ที่ t = n = รอบต่อนาทีแรงบิด , D = เส้นผ่าศูนย์กลางของใบพัดและ k = ค่าคงที่ที่ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปร่างและมุมของใบพัด / stator [ 1 ]

กระเป๋าระบบที่ต้องใช้แรงบิดของระบบภายใต้การทดสอบจะถูกวัดโดยทั่วไปใช้เป็นเครื่องวัดความเครียดติดบิดแขนที่ติดกับตัวเรือนตั้งฉากกับใส่เพลา ที่อยู่อาศัย / ค่าติดตั้งอยู่บนแบริ่งลูกกลิ้งและแบริ่งลูกกลิ้งใบพัดจะติดตั้งอยู่ภายในที่อยู่อาศัย / สเตเตอร์เพื่อให้มันสามารถเปลี่ยนได้อย่างอิสระของโรเตอร์และกรอบเครื่องวัดความเครียดเชื่อมต่อแรงบิดแขนให้กรอบการประกอบและเก็บจากการปั่นเป็น ที่อยู่อาศัย ที่อยู่อาศัยพยายามที่จะหันไปในทิศทางเดียวกันของกังหัน ( กฎข้อที่สามของนิวตัน ) .

ปริมาณของความต้านทานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยการเปลี่ยนปริมาณของน้ำในตู้ ณเวลาใดเวลาหนึ่ง นี้ได้ แม้ว่าตนเองหรือควบคุมด้วยไฟฟ้า วาล์วน้ำสูงกว่าระดับน้ำภายในเบรกมากขึ้นโหลด น้ำ เบรคที่ใช้กันทั่วไปในรูปแบบของแรง แต่ยังถูกใช้ในยานพาหนะเช่นอังกฤษรถไฟรถไฟโดยสารขั้น

hydrokinetic ก่อสร้าง ( การบิด ) [ แก้ไข ]
waterbrake ทดลองตามการก่อสร้าง hydrokinetic หรือ ( การบิด ) .

เครื่องจะประกอบด้วยใบพัด ( ใบพัด ) ซึ่งเร่งน้ำข้างนอกโดยการหมุนของมัน น้ำมีความเร็วเปลี่ยนไปโดยสเตเตอร์ซึ่งเป็นสาเหตุของน้ำเพื่อจะกลับไปหาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภายในของใบพัด . เพื่อให้มวลน้ำนี้ให้ผลที่สอดคล้องกันความเร็วเปลี่ยนโมเมนตัมเปลี่ยน ) และอัตราการเปลี่ยนโมเมนตัมเป็นปฏิภาคกับแรงนี้บังคับให้ทำในบางจุดภายในโรเตอร์ และ สเตเตอร์คือระยะทางจากปล่องซีเมนต์เพสต์ , น้ำปูนข้น และแรงคูณระยะทางผลิตแรงบิด