In 2004 Human Rights Watch exposed

In 2004 Human Rights Watch exposed the fact that Coca-Cola's sugar supplier in El Salvador uses sugar cane harvested by children. Film footage taken in 2007 and aired as part of a nationally televised documentary in the UK confirmed that child labor is rampant on the plantations harvesting cane for Coca-Cola's sugar supplier.

A book entitled "Belching Out the Devil" by Mark Thomas, published in the United States in 2009, makes it quite clear Coca-Cola has done nothing to seriously address and stop this child abuse.

Unfortunately, many years after Human Rights Watch's expose on Coca-Cola and child labor, it should be asked: Is Central
Izalco still a supplier of sugar for any Coca-Cola products? Is child labor still being used to harvest sugar cane for Central Izalco or any other of Coke's sugar suppliers? And what does Coca-Cola plan to do to make sure that no child labor is used in its supply chain to produce Coke products?

This question should be asked as it pertains to Colombia as well. Lawsuits alleging human rights abuses against labor leaders by Coca-Cola bottlers in Colombia are horrific, but to make matters worse, a 2008 report by the UN's International Labor Organization quoted a Coke manager in Cali saying that Coke's suppliers of raw materials such as sugar should not use child labor but added, Coke "did not yet exercise oversight of the issue."

The Mark Thomas film also highlights Coke's polluting of water sources near their bottling plants and the company's refusal to remediate the situation that is toxic and harmful to residents and wildlife.
From 5,000 to 30,000 Salvadoran children, some as young as eight years old, are working in El Salvador's sugarcane plantations where injuries, particularly severe cuts, are common, according to the report, 'Turning a Blind Eye: Hazardous Labor in El Salvador's Sugarcane Cultivation...'

"If Coca-Cola is serious about avoiding complicity in the use of hazardous child labor," said Bochenek, "the company should recognize its responsibility to ensure that respect for human rights extend beyond its direct suppliers."

Excerpts from Conclusion of Human Rights Watch report:

"Harvesting cane is dangerous work. It requires children to use machetes and other sharp knives to cut sugarcane and strip the leaves off the stalks, work they perform for up to nine hours each day in the hot sun. Nearly every child we spoke with told us that he or she had suffered gashes on the hands or legs while cutting cane. These risks led one former labor inspector to tell Human Rights Watch, "It's indisputable-sugarcane is the most dangerous" of all forms of agricultural work.

"Medical care is often not available on the plantations, and children must frequently pay for the cost of their medical treatment.They are not reimbursed by their employers despite a provision in the Salvadoran labor code that makes employers responsible for medical expenses resulting from on-the-job injuries.

"Children who work on sugarcane plantations often miss the first several weeks or months of school.For example, a teacher in a rural community north of San Salvador estimated that about 20 percent of her class did not attend school during the harvest.Other children drop out of school altogether.Those who attend afternoon sessions after putting in a full day's work in the cane fields often have difficulties keeping up in class."

Filmmaker Mark Thomas explores Coca-Cola's child labor abuses in the sugarcane fields of El Salvador.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 2004 สิทธิมนุษยชนเปิดเผยความจริงว่า โคคาโคล่าน้ำตาลจำหน่ายในประเทศเอลซัลวาดอร์ใช้อ้อยที่เก็บเกี่ยว โดยเด็ก ฟิล์มภาพถ่ายในปี 2007 และโล่งเป็นส่วนหนึ่งของสารคดีผลงาน televised สหราชอาณาจักรยืนยันว่า แรงงานเด็กอาละวาดในสวนเก็บเกี่ยวเท้าสำหรับผู้ผลิตโคคาโคล่าน้ำตาลหนังสือ "Belching ออกปีศาจ" โดยหมาย Thomas เผยแพร่ในสหรัฐอเมริกาในปี 2552 ได้รับทำให้ค่อนข้างชัดเจนโคคา-โคล่าได้ทำอะไรอยู่ และหยุดการละเมิดสิทธิเด็กนี้อย่างจริงจังอับ หลายปีหลังจากการเปิดเผยสิทธิมนุษยชนชมโคคา-โคล่าและแรงงานเด็ก มันควรจะถาม: เป็นกลาง Izalco ยังจำหน่ายน้ำตาลในผลิตภัณฑ์โคคา-โคล่าใด ๆ แรงงานเด็กการใช้เก็บเกี่ยวอ้อย Izalco กลางหรืออื่น ๆ ของซัพพลายเออร์ของโค้กน้ำตาล และอะไรไม่ลาจะทำให้แน่ใจว่า มีใช้แรงงานเด็กไม่ในห่วงโซ่อุปทานของการผลิตผลิตภัณฑ์โค้กควรจะถามคำถามนี้เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับโคลอมเบียเช่น เป็นความ alleging มนุษยชนกับแรงงานนำโดยโคคา-โคล่าอัดในโคลัมเบียจะ horrific แต่จะทำให้เรื่องแย่ลง รายงาน 2008 โดยองค์กรแรงงานระหว่างประเทศของสหประชาชาติจัดการโค้กในลีว่า ซัพพลายเออร์ที่โค้กดิบเช่นน้ำตาลควรใช้แรงงานเด็ก แต่ เพิ่ม การเสนอราคาโค้ก "ได้ไม่ได้ออกกำลัง กายกำกับดูแลปัญหา"ฟิล์ม Thomas หมายไฮไลท์ของโค้ก polluting แหล่งน้ำพืช bottling ของพวกเขาและปฏิเสธของบริษัทเพื่อสำรองสถานการณ์ที่เป็นพิษ และอันตรายต่อคนและสัตว์ป่าจาก 5000 30000 Salvadoran เด็ก เป็นหนุ่มเป็นแปดปี ทำงานในไร่อ้อยของเอลซัลวาดอร์ที่บาดเจ็บ ความรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัด มีทั่วไป รายงาน, ' เปิดตาคนตาบอด: แรงงานที่เป็นอันตรายในประเทศเอลซัลวาดอร์ปลูกอ้อย...'"ถ้าลาอย่างจริงจังเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงเข้าไปในการใช้แรงงานเด็กอันตราย Bochenek "บริษัทควรรู้จักความรับผิดชอบการให้ความเคารพว่าสำหรับสิทธิมนุษยชนขยายเกินซัพพลายเออร์โดยตรงการ"กล่าวว่านำรายงานสรุปดูสิทธิมนุษยชน:"เก็บเกี่ยวเท้าเป็นงานที่อันตราย ต้องการเด็กใช้ machetes และอื่น ๆ คมมีดตัดอ้อย และแถบใบปิด stalks งานที่จะทำ 9 ชั่วโมงแต่ละวันแสงแดดร้อน เด็กเกือบทุกคนที่เราพูดด้วยรู้ว่า เขาหรือเธอได้รับความเดือดร้อน gashes มือหรือขาในขณะที่เท้าตัด ความเสี่ยงเหล่านี้นำตัวตรวจสอบแรงงานอดีตหนึ่งบอกสิทธิมนุษยชน "มันเถียงไม่ได้อ้อยเป็นอันตรายที่สุด" ทุกรูปแบบของงานเกษตร"แพทย์มักจะไม่มีในสวน และเด็กมักจะต้องจ่ายสำหรับต้นทุนการรักษาพยาบาลพวกเขาไม่ได้รับเงินคืนจากนายจ้างแม้มีบทบัญญัติในรหัสแรงงาน Salvadoran ที่ทำให้นายจ้างรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากการบาดเจ็บแรง"เด็กที่ทำงานในไร่อ้อยมักจะพลาดแรกหลายสัปดาห์หรือเดือนของโรงเรียนตัวอย่าง เป็นครูในชุมชนชนบทจากซานซัลวาดอร์ประเมินว่า ประมาณร้อยละ 20 ของชั้นเรียนของเธอไม่สนใจโรงเรียนในระหว่างเก็บเกี่ยวเด็กอื่น ๆ ลดลงจากโรงเรียนทั้งหมดผู้เข้าร่วมประชุมช่วงบ่ายหลังจากการวางในการทำงานแบบเต็มวันในฟิลด์เท้ามักจะมีความยากลำบากในการรักษาขึ้นในชั้นเรียน"Thomas หมายจุดสำรวจโคคาโคล่าละเมิดสิทธิมนุษยชนของแรงงานเด็กในด้านอ้อยของเอลซัลวาดอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 2004 สิทธิมนุษยชนเปิดเผยความจริงที่ว่าผู้ผลิตน้ำตาลของ Coca-Cola ในเอลซัลวาดอร์ใช้อ้อยเก็บเกี่ยวโดยเด็ก ภาพฟิล์มที่ถ่ายในปี 2007 และออกอากาศเป็นส่วนหนึ่งของสารคดีถ่ายทอดสดทั่วประเทศในสหราชอาณาจักรยืนยันว่าแรงงานเด็กจะอาละวาดในพื้นที่เพาะปลูกการเก็บเกี่ยวอ้อยหาผู้จัดจำหน่ายน้ำตาล Coca-Cola ของ. หนังสือชื่อ "เรอเปรี้ยวออกปีศาจ" โดยมาร์คโธมัสที่ตีพิมพ์ใน . ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2009 ทำให้มันค่อนข้างชัดเจน Coca-Cola ได้ทำอะไรอย่างจริงจังอยู่และหยุดการละเมิดเด็กคนนี้แต่หลายปีหลังจากที่สิทธิมนุษยชนของนาฬิกาเปิดเผยเกี่ยวกับ Coca-Cola และแรงงานเด็กก็ควรจะถาม: เป็นศูนย์กลางIzalco ยังซัพพลายเออร์ของน้ำตาลสำหรับผลิตภัณฑ์ใด ๆ Coca-Cola? แรงงานเด็กยังคงถูกใช้ในการเก็บเกี่ยวอ้อยเซ็นทรัล Izalco หรืออื่น ๆ ของโค้กซัพพลายเออน้ำตาล? และสิ่งที่ไม่วางแผน Coca-Cola ที่จะทำเพื่อให้แน่ใจว่าการใช้แรงงานเด็กที่ไม่ได้ใช้ในห่วงโซ่อุปทานของการผลิตผลิตภัณฑ์โค้ก? คำถามนี้ควรจะถามตามที่เกี่ยวข้องกับโคลัมเบียได้เป็นอย่างดี คดีกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชนกับผู้นำแรงงานโดยบรรจุขวดโคคาโคล่าในโคลัมเบียเป็นที่น่ากลัว แต่จะทำให้เรื่องเลว, 2008 รายงานของสหประชาชาติองค์การแรงงานระหว่างประเทศที่ยกมาเป็นผู้จัดการโค้กในกาลีบอกว่าซัพพลายเออร์ของโค้กของวัตถุดิบเช่นน้ำตาลควร ไม่ใช้แรงงานเด็ก แต่เพิ่มโค้ก "ยังไม่ได้ออกกำลังกายการกำกับดูแลของปัญหา." ฟิล์มมาร์คโธมัสยังเน้นมลพิษของโค้กแหล่งน้ำใกล้โรงงานบรรจุขวดของพวกเขาและการปฏิเสธของ บริษัท ที่จะ remediate สถานการณ์ที่เป็นพิษและเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยและ . สัตว์ป่าจาก 5,000 ถึง 30,000 เด็กเอลซัลวาดอร์บางเป็นสาวเป็นแปดขวบกำลังทำงานอยู่ในเอลซัลวาดอร์สวนอ้อยที่ได้รับบาดเจ็บลดอย่างรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเรื่องธรรมดาตามรายงาน 'เปิดตาตาบอด: แรงงานที่เป็นอันตรายในเอลซัลวาดอร์ การเพาะปลูกอ้อย ... "ถ้า Coca-Cola เป็นร้ายแรงเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงความคิดในการใช้งานของเด็กที่เป็นอันตรายแรงงาน" Bochenek "บริษัท ควรตระหนักถึงความรับผิดชอบของตนเพื่อให้แน่ใจว่าการเคารพสิทธิมนุษยชนขยายเกินซัพพลายเออร์โดยตรง." กล่าวว่าตัดตอน จากบทสรุปของสิทธิมนุษยชนรายงาน: "การเก็บเกี่ยวอ้อยเป็นงานที่อันตราย มันต้องมีเด็กที่จะใช้มีดพร้าและมีดคมอื่น ๆ ในการตัดอ้อยและตัดใบออกจากก้านทำงานพวกเขาดำเนินการได้ถึงเก้าชั่วโมงในแต่ละวันแดดร้อน เกือบเด็กทุกคนที่เราได้พูดคุยกับบอกกับเราว่าเขาหรือเธอได้รับรอยบนมือหรือขาในขณะที่ตัดอ้อย ความเสี่ยงเหล่านี้นำหนึ่งตรวจแรงงานในอดีตที่จะบอกสิทธิมนุษยชน "มันเถียงไม่ได้อ้อยเป็นอันตรายที่สุด" ทุกรูปแบบของงานเกษตร. "การดูแลทางการแพทย์มักจะไม่สามารถใช้ได้ในพื้นที่เพาะปลูกและเด็กบ่อยครั้งต้องจ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายของ treatment.They ทางการแพทย์ของพวกเขาจะไม่ได้รับการชดเชยจากนายจ้างของพวกเขาแม้จะมีบทบัญญัติในรหัสแรงงานเอลซัลวาดอร์ที่ทำให้นายจ้างรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่เป็นผลมาจากในงานได้รับบาดเจ็บ. "เด็กที่ทำงานในไร่อ้อยมักจะพลาดหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือนแรก ตัวอย่าง school.For ครูในชุมชนชนบททางตอนเหนือของซานซัลวาดคาดว่าประมาณร้อยละ 20 ของชั้นเรียนของเธอไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนในช่วงเด็ก harvest.Other เลื่อนออกจาก altogether.Those โรงเรียนที่เข้าร่วมการประชุมในช่วงบ่ายหลังจากวางในเต็มรูปแบบ งานประจำวันในสาขาอ้อยมักจะมีความยากลำบากในการรักษาขึ้นในชั้นเรียน. " อำนวยการสร้างภาพยนตร์มาร์คโธมัสสำรวจ Coca-Cola ของการละเมิดการใช้แรงงานเด็กในไร่อ้อยของเอลซัลวาดอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 2004 กลุ่มสิทธิมนุษยชนเปิดเผยข้อเท็จจริงว่า โคคา - โคล่า ผู้ผลิตน้ำตาลในเอลซัลวาดอร์ใช้อ้อยเก็บเกี่ยวโดยเด็ก ภาพฟิล์มที่ถ่ายในปี 2550 และออกอากาศเป็นส่วนหนึ่งของสารคดี ถ่ายทอดสดในอังกฤษยืนยันว่าแรงงานเด็กอาละวาดบนต้นไม้เก็บเกี่ยวอ้อยสำหรับผู้ผลิตน้ำตาลโคคาโคล่า .

หนังสือชื่อว่า " เรอออกปีศาจ " โดยมาร์คโธมัสที่ตีพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาในปี 2009 ทำให้มันค่อนข้างชัดเจน โคคา โคล่า ได้ทำอะไรจริงจังที่อยู่และหยุดการทารุณกรรมเด็ก

ขออภัย หลายปีหลังจากที่มนุษย์สิทธิมนุษยชนเปิดเผยเกี่ยวกับโคคาโคล่าและเด็กแรงงาน ควรถาม : กลาง
izalco ยังซัพพลายเออร์ของน้ำตาลสำหรับผลิตภัณฑ์ใด ๆ บริษัท โคคาโคล่า ?เป็นแรงงานเด็กยังคงถูกใช้เพื่อการเก็บเกี่ยวอ้อยสำหรับ izalco กลางหรืออื่น ๆใด ๆของผู้ผลิตน้ำตาลโค้ก ? และอะไรที่โคคา - โคล่า วางแผนที่จะทำเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการใช้แรงงานเด็กในห่วงโซ่อุปทานเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์โค้ก ?

คำถามนี้ควรจะถามตามที่มันเกี่ยวข้องกับโคลัมเบียด้วยคดีกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้นำแรงงานโดยโคคา - โคล่า bottlers ในโคลัมเบียจะน่ากลัว แต่เพื่อให้เรื่องเลวร้าย , 2008 รายงานโดยสหประชาชาติองค์การแรงงานระหว่างยกมาโค้ก ผู้จัดการ ใน กาลี บอกว่า โค้กเป็นซัพพลายเออร์วัตถุดิบ เช่น น้ำตาล ไม่ควรใช้แรงงานเด็ก แต่เพิ่มโค้ก " ยังไม่ออกกำลังกาย เรื่องของปัญหา "

ภาพยนตร์มาร์คโธมัสยังเน้นโค้กมลพิษของแหล่งน้ำใกล้ของพืชบรรจุขวดและของ บริษัท ในการรักษาสภาพที่เป็นพิษและเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยและสัตว์ป่า .
จาก 5000 เด็กรวันดา 30000 , บางส่วนเป็นสาวเป็นแปดปีทำงานในเอลซัลวาดอร์ อ้อย ที่บาดเจ็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รุนแรง ตัด , ทั่วไปตามรายงาน , ' กลายเป็นคนตาบอด : อันตรายแรงงานในเอลซัลวาดอร์ก็ปลูกอ้อย . . . . . . . '

" ถ้าโคคาโคล่าเป็นร้ายแรงเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการสมรู้ร่วมคิดในการใช้แรงงานเด็กอันตราย " บอกว่า โบเคเน็ก " บริษัทควรตระหนักถึงความรับผิดชอบของตนเพื่อให้แน่ใจว่า การเคารพสิทธิมนุษยชนขยายเกินซัพพลายเออร์โดยตรงของ "

ข้อความที่ตัดตอนมาจากบทสรุปของสิทธิมนุษยชนดูรายงาน :

" การเก็บเกี่ยวอ้อยเป็นงานที่อันตราย มันต้องให้เด็กใช้มีดพร้าและคมมีดตัดอ้อยแถบอื่น ๆและใบออกจากก้าน , งานที่พวกเขาดำเนินการได้ถึงเก้าชั่วโมงในแต่ละวันในดวงอาทิตย์ร้อน เกือบทุกลูกที่เราพูดด้วย บอกเราว่า เขาหรือเธอได้รับความเดือดร้อน gashes บนมือ หรือ ขา ในขณะที่การตัดอ้อยความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้แรงงานหนึ่งอดีตสารวัตรบอกสิทธิมนุษยชน " มันเถียงไม่ได้ซึ่งอันตรายมากที่สุดของทุกรูปแบบของงานเกษตร

" การดูแลทางการแพทย์มักจะไม่สามารถใช้ได้บนต้นไม้ และเด็กต้องบ่อยจ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายของการรักษาทางการแพทย์ของพวกเขาพวกเขาจะไม่ reimbursed โดยนายจ้างของพวกเขาแม้จะมีบัญญัติในเอลซัลวาดอร์แรงงานรหัสที่ให้นายจ้างรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากการบาดเจ็บในงาน

" เด็กที่ทำงานในอ้อยมักจะพลาดก่อนหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือนของโรงเรียน เช่นครูในชุมชนชนบทภาคเหนือของ San Salvador ประมาณการว่าประมาณร้อยละ 20 ของชั้นเธอไม่ได้เข้าเรียนในช่วงเก็บเกี่ยว เด็ก ๆหยุดเรียนทั้งหมด คนที่เข้าเรียนในช่วงบ่ายหลังจากใส่เต็มวัน งานในไร่อ้อยมักจะมีปัญหาอยู่ในระดับ "

ภาพยนตร์มาร์คโธมัสสํารวจโคคาโคล่าของเด็กแรงงานตัดอ้อยของการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเอลซัลวาดอร์