The biography of Nelson Mandela rea

The biography of Nelson Mandela reads like a morality tale. Here is a man who is subjected by a racist society to years of imprisonment, for most of the time in degrading and humiliating conditions, who emerges a quarter of a century later to become president of his country and Nobel Peace Prize winner. Nelson Mandela came slowly to political activism. He grew up as a reasonably privileged child and was not exposed to the racial discrimination which was becoming institutionalized in his country until he was at university at the age of 24. But once he recognized the injustices, he could not remain silent and he was expelled from the University of Fort Hare in 1940 for taking part in a student demonstration. He did not give up on his university degree, however, eventually completing the course by correspondence in 1942. He went on to become the first black student at the University of Witwatersrand, where he studied law, although he never completed the course. He joined the “African National Congress” (ANC) which was fighting for self-determination for a multi-racial society. But when the National Party (NP) came to power in South Africa in 1948, it introduced a policy of forced separation of races, which became known around the world as apartheid. By 1952 the ANC was encouraging protesters to refuse to obey laws which aimed at segregating the races in everyday life. However, Mandela urged the protesters not to use violence, even if violence was used against them.Mandela did not justprotest on the streets. With his friend, Oliver Tambo, he opened a law practice in Johannesburg, and continued to work there through his five-year long treason trial which the authorities staged as the ANC became more militant in the face of harsher and harsher racist laws. In 1961 Mandela was recognized not guilty but he realized his life had changed. He went underground and even accepted the need for violent protests, after the massacre of 69 blacks in Sharpeville. The military arm of the ANC, the Umkhonto we Sizwe or Spear of the Nation was formed and Mandela went to Algeria for military training. On his return to South Africa, he was arrested in August 1962 and sentenced to five years in prison but then, following the arrest of ANC colleagues at Rivonia, he was tried again for treason and conspiracy and sentenced to life imprisonment in June 1964. He spent 18 years on the infamous Robben Island but he never lost touch with the outside world. His autobiography was written at this time and secretly sent out of prison, to be published later under the title Long Walk to Freedom. Mandela was moved to Pollsmoor Prison near Cape Town and finally to Victor Vester prison. By now, Mandela had become the icon for resistance to apartheid and finally, bowing to international and domestic pressure, the South African government lifted the ban on the ANC and released Mandela in February 1990. In 1993 Mandela and the President of South Africa, De Klerk, won the Nobel Peace Prize for their efforts to resolve the conflict between races, and in 1994 Mandela became the new President.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชีวประวัติของเนลสันมันเดลาอ่านเช่นเรื่องศีลธรรม นี่คือคนที่ขึ้นอยู่ตามสังคมเหยียดสีผิวปีจำคุก สำหรับส่วนมากของเวลา ในการลดเงื่อนไข อัปยศ ที่บ่งบอกไตรมาสของศตวรรษต่อมาจะกลายเป็น ประธานาธิบดีของประเทศของเขาและผู้ชนะรางวัลโนเบลสันติภาพ เนลสันมันเดลามาช้าการเคลื่อนไหวทางการเมือง เขาเติบโตเป็นเด็กอภิสิทธิ์สมเหตุสมผล และไม่แสดงการแบ่งแยกเชื้อชาติซึ่งได้กลายเป็น institutionalized ในประเทศของเขาจนมหาวิทยาลัยอายุ 24 แต่เมื่อเขารู้จักต้องสู้ เขาไม่สามารถยังคงเงียบ และเขาถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยฟอร์ตกระต่ายใน ๒๔๘๓ การมีส่วนร่วมในการสาธิตของนักเรียน เขาไม่ได้ให้ค่าในระดับมหาวิทยาลัยของเขา อย่างไรก็ตาม ในที่สุดก็สำเร็จหลักสูตร โดยการติดต่อในปี 1942 เขาก็จะเป็น นักเรียนดำแรกที่มหาวิทยาลัยของ Witwatersrand ที่เขาศึกษากฎหมาย แม้ว่าเขาไม่เคยสำเร็จหลักสูตรจะ เขาเข้าร่วมใน "สภาแห่งชาติแอฟริกา" (เมือปี) ซึ่งได้ต่อสู้เพื่อตนเองในสังคมหลายเชื้อชาติ แต่เมื่อในชาติพรรค (NP) มาสู่อำนาจในแอฟริกาใต้ในค.ศ. 1948 นำนโยบายบังคับการแบ่งแยกเชื้อชาติ ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกเป็นการแบ่งแยกสีผิว โดย 1952 เมือปีถูกสนับสนุนให้ผู้ชุมนุมไม่เชื่อฟังกฎหมายที่มุ่งแข่งขันในชีวิตประจำวันการเอ็กซ์ปอร์ต อย่างไรก็ตาม มันเดลาเรียกร้องให้ผู้ประท้วงการใช้ความรุนแรง แม้ว่ามีใช้ความรุนแรงกับพวกเขามันเดลาได้ไม่ justprotest บนท้องถนน กับเพื่อนของเขา โอลิเวอร์โฟร์ เขาเปิดปฏิบัติกฎหมายในโจฮันเนสเบิร์ก และยังคงทำงานมีผ่านเขาห้าปีนานกบฏทดลองซึ่งเจ้าหน้าที่แบ่งระยะเป็นเมือปีกลายเป็นหัวรุนแรงขึ้นหน้า harsher และ harsher กฎหมายเหยียดสีผิว ใน 1961 มันเดลาได้รับการยอมรับไม่มีความผิด แต่เขารู้มีการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา เขาไปใต้ดิน และการยอมรับต้องการประท้วงรุนแรง แม้หลังจากการสังหารหมู่ของดำ 69 ใน Sharpeville อาร์มทหารเมือปี Umkhonto เรา Sizwe หรือหอกของประเทศก่อตั้ง และมันเดลาไปแอลจีเรียสำหรับฝึกทหาร เขากลับไปยังแอฟริกาใต้ เขาถูกจับกุมในเดือน 1962 สิงหาคม และพิพากษาถึงห้าปีในคุกแต่แล้ว ต่อจับของเพื่อนร่วมงานเมือปีที่ Rivonia เขาได้พยายามอีกการกบฏสมคบคิด และคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตสถานใน 1964 มิถุนายน เขาใช้เวลา 18 ปีบนเกาะร็อบเบินอับอาย แต่เขาไม่เคยหายไปสัมผัสกับโลกภายนอก อัตชีวประวัติของเขาถูกเขียนในขณะนี้ และแอบส่งออกจากคุก การเผยแพร่ต่อภายใต้ชื่อยาวเดินในอิสรภาพ มันเดลาถูกย้ายไปเรือนจำ Pollsmoor ใกล้เมืองเคปทาวน์ และสุดท้าย กับวิคเตอร์ Vester จำคุก ตอน มันเดลาได้กลายเป็น ไอคอนสำหรับต่อต้านการแบ่งแยกสีผิว และสุดท้าย โค้งกดดันภายในประเทศ และต่างประเทศ รัฐบาลแอฟริกาใต้ยกบ้านบนเมือปีการปล่อยตัวมันเดลาในเดือน 1990 กุมภาพันธ์ มันเดลา 1993 ในและประธานาธิบดีของประเทศแอฟริกาใต้ De Klerk มันเดลาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพสำหรับความขัดแย้ง ระหว่างเชื้อชาติ และ ในปี 1994 เป็น ประธานาธิบดีใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติของ Nelson Mandela อ่านเหมือนกับเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมที่ นี่คือชายที่อยู่ในสังคมทางด้านเชื้อชาติที่จะปีของโทษจำคุกสำหรับเวลาที่อยู่ในเงื่อนไขลดลงและมันน่าอับอายมากที่สุดที่คุมหนึ่งในสี่ของศตวรรษที่ใน ภายหลัง กลายเป็นประธานาธิบดีของประเทศของเขาและรางวัลโนเบลสาขา สันติภาพ ผู้ได้รับรางวัล เนลสันแมนเดลามาอย่างช้าๆเพื่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองเขาเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กพิเศษที่เหมาะสมและไม่ได้สัมผัสกับการเลือกปฏิบัติทางด้านเชื้อชาติซึ่งจะกลายเป็นยุทธวิธีที่กำหนดไว้ในประเทศของเขาจนกว่าเขาจะได้อยู่ที่มหาวิทยาลัยที่มีอายุต่ำกว่า 24 แต่เมื่อเขาได้รับการยอมรับว่าได้สรุปว่าศาสนานั้นไม่ใช่สาเหตุที่เขาไม่สามารถจะยังคงไม่มีเสียงและเขาก็ถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยของ Fort กระต่ายป่าในปี 1940 สำหรับการเป็นส่วนหนึ่งในการสาธิตนักศึกษาเขาไม่ได้ทำให้ได้ในระดับมหาวิทยาลัยของเขาอย่างไรก็ตามในที่สุดการสำเร็จหลักสูตรโดยทางไปรษณีย์ใน 1942 เขาก็จะกลายเป็นสีดำเป็นครั้งแรกที่นักเรียนนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย witwatersrand ที่เขาศึกษากฎหมายแม้ว่าเขาไม่เคยเสร็จสมบูรณ์แล้วแน่นอนว่าที่ เขาเข้าร่วมการประชุมระดับชาติแอฟริกันที่"( ANC )ซึ่งเป็นการต่อสู้ในแบบบริการตัวเอง - ความตั้งใจมุ่งมั่นเพื่อสังคมเชื้อชาติที่หลากหลายที่แต่เมื่อชาติอื่น( NP )มาเป็นพลังงานในแอฟริกาใต้ในปี 1948 ,และนโยบายของถูกบังคับให้การแบ่งแยกชนเผ่าซึ่งได้กลายมาเป็นที่รู้จักทั่วโลกเป็นแบ่งแยกสีผิว. โดยปี 1952 ANC แล้วมีกำลังใจผู้ประท้วงในการปฏิเสธในการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีเป้าหมายอยู่ที่ segregating แข่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามแมนเดลาเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมประท้วงที่จะไม่ใช้ความรุนแรงแม้จะใช้ความรุนแรงกับเขาแมนเดลาไม่ justprotest บนถนนสายต่างๆ พร้อมด้วยเพื่อนของเขาไปยัง Oliver tambo เขาเปิดให้บริการการปฏิบัติตามกฎหมายในเมือง Johannesburg และต่อเนื่องในการทำงานมีผ่านการทดลองใช้งานกบฏห้าปีของเขาซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดแสดงบนเวทีเป็น ANC ที่กลายเป็นคริสต์ศาสนิกชนมากกว่าในหน้าที่ของกฎหมายทางด้านเชื้อชาติขยายเวลาบังคับใช้และขยายเวลาบังคับใช้ ในปี 1961 แมนเดลาเป็นที่รู้จักว่าไม่มีความผิดแต่เขาก็ตระหนักได้ว่าชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปเขาก็ไปชั้นใต้ดินและได้รับการยอมรับความต้องการสำหรับการประท้วงอย่างรุนแรงหลังจากการสังหารหมู่ 69 คนผิวดำใน sharpeville เปิดทางทหารของ ANC ที่ umkhonto เรา sizwe หรือหอกของประเทศชาติที่มาและแมนเดลาไปแอลจีเรียในการฝึกอบรมทางทหาร. ในระหว่างการเดินทางกลับของเขาไปแอฟริกาใต้เขาก็ถูกจับในเดือนสิงหาคม 1962 และตัดสินจำคุกห้าปีแต่แล้วต่อไปนี้การจับกุมเพื่อนร่วมงาน ANC ที่ rivonia เขาก็พยายามอีกครั้งสำหรับสมคบคิดกันและการกบฏและถูกตัดสินจำคุกให้จำคุกชีวิตในเดือนมิถุนายน 1964 เขาใช้เวลา 18 ปีรวมถึง Robben Island ที่มีชื่อเสียงไปแต่เขาก็ไม่เคยลืมสัมผัสกับโลก ภายนอก อัตชีวประวัติของเขาเขียนขึ้นในช่วงเวลานี้และแอบส่งออกมาจากคุกยังได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ใน ภายหลัง ภายใต้ ชื่อนี้มานานได้เดินไปยังมีอิสระแมนเดลาได้ย้ายมา pollsmoor คุกอยู่ใกล้กับเมือง Cape Town และสุดท้ายเพื่อผู้มีชัย vester คุก โดยในตอนนี้แมนเดลาได้กลายเป็นไอคอนสำหรับการต่อต้านการแบ่งแยกสีผิวและโค้งสุดท้ายกับความดัน ภายใน ประเทศและนานาชาติรัฐบาลแอฟริกันใต้จะยกบ้านที่อยู่บน ANC และเผยแพร่ Mandela ในเดือน กุมภาพันธ์ 1990 ในปี 1993 แมนเดลาและให้ประธานของแอฟริกาใต้ de klerkได้รับรางวัลโนเบลสาขา สันติภาพ ได้รับรางวัลสำหรับความพยายามของเขาในการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติแมนเดลาและในปี 1994 ได้กลายมาเป็นประธานคนใหม่