The present study showed that child

The present study showed that children with DS had poor oral hygiene and gingival health. The mean CI, PI, and GI scores of the total population were 0.58 ± 0.61, 1.45 ± 0.57, and 1.54 ± 0.64, respectively. These values are higher than those reported for similarly aged normal children in Sana’a.[14] This is consistent with many previous studies which reported poorer standard of oral hygiene and greater prevalence of periodontal diseases in DS children than their normal counterparts.[5,12,15,16,17,18,19,20] A multitude of factors may be involved in the increased susceptibility to gingival and periodontal diseases among individuals with DS.[21] Factors previously investigated include mental retardation, subgingival plaque composition, immune/inflammatory responses, and others.[20,21,22] Microbiological studies showed that individuals with DS have significantly higher levels of periodontopathic bacteria including Porphyromonasgingivalis andTannerellaforsythensis.[17] Hence, optimal oral hygiene is of particular importance in this group in order to limit the disease onset.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาปัจจุบันพบว่า เด็ก มี DS มีอนามัยช่องปากที่ดีและสุขภาพ gingival ผลคะแนนเฉลี่ยของ CI, PI และ GI ของประชากรได้± 0.58 0.61, 1.45 ± 0.57 และ 1.54 ± 0.64 ตามลำดับ ค่าเหล่านี้จะสูงกว่าที่รายงานในทำนองเดียวกันอายุปกติเด็กในซานา[14] ซึ่งจะสอดคล้องกับการศึกษาก่อนหน้านี้หลายที่รายงานมาตรฐานย่อมของสุขภาพช่องปากและชุกมากกว่าโรคโรคเหงือกใน DS เด็กกว่าคู่ปกติของพวกเขา[5,12,15,16,17,18,19,20] A หลากหลายปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้องกับในไก่เพิ่มให้ gingival และโรคเหงือกโรคระหว่างบุคคลกับ DS[21] ก่อนหน้านี้ ตรวจสอบปัจจัยรวมปัญญา องค์ประกอบของหินปูน subgingival การตอบสนองภูมิคุ้มกัน/อักเสบ และอื่น ๆ[20,21,22] การศึกษาทางจุลชีววิทยาพบว่า บุคคลที่ มี DS มีแบคทีเรีย periodontopathic Porphyromonasgingivalis andTannerellaforsythensis รวมถึงระดับสูงอย่างมีนัยสำคัญ[17] ดังนั้น อนามัยช่องปากที่ดีที่สุดเป็นสำคัญโดยเฉพาะในกลุ่มนี้เพื่อจำกัดการเริ่มมีอาการโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเด็กที่มี DS มีสุขอนามัยที่ดีในช่องปากและสุขภาพเหงือก เฉลี่ย CI, PI และคะแนน GI ของประชากรรวมทั้งสิ้น 0.58 ± 0.61, 1.45 ± 0.57 และ 1.54 ± 0.64 ตามลำดับ ค่าเหล่านี้จะสูงกว่าที่รายงานในทำนองเดียวกันอายุเด็กปกติในเสนา. [14] ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาก่อนหน้าจำนวนมากซึ่งรายงานมาตรฐานยากจนของสุขภาพช่องปากและความชุกมากขึ้นของโรคปริทันต์ในเด็ก DS กว่าปกติของพวกเขา. [5 , 12,15,16,17,18,19,20] หลากหลายของปัจจัยที่อาจจะมีส่วนร่วมในการเพิ่มความไวต่อการเหงือกและโรคปริทันต์ในหมู่บุคคลที่มีเอส. [21] ปัจจัยที่มีการตรวจสอบก่อนหน้านี้รวมถึงปัญญาอ่อนองค์ประกอบมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ subgingival, ภูมิคุ้มกัน / ตอบสนองการอักเสบและอื่น ๆ . [20,21,22] การศึกษาทางจุลชีววิทยาพบว่าบุคคลที่มี DS มีระดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของเชื้อแบคทีเรียรวมทั้ง periodontopathic Porphyromonasgingivalis andTannerellaforsythensis. [17] ดังนั้นสุขอนามัยช่องปากที่ดีที่สุดมีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนี้ในการสั่งซื้อ เพื่อ จำกัด การโจมตีโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาพบว่าเด็กที่มี DS ได้ยากจนและสุขภาพช่องปากอักเสบสุขภาพ หมายถึงมี , พี , และ กีคะแนน ของประชากรทั้งหมด ได้แก่± 0.61 0.58 1.45 ± 0.57 และ 1.54 ± 0.64 ตามลำดับ ค่าเหล่านี้จะสูงกว่ารายงานในเด็กปกติในวัย sana'a.[ 14 ] ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ยากจนหลายรายงานมาตรฐานสุขอนามัยในช่องปากและมากขึ้น ความชุกของโรคปริทันต์ใน DS เด็กกว่า counterparts ธรรมดาของพวกเขา . [ 5,12,15,16,17,18,19,20 ] ความหลากหลายของปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์เพิ่มขึ้นระหว่างบุคคลกับ DS[ 21 ] ปัจจัยที่ทำการศึกษาก่อนหน้านี้รวมถึงปัญญาอ่อน ? หินปูนองค์ประกอบ การตอบสนองการอักเสบภูมิคุ้มกัน / , และคนอื่น ๆ ] . [ 20,21,22 จุลชีววิทยาศึกษาพบว่าบุคคลที่มี DS มีระดับสูงกว่าแบคทีเรีย periodontopathic รวมทั้ง porphyromonasgingivalis andtannerellaforsythensis [ 17 ] ดังนั้นสุขภาพช่องปากที่เหมาะสมที่มีความสําคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนี้เพื่อ จำกัด เกิดการโจมตี