Social and political tensions in Eu

Social and political tensions in Europe are reaching new heights. Fear of migrants fuels nationalist sentiments and religious animosities are becoming serious. Many people are tempted to break away from what they see as dysfunctional: old political elites, Schengen, the euro, or ‘Brussels’ in general. After fretfully accepting a million asylum-seekers last year, almost all European leaders now seem to be focused squarely on limiting the numbers. There is little confidence left to do more.

Events unfold quickly but, in my view, growing populism and anti-Europeanism are still mainly a consequence of the widespread economic insecurity produced by conservative policies in the first half of this decade.

The long economic crisis, aggravated by the Eurozone’s fragile set-up and abrupt fiscal consolidation, has caused severe social hardship, undermined investment in future growth and deepened inequalities both within and between countries.

More recent challenges such as renewed geopolitical instability, terror attacks/threats and refugee inflows are not the main cause why anti-EU forces are gaining each day. The basic underlying anxiety is socio-economic in origin and relates to the worsening of economic perspectives for the large majority of Europeans over many years.

The centre-left, for its part, is now paying the price for its timidity and weak coordination in the early years of the euro crisis. Our ideas may not have been ‘austerity-lite’, but our actions often were. The Economic and Monetary Union is being repaired in a very incremental way, ‘our’ investment plan carries the name of J.-C. Juncker and has almost no new public money in it, and talks on a scaled-down Financial Transaction Tax are still on-going. Moreover, we have championed the Youth Guarantee, but otherwise we have been too slow in coming up with a serious agenda of progressive reforms.

Can these worrying trends change before it is too late? Can Europe regain popular support, can social democratic parties win back voters, and can a robust economic recovery be achieved at last?

Individual governments cannot change much quickly, especially in the Eurozone. Structural reforms take time, notably the useful ones, while national monetary and fiscal policies are either non-existent or heavily constrained.

Yet a lot could be changed together, collectively, if we actually had a political debate on Eurozone economic policy and really managed our currency union as a single economic entity, which it is.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความตึงเครียดทางสังคม และการเมืองในยุโรปมุ่งใหม่ ความกลัวความรู้สึกชาตินิยมของเชื้อเพลิงอพยพและขื่นศาสนาจะกลายเป็นร้ายแรง หลายคนที่อยากหลุดพ้นจากสิ่งที่เห็นเป็นผิดปกติ: ร่ำรวยทางการเมืองที่เก่าแก่ เชงเก้น ยูโร หรือบรัสเซลส์ในทั่วไป หลังจาก fretfully รับล้านลี้ปี ผู้นำยุโรปเกือบทั้งหมดขณะนี้ดูเหมือนจะมุ่งมั่นเริ่มจำกัดหมายเลข มีความเชื่อมั่นน้อยที่ต้องทำเพิ่มเติมเหตุการณ์แฉอย่างรวดเร็ว แต่ ชม ประชานิยมที่เติบโตและ Europeanism ป้องกันอยู่ยังคงส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจนั้นการที่ผลิต โดยนโยบายอนุรักษ์นิยมในครึ่งแรกของทศวรรษนี้วิกฤตเศรษฐกิจยาว เพียงไม่กี่วันของยูโรโซนเปราะบางการตั้งค่าและการรวมบัญชีทางการเงินทันทีทันใด เกิดขึ้นจากสังคมความรุนแรง ทำลายการลงทุนในอนาคตและความไม่เท่าเทียมกันลึกทั้งภายใน และ ระหว่างประเทศความท้าทายล่าสุดเช่นต่ออายุความไม่เสถียรของภูมิศาสตร์การเมือง การโจมตีก่อการร้าย/ภัย และผู้ลี้ภัยไหลเข้าไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำไมกองกำลังต่อต้าน-EU จะได้รับแต่ละวัน ความวิตกกังวลที่อยู่ภายใต้พื้นฐานคือเศรษฐกิจ-สังคมในจุดเริ่มต้น และสัมพันธ์กับการกำเริบของมุมมองทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่ของชาวยุโรปมาหลายปีกลางซ้าย ส่วน ตอนชำระเงินราคา timidity และประสานงานที่อ่อนแอในช่วงต้นปีเกิดวิกฤติยูโร ความคิดของเราอาจไม่ได้รับ 'ความเข้มงวดไลท์' แต่เรามักจะได้ เศรษฐกิจและสหภาพทางการเงินถูกซ่อมแซมในทางเพิ่มขึ้นมาก แผนลงทุน 'ของเรา' เป็นชื่อของ J. C. Juncker มีเกือบเงินสาธารณะไม่ใหม่ในนั้น และในการลดขนาดลงภาษีธุรกรรมทางการเงินยังคงจะ นอกจากนี้ เรามี championed รับประกันเยาวชน แต่มิฉะนั้น เราแล้วช้าเกินไปในการมาถึงด้วยวาระที่ร้ายแรงของการปฏิรูปก้าวหน้าสามารถเปลี่ยนแนวโน้มกังวลเหล่านี้ก่อนที่จะสายเกินไป ยุโรปสามารถฟื้นการสนับสนุนยอดนิยม สามารถบุคคลสังคมประชาธิปไตยชนะกลับผู้ลงคะแนน และการกู้คืนข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะได้ในที่สุดแต่ละรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงมากอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยูโรโซนได้ ปฏิรูปโครงสร้างใช้เวลา สะดุดตามีประโยชน์คน ในขณะที่เงินแห่งชาติ และนโยบายทางการเงินไม่มีอยู่ หรือมีข้อจำกัดอย่างมากยัง มากสามารถเปลี่ยนแปลงด้วยกัน รวม กัน ถ้าเราได้ มีการอภิปรายทางการเมืองนโยบายเศรษฐกิจยูโรโซน และจริง ๆ จัดการสหภาพการเงินของเราเป็นเศรษฐกิจองค์กรเดียว ซึ่งเป็นการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความตึงเครียดทางสังคมและการเมืองในยุโรปจะถึงความสูงใหม่ ความกลัวของผู้อพยพเชื้อเพลิงความรู้สึกชาตินิยมและ animosities ศาสนาจะกลายเป็นที่ร้ายแรง มีหลายคนที่อยากจะหนีออกไปจากสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าผิดปกติ: ชนชั้นสูงทางการเมืองเก่าเชงเก้นยูโรหรือ 'กรุงบรัสเซลส์ในทั่วไป หลังจากปัดๆยอมรับล้านแสวงหาที่ลี้ภัยปีที่ผ่านมาเกือบทุกผู้นำยุโรปในขณะนี้ดูเหมือนจะมุ่งเน้นเต็มที่ในการ จำกัด จำนวน มีความเชื่อมั่นของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องทำมากขึ้น. เป็นเหตุการณ์แฉอย่างรวดเร็วแต่ในมุมมองของฉันเติบโตประชานิยมและต่อต้าน Europeanism ยังคงอยู่ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางผลิตโดยนโยบายอนุรักษ์นิยมในช่วงครึ่งแรกของทศวรรษนี้. วิกฤตเศรษฐกิจยาว กำเริบโดยเปราะบางยูโรโซนของการตั้งค่าและทันทีทันใดการรวมงบการเงินได้ก่อให้เกิดความยากลำบากทางสังคมอย่างรุนแรงลงทุนทำลายในการเจริญเติบโตในอนาคตและลึกความไม่เท่าเทียมกันทั้งภายในและระหว่างประเทศ. ความท้าทายอื่น ๆ ที่ผ่านมาเช่นการต่ออายุความไม่แน่นอนทางการเมือง, การโจมตีก่อการร้าย / ภัยคุกคามและการไหลเข้าของเงินผู้ลี้ภัย ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักว่าทำไมกองกำลังต่อต้านสหภาพยุโรปกำลังได้รับในแต่ละวัน ความวิตกกังวลพื้นฐานพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมในการให้กำเนิดและเกี่ยวข้องกับการถดถอยของมุมมองทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของยุโรปเป็นเวลาหลายปี. ศูนย์ซ้ายสำหรับส่วนของตนอยู่ในขณะนี้จ่ายราคาสำหรับความหวาดกลัวและการประสานงานที่อ่อนแอใน ในช่วงปีแรกของวิกฤตยูโร ความคิดของเราอาจไม่ได้รับ 'ความเข้มงวด-Lite' แต่การกระทำของเรามักจะมี เศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศสหภาพจะถูกซ่อมแซมในทางที่เพิ่มขึ้นมากแผนการลงทุนของเรา 'นำชื่อของ J.-C. Juncker และแทบไม่มีเงินของประชาชนใหม่ในนั้นและพูดคุยเกี่ยวกับลดขนาดลงภาษีธุรกรรมทางการเงินยังคงมีต่อเนื่อง นอกจากนี้เราได้ปกป้องเยาวชนรับประกัน แต่อย่างอื่นที่เราได้รับช้าเกินไปในการมากับวาระการประชุมที่ร้ายแรงของการปฏิรูปก้าวหน้า. แนวโน้มกังวลเหล่านี้สามารถเปลี่ยนก่อนที่มันจะสายเกินไป? ยุโรปสามารถฟื้นความนิยมสามารถบุคคลที่สังคมประชาธิปไตยชนะกลับผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งสามารถทำได้ที่ผ่านมารัฐบาลส่วนบุคคลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วมากโดยเฉพาะในยูโรโซน การปฏิรูปโครงสร้างการใช้เวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีประโยชน์ในขณะที่ชาตินโยบายการเงินและนโยบายการคลังมีทั้งที่ไม่มีอยู่จริงหรือข้อ จำกัด อย่างมาก. แต่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปมากด้วยกันเรียกรวมกันว่าถ้าเราจริงมีการอภิปรายทางการเมืองเกี่ยวกับนโยบายทางเศรษฐกิจของยูโรโซนและการบริหารจัดการจริงๆของเรา สหภาพสกุลเงินที่เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจเดียวที่มันเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สังคม และความตึงเครียดทางการเมืองในยุโรปถึงความสูงใหม่ ความกลัวของแรงงานเชื้อเพลิงชาตินิยมและศาสนา sentiments animosities ร้ายแรงเป็น หลายคนอยากที่จะแบ่งออกไปจากสิ่งที่เห็นเป็นความผิดปกติ : การเมืองเก่า elites เชงเก้น ยูโร หรือ ' บรัสเซลส์ในทั่วไป หลังจากเดทรับล้านผู้แสวงหาการลี้ภัยเมื่อปีที่แล้ว เกือบทั้งหมดของผู้นำยุโรปในขณะนี้ดูเหมือนจะมุ่งเน้นอย่างเต็มที่ในการจำกัดจำนวน มีความมั่นใจเหลือน้อยที่จะทำมากกว่าเหตุการณ์คลี่คลายโดยเร็ว แต่ในมุมมองของผม การเติบโต และต่อต้าน europeanism ยังคงส่วนใหญ่เกิดจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง ผลิตโดยนโยบายอนุรักษ์นิยมในช่วงครึ่งแรกของทศวรรษนี้วิกฤติเศรษฐกิจ , aggravated โดยของยูโรโซนเปราะบางการตั้งค่าและทันทีทันใด งบประมาณรวม ได้ก่อให้เกิดความยากลำบากทางสังคมอย่างรุนแรง ทำลายการลงทุนในการเจริญเติบโตในอนาคต และความไม่เท่าเทียมกันมากขึ้น ทั้งภายในและระหว่างประเทศความท้าทายมากขึ้นล่าสุดเช่นการขาดเสถียรภาพทางการเมือง , ภัยคุกคามและการโจมตี / กระแสผู้ลี้ภัยไม่ได้เป็นสาเหตุหลักทำให้กองกำลังต่อต้าน EU จะได้รับในแต่ละวัน พื้นฐานพื้นฐานความกังวลด้านเศรษฐกิจและสังคม ในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการถดถอยของเศรษฐกิจในมุมมองขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ของยุโรปมาหลายปีศูนย์ซ้าย สำหรับส่วนของ , คือตอนนี้จ่ายราคาของการกระทำและการประสานงานที่อ่อนแอในช่วงปีแรกของวิกฤตยูโร ความคิดของเราอาจจะไม่ได้มีความเข้มงวด ' Lite ' แต่การกระทำของเรามักจะเป็น สหภาพเศรษฐกิจและการเงินจะถูกซ่อมแซมในวิธีเพิ่ม ' แผนการลงทุนของเรา ' เป็นชื่อของเจ - ซีเกอร์ และแทบไม่มีเงินในที่สาธารณะใหม่ และพูดคุยเกี่ยวกับการปรับลงภาษีธุรกรรมทางการเงินยังคงต่อเนื่อง . นอกจากนี้เรายังสนับสนุนการรับประกันเยาวชน แต่อย่างอื่นเราได้รับช้าในขึ้นมาพร้อมกับวาระที่ร้ายแรงของการปฏิรูปที่ก้าวหน้าสามารถเหล่านี้กังวลแนวโน้มเปลี่ยนก่อนที่จะสายเกินไป ? สามารถยุโรปสนับสนุนอีกพรรคสังคมประชาธิปไตยที่เป็นที่นิยม สามารถชนะเลือกตั้ง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งได้ในที่สุดรัฐบาลแต่ละบุคคลไม่สามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยูโรโซน . การปฏิรูปโครงสร้างต้องใช้เวลา โดยเฉพาะคนที่มีประโยชน์ ขณะที่นโยบายการเงินและการคลังของชาติใดมีอยู่หรือมาก บังคับแต่มากสามารถเปลี่ยนด้วยกัน โดยรวมแล้ว ถ้าเราต้องการอภิปรายทางการเมืองต่อนโยบายเศรษฐกิจยูโรโซนและจัดการสหภาพสกุลเงินของเราเป็นองค์กรทางเศรษฐกิจเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งมันเป็น