How much of you is water?The amount

How much of you is water?
The amount of water in the body varies depending on age, gender, and body build. In nonobese adults, intracellular fluid constitutes approximately 40% of body weight, and extracellular fluid, 20%.1,4(See How body fluid is distributed.)
Lean body muscle mass is rich in water, while adipose tissue has a lower percentage of water content. Because of this, someone who's overweight or obese has a lower percentage of water overall compared with someone who's lean and muscular. Similarly, women typically have a lower percentage of total body water than men due to a higher percentage of body fat. Older adults tend to have a lower concentration of water overall, due to an age-related decrease in muscle mass. Conversely, children tend to have a higher percentage of water weight—as much as 80% in a full-term neonate.1,4
Fluids don't remain static within body compartments; instead, they move continuously among them to maintain homeostasis. Cell membranes are semipermeable, meaning they allow fluid and some solutes (particles dissolved in a solution) to pass through.
Fluids and electrolytes move between compartments via passive and active transport. Passive transport occurs when no energy is required to cause a shift in fluid and electrolytes. Diffusion, osmosis, and filtration are examples of passive transport mechanisms that cause body fluid and electrolyte movement.2
Osmolality and osmolarity are two similar terms that are often confused. Osmolality, which is usually used to describe fluids inside the body, refers to the solute concentration in fluid by weight: the number of milliosmols (mOsm) in a kilogram (kg) of solution. Osmolarity refers to the solute concentration in fluid by number of mOsm per liter (L) of solution. Because 1 L of water weighs 1 kg, the normal ranges are the same and the terms are often used interchangeably.
Changes in the level of solute concentration influence the movement of water between the fluid compartments. The normal osmolality for plasma and other body fluids varies from 270 to 300 mOsm/L. Optimal body function occurs when the osmolality of fluids in all the body compartments is close to 300 mOsm/L. When body fluids are fairly equivalent in this particle concentration, they're said to be isotonic.
Fluids with osmolalities less than 270 mOsm/L are hypotonic in comparison with isotonic fluids, and fluids with osmolalities greater than 300 mOsm/L are hypertonic.2 Tonicity of I.V. fluids will be discussed in detail later in this article.
Through the use of mechanisms such as thirst, the renin-angiotensin-aldosterone system, antidiuretic hormone, and atrial natriuretic peptide, the body works to maintain appropriate fluid and electrolyte levels and to prevent imbalances within the body. When an imbalance occurs, you must be able to identify the cause of the problem and monitor the patient during treatment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จำนวนของคุณคือน้ำจำนวนน้ำในร่างกายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และร่างกายสร้าง ในผู้ใหญ่ nonobese, intracellular fluid ถือประมาณ 40% ของร่างกายน้ำหนัก และ extracellular fluid, 20% .1,4 (ดูวิธีกระจายของเหลวในร่างกาย)เอนร่างกายกล้ามเนื้อมวลมีน้ำ ในขณะที่เปลวมีเปอร์เซ็นต์ต่ำของน้ำ ด้วยเหตุนี้ คนที่มีน้ำหนักมากกว่าปกติ หรืออ้วนมีเปอร์เซ็นต์ต่ำของน้ำโดยรวม เมื่อเทียบกับคนที่เป็นแบบ lean และกล้ามเนื้อ ในทำนองเดียวกัน หญิงโดยทั่วไปมีเปอร์เซ็นต์ต่ำของน้ำในร่างกายรวมกว่าผู้ชายเนื่องจากระดับร้อยละของไขมันในร่างกาย ผู้ใหญ่คนสูงอายุมักจะ มีความเข้มข้นต่ำกว่าน้ำคำ เนื่องจากการที่เกี่ยวข้องกับอายุลดลงกล้ามเนื้อโดยรวม ในทางกลับกัน เด็กมักจะ มีเปอร์เซ็นต์สูงของน้ำหนักน้ำ — ถึง 80% ใน neonate.1,4 เต็มคำของเหลวไม่อยู่คงที่ภายในช่องเนื้อ แทน พวกเขาไปอย่างต่อเนื่องในหมู่พวกเขารักษาภาวะธำรงดุล เยื่อหุ้มเซลล์เป็น semipermeable หมายถึง ให้ของเหลวและบาง solutes (อนุภาคละลายในโซลูชัน) ผ่านของเหลวและไลต์ย้ายระหว่างช่องผ่านพาสซีฟและการลำเลียงแบบใช้พลังงาน Passive ขนส่งเกิดขึ้นเมื่อจำเป็นต้องใช้พลังงานไม่ทำกะไลต์และของเหลว แพร่ osmosis และน้ำเป็นตัวอย่างของ passive ถ่ายที่ทำให้ร่างกายของเหลวและอิเล็กโทร movement.2Osmolality และ osmolarity มีเงื่อนไขคล้ายคลึงกันสองที่มักจะสับสน Osmolality ซึ่งมักจะใช้ในการอธิบายของเหลวภายในร่างกาย หมายถึงความเข้มข้นของตัวถูกละลายในของเหลว โดยน้ำหนัก: หมายเลข milliosmols (mOsm) กิโลกรัม (กก.) ของโซลูชัน Osmolarity หมายถึงความเข้มข้นของตัวถูกละลายในของเหลว โดยจำนวน mOsm ต่อลิตร (L) ของโซลูชัน เนื่องจาก L 1 น้ำน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ช่วงปกติจะเหมือนกัน และคำมักใช้สลับกันการเปลี่ยนแปลงในระดับของความเข้มข้นของตัวถูกละลายมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนที่ของน้ำระหว่างช่องของเหลว Osmolality ปกติสำหรับพลาสมาและของเหลวอื่น ๆ ร่างกายตั้งแต่ 270 ถึง 300 mOsm/L. เหมาะสมร่างกายทำงานเกิดขึ้นเมื่อมี osmolality ของของเหลวในช่องตัว 300 mOsm/L. เมื่อของเหลวในร่างกายค่อนข้างเทียบเท่าในความเข้มข้นอนุภาคนี้ พวกเขากำลังกล่าวว่า เป็น isotonicของเหลวที่ มี osmolalities น้อยกว่า 270 mOsm/L เมื่อเปรียบเทียบกับของเหลว isotonic hypotonic และของเหลว มีมากกว่า 300 mOsm/L osmolalities hypertonic.2 Tonicity I.V. ของเหลวที่จะกล่าวถึงในรายละเอียดในบทความนี้โดยใช้กลไกความกระหาย ระบบ renin พเตอร์ aldosterone การฮอร์โมน และเพปไทด์ natriuretic หัวใจเต้น ร่างกายทำงาน เพื่อรักษาระดับของเหลวและอิเล็กโทรที่เหมาะสม และ เพื่อป้องกันความไม่สมดุลภายในร่างกาย เมื่อความไม่สมดุลเกิดขึ้น คุณต้องสามารถระบุสาเหตุของปัญหา และตรวจสอบผู้ป่วยขณะทำการรักษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เท่าใดของคุณเป็นน้ำ
ปริมาณน้ำในร่างกายแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอายุเพศและร่างกายสร้าง ในผู้ใหญ่อ้วนของเหลวภายในเซลล์ที่ถือว่าเป็นประมาณ 40% ของน้ำหนักตัวและของเหลว 20% .1,4 (ดูของเหลวในร่างกายเป็นวิธีการกระจาย.)
มวลกล้ามเนื้อของร่างกายที่อุดมไปด้วยน้ำในขณะที่เนื้อเยื่อไขมันมีอัตราที่ต่ำกว่า ปริมาณน้ำ ด้วยเหตุนี้คนที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนมีอัตราที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับน้ำโดยรวมที่มีคนที่ติดมันและกล้ามเนื้อ ในทำนองเดียวกันผู้หญิงมักจะมีอัตราที่ต่ำกว่าน้ำในร่างกายทั้งหมดมากกว่าผู้ชายเนื่องจากมีสัดส่วนที่สูงของไขมันในร่างกาย ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะมีความเข้มข้นลดลงของน้ำโดยรวมเนื่องจากการลดลงที่เกี่ยวข้องกับอายุในมวลกล้ามเนื้อ ตรงกันข้ามเด็กมีแนวโน้มที่จะมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นของน้ำเป็นน้ำหนักมากถึง 80% ในปีเต็มระยะ neonate.1,4
ของเหลวไม่ได้อยู่คงที่ภายในช่องร่างกาย แทนพวกเขาย้ายอย่างต่อเนื่องในหมู่พวกเขาเพื่อรักษาสภาวะสมดุล เยื่อหุ้มเซลล์มี semipermeable หมายถึงพวกเขาช่วยให้ของเหลวและบางตัวถูกละลาย (อนุภาคที่ละลายในสารละลาย) ผ่าน.
ของเหลวและอิเล็กย้ายไปมาระหว่างช่องทางขนส่ง passive และ active การขนส่งเรื่อย ๆ เกิดขึ้นเมื่อพลังงานไม่จำเป็นต้องที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในของเหลวและอิเล็กโทร แพร่ออสโมซิ, และการกรองเป็นตัวอย่างของกลไกการขนส่งเรื่อย ๆ ที่ก่อให้เกิดของเหลวในร่างกายและอิเล็กโทร movement.2
osmolality และ osmolarity เป็นสองคำที่คล้ายกันที่มักจะสับสน osmolality ซึ่งมักจะใช้เพื่ออธิบายของเหลวภายในร่างกายหมายถึงความเข้มข้นของตัวถูกละลายในของเหลวโดยน้ำหนัก: จำนวน milliosmols (mOsm) ในกิโลกรัม (กก.) ของการแก้ปัญหา osmolarity หมายถึงความเข้มข้นของตัวถูกละลายในของเหลวจากจำนวน mOsm ต่อลิตร (L) ของการแก้ปัญหา เพราะ 1 ลิตรของน้ำที่มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัมในเกณฑ์ปกติจะเหมือนกันและคำที่มักจะใช้สลับกัน.
การเปลี่ยนแปลงในระดับของความเข้มข้นของตัวถูกละลายที่มีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของน้ำระหว่างช่องของเหลว osmolality ปกติสำหรับพลาสม่าและของเหลวในร่างกายอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไป 270-300 mOsm / L การทำงานของร่างกายที่ดีที่สุดเกิดขึ้นเมื่อ osmolality ของของเหลวในทุกช่องร่างกายอยู่ใกล้กับ 300 mOsm / L เมื่อของเหลวในร่างกายเป็นธรรมเทียบเท่าความเข้มข้นของอนุภาคนี้พวกเขากำลังบอกว่าจะเป็น isotonic.
ของเหลวที่มี osmolalities น้อยกว่า 270 mOsm / L เป็น hypotonic ในการเปรียบเทียบกับของเหลว isotonic และของเหลวที่มี osmolalities มากกว่า 300 mOsm / ลิตรมี hypertonic.2 tonicity ของของเหลว IV จะมีการหารือในรายละเอียดในบทความนี้.
ผ่านการใช้กลไกเช่นกระหายน้ำระบบ renin-angiotensin-aldosterone ฮอร์โมน antidiuretic และเปปไทด์ atrial natriuretic ร่างกายทำงานเพื่อรักษาของเหลวที่เหมาะสมและระดับและอิเล็กโทร เพื่อป้องกันความไม่สมดุลภายในร่างกาย เมื่อความไม่สมดุลเกิดขึ้นคุณจะต้องมีความสามารถในการระบุสาเหตุของปัญหาและตรวจสอบผู้ป่วยในระหว่างการรักษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เท่าไหร่คุณน้ำ
ปริมาณของน้ำในร่างกายแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอายุ เพศ และร่างกายสร้าง ในผู้ใหญ่เด็กไม่ถือภายในของเหลวประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ของน้ำหนักตัว และพบว่า ของเหลว , 20% 1 , 4 ( เห็นว่าของเหลวในร่างกายกระจาย )
มวลกล้ามเนื้อของร่างกายที่อุดมไปด้วยน้ำ ขณะเนื้อเยื่อไขมันมีเปอร์เซ็นต์การลดลงของปริมาณน้ำ เพราะเหตุนี้คนอ้วน หรือตุ๊ มีเปอร์เซ็นต์ต่ำของน้ำโดยรวมเมื่อเทียบกับคนที่ ปอด และกล้ามเนื้อ ในทำนองเดียวกัน ผู้หญิงโดยทั่วไปจะลดเปอร์เซ็นต์ของปริมาณรวมของน้ำในร่างกายมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากเปอร์เซ็นต์สูงของไขมันในร่างกาย ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะมีความเข้มข้นต่ำของน้ำโดยรวม เนื่องจากการลดลงของมวลกล้ามเนื้อ ในทางกลับกันเด็กมีแนวโน้มที่จะมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นของน้ำหนักน้ำได้มากถึง 80% ในในระยะทารก . 1 , 4
ของเหลวไม่คงที่ภายในช่องตัว แทน พวกเขาย้ายอย่างต่อเนื่องของพวกเขาเพื่อรักษาความสมดุลของร่างกาย เยื่อหุ้มเซลล์ เป็นยา หมายความว่า พวกเขาอนุญาตให้ของเหลวและสารละลาย ( อนุภาคที่ละลายในสารละลาย
) ผ่านของเหลวและเกลือแร่ไประหว่างช่องผ่าน passive และ active การขนส่ง การขนส่งเรื่อยๆเกิดขึ้นเมื่อไม่มีความต้องการพลังงานที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในของเหลวและอิเล็กโทร . แพร่ , ออสโมซิสและการกรองคือตัวอย่างของกลไกที่ทำให้ของเหลวในร่างกายเรื่อยๆการขนส่งและการเคลื่อนไหวอิเล็กโทรไลต์ และค่าออสโมลาลิตี้ 2
ำเงื่อนไขคล้ายกันสองที่มักสับสน โมลาลิตี้ ,ซึ่งมักจะใช้เพื่ออธิบาย ของเหลวภายในร่างกาย หมายถึง ตัวละลายในน้ำความเข้มข้นโดยน้ำหนัก : จำนวน milliosmols ( mOsm ) กิโลกรัม ( กก. ) ของสารละลาย ำหมายถึงตัวทำละลายความเข้มข้นในของไหลโดยหมายเลข mOsm / ลิตร ( L ) ของสารละลาย เพราะ 1 ลิตรของน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ช่วงปกติเหมือนเดิม และเงื่อนไขที่มักจะใช้สลับ
การเปลี่ยนแปลงในระดับของความเข้มข้นของสารละลายมีผลต่อการเคลื่อนที่ของน้ำระหว่างช่องของเหลว ค่าปกติของเลือดและของเหลวอื่น ๆร่างกายที่แตกต่างจาก 270 mOsm / L 300 ฟังก์ชันของร่างกายที่ดีที่สุดจะเกิดขึ้นเมื่อค่าของของเหลวในช่องทั้งหมดร่างกายไปเกือบ 300 mOsm / L . เมื่อของเหลวในร่างกายค่อนข้างเทียบเท่าในอนุภาค ความเข้มข้นพวกเขากล่าวว่าเป็น isotonic .
ของเหลวกับ osmolalities น้อยกว่า 270 mOsm / L เป็นไฮโพทอนิกในการเปรียบเทียบกับของเหลว isotonic และของเหลวกับ osmolalities มากกว่า 300 mOsm / L มีไฮเปอร์โทนิก 2 โทนิกซิตีของเกลือจะได้กล่าวในรายละเอียดต่อไปในบทความนี้ .
ผ่านการใช้กลไก เช่น กระหาย , เรนินแองจิโอเทนซิน aldosterone ฮอร์โมนแอนติไดยูเรติก , ระบบหัวใจและ natriuretic เปปไทด์ , ร่างกายทำงานเพื่อรักษาของเหลวและอิเล็กโทรไลต์ในระดับที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันความไม่สมดุลภายในร่างกาย เมื่อมีความไม่สมดุลเกิดขึ้น คุณจะต้องสามารถระบุสาเหตุของปัญหา และดูแลผู้ป่วยระหว่างการรักษา