Chanel, worth an estimated $1.5 bil

Chanel, worth an estimated $1.5 billion, is one of the largest companies in the $4 billion global perfume industry. Chanel started its success with the introduction of Chanel No. 5 perfume, which continued to be a top selling perfume into the 1990s. The company has since diversified its offerings beyond perfumes to include designer clothes and accessories, which are sold in department stores and Chanel boutiques around the world. The company boasts a rich history rife with intrigue, wealth, and scandal.

By the 1990s, the Wertheimer family of France had maintained controlling interest in Chanel for over 100 years. Chanel traces its roots back to 1870, when Ernest Wertheimer moved from Alsace, France, to Paris during the Franco-Prussian War. Shortly after his arrival he purchased an interest in a French theatrical makeup company called Bourjois. Bourjois successfully introduced dry rouge to the European market in the 1890s. The company grew rapidly, and by the early 1920s, Bourjois had begun making and distributing skin creams from his Rochester, New York, plant for cosmetic industry giant Helena Rubenstien. By the 1920s, Bourjois had become the largest cosmetics and fragrance manufacturer in France.

Though the Wertheimer family would control the finances of Chanel from its inception, the impetus and creative vision for the company came from Coco Chanel. Theophile Bader, founder of the successful French department store chain Galeries Lafayette, introduced Coco Chanel to Ernest Wertheimer's son, Pierre, in 1922. Coco Chanel sought financial help from Pierre Wertheimer to market a fragrance she had developed in 1921. An admirer of Coco Chanel, Pierre Wertheimer wanted to help her succeed and, two years after their introduction, he founded Parfums Chanel to make and sell her upscale perfume, named Chanel No. 5. Pierre Wertheimer funded the venture and retained a 70 percent ownership share in the company. Coco Chanel got a modest 10 percent of the company and Bader received 20 percent.

During the 1920s and 1930s Parfums Chanel thrived. In addition to selling the famous Chanel No. 5 perfume, the company eventually introduced other fragrances. In 1929, Pierre Wertheimer introduced Soir de Paris, a fragrance aimed at the general public and marketed through the Bourjois company. Meanwhile, Coco Chanel operated a successful fashion studio near the Louvre museum in Paris. Under an agreement with the Wertheimers, she operated her design business as a separate company, but sold the clothes under the Chanel name. Although Parfums Chanel and Coco Chanel's design business flourished, the personal relationship between Coco Chanel and Pierre Wertheimer deteriorated.

The friction between Coco Chanel and the Wertheimer family stemmed from Coco Chanel's dissatisfaction with the terms of their original agreement. Coco Chanel resented what she viewed as an attempt by the Wertheimers to exploit her talents for their own gain. She felt she should have a larger than ten percent portion of the company, and she argued that she had unwittingly signed away the rights to her own name. The Wertheimers countered her grievances with an argument that reminded Coco Chanel that the Wertheimers had funded her venture in the first place, giving her the chance to take her creations to market, and had made her a relatively wealthy woman.

In 1935 Chanel hired a Parisian attorney, Rene de Chambrun, to renegotiate her agreement with the Wertheimers. But the Wertheimers successfully quashed those attempts. Furthermore, her fashion business sputtered during the late 1930s and at 56-years-of-age Coco Chanel closed it when the Nazis invaded France. Coco Chanel found a new way to fight the Wertheimers during World War II. In fact, the Wertheimers fled the country in 1940, eventually landing in the United States. With the powerful Wertheimer family gone, Coco Chanel went to work trying to use new occupation regulations to take control of the Parfums Chanel partnership. But the savvy Wertheimers stymied that move, too. In their absence, they found an Aryan proxy to run their businesses and keep Coco Chanel at bay.

During World War II, Coco Chanel stayed in Paris, moving into the Hotel Ritz with her new paramour, Hans Gunther von Dincklage, a member of the German information service. According to one of Coco Chanel's biographers, Edmonde Charles-Roux, she played a role in a secret peace mission near the end of the War. Charles-Roux contends that German intelligence sent Coco Chanel to visit Winston Churchill as part of a secret peace mission. Coco Chanel was arrested immediately after the Liberation of France and charged with abetting the Germans, but Churchill intervened on her behalf and she was released.

After her release, Coco Chanel immediately fled France for Switzerland. Meanwhile, Pierre Wertheimer returned to Paris to resume control of his family's holdings. Despite her absence, Coco Chanel continued her assault on her former ad

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Chanel มูลค่าที่ประมาณ $1.5 พันล้าน เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมน้ำหอมระดับโลก 4 พันล้านดอลลาร์ Chanel เริ่มประสบความสำเร็จ ด้วยการแนะนำน้ำหอม Chanel หมายเลข 5 ซึ่งยังคงเป็น top จำหน่ายน้ำหอมในปี 1990 บริษัทมีตั้งแต่หลากหลายของออนไลน์เกินน้ำหอมรวมผ้าและอุปกรณ์ ที่มีจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและร้านบูติก Chanel ทั่วโลก บริษัทแห่งนี้มีประวัติด้วยเล่ห์เหลี่ยม ความมั่งคั่ง และเรื่องอื้อฉาวโดยปี 1990 ครอบครัว Wertheimer ของฝรั่งเศสได้รักษาควบคุมสนใจ Chanel กว่า 100 ปี Chanel การสืบค้นกลับไปยังเมื่อ Ernest Wertheimer ย้ายจาก Alsace ฝรั่งเศส ปารีสในช่วงสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย ค.ศ. 1870 ไม่นานหลังจาก เขาซื้อความสนใจในการแต่งหน้าละครฝรั่งเศสบริษัทที่เรียกว่า Bourjois Bourjois นำแดงแห้งเรียบร้อยแล้วไปตลาดยุโรปในคริสต์ทศวรรษ 1890 บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว และ โดยต้นศตวรรษ 1920, Bourjois เริ่มกระจาย และทำให้ครีมบำรุงผิวจากพืชเขาโรเชสเตอร์ นิวยอร์ก สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางยักษ์ Rubenstien เฮเลนา โดยปีค.ศ. 1920, Bourjois ได้กลายเป็น เครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดและผู้ผลิตน้ำหอมในฝรั่งเศสแม้ว่าครอบครัว Wertheimer จะควบคุมการเงินของ Chanel จากการก่อตั้ง แรงผลักดันและสร้างสรรค์วิสัยทัศน์ของบริษัทมาจาก Coco Chanel Theophile ท ผู้ก่อตั้งของห้างฝรั่งเศสสำเร็จกาเลอรีส์ลาฟาแยต นำ Coco Chanel ไป Ernest Wertheimer บุตร ปิแอร์ ในค.ศ. 1922 Coco Chanel ขอเงินช่วยเหลือจากปิแอร์ Wertheimer ตลาดน้ำหอมที่เธอได้พัฒนาขึ้นในปี 1921 เป็นแฟนของ Coco Chanel ปิแอร์ Wertheimer อยากช่วยเธอประสบความสำเร็จ และ สองปีหลังจากการแนะนำ ก่อตั้ง Parfums ชาแนล และขายน้ำหอมหรู ชื่อ Chanel เลข 5 ปิแอร์ Wertheimer สนับสนุนกิจการ และสะสมหุ้นโดยร้อยละ 70 ในบริษัท Coco Chanel ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เจียมเนื้อเจียมตัวของบริษัท และทได้รับ 20 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปี 1920 และปี 1930 Parfums ชาแนลรุ่งเรือง จำหน่ายน้ำหอม Chanel เลข 5 มีชื่อเสียง บริษัทก็แนะนำน้ำหอมอื่น ๆ ใน 1929 ปิแอร์ Wertheimer นำ de Paris Soir กลิ่นหอมประชาชนทั่วไป และการทำตลาด โดยบริษัท Bourjois ในขณะเดียวกัน Coco Chanel งานสตูดิโอแฟชั่นที่ประสบความสำเร็จใกล้กับพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในปารีส ภายใต้ข้อตกลงกับการ Wertheimers เธอดำเนินธุรกิจออกเป็นบริษัทแยกต่างหาก แต่ขายเสื้อผ้าภายใต้ชื่อ Chanel แม้ว่า Parfums ชาแนลและ Coco Chanel ดีไซน์ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ความสัมพันธ์ส่วนบุคคลระหว่าง Coco Chanel และ Pierre Wertheimer เสื่อมโทรมแรงเสียดทานระหว่าง Coco Chanel และครอบครัว Wertheimer stemmed จาก Coco Chanel ความไม่พอใจกับเงื่อนไขของข้อตกลงเดิมของพวกเขา Coco Chanel resented สิ่งที่เธอมองว่าเป็นความพยายามโดย Wertheimers การใช้ประโยชน์จากความสามารถของเธอเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เธอรู้สึกว่า เธอควรมีขนาดใหญ่กว่าส่วนร้อยละสิบของบริษัท และเธอโต้เถียงว่า เธอได้เซื่องลงนามตั้งสิทธิชื่อของเธอเอง Wertheimers การโต้เธอทุกข์ ด้วยอาร์กิวเมนต์ที่นึกถึง Coco Chanel ที่ Wertheimers ที่มีเงินทุนของเธอในสถานที่แรก ให้เธอมีโอกาสที่จะนำผลงานของเธอไปตลาด และได้ทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างร่ำรวยในปี 1935 Chanel จ้างปารีสทนายความ เรเนเด Chambrun การเจรจาต่อรองข้อตกลงเธอกับ Wertheimers แต่ Wertheimers quashed ความพยายามเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ธุรกิจแฟชั่นของเธอในช่วงปลายทศวรรษ 1930 sputtered และที่ 56 ปีของอายุ Coco Chanel ปิดเมื่อ Nazis บุกฝรั่งเศส Coco Chanel พบวิธีการใหม่เพื่อต่อสู้ Wertheimers ในช่วงสงครามโลก ในความเป็นจริง การ Wertheimers หนีไปประเทศในปี 1940 ขึ้นฝั่งในสหรัฐอเมริกาในที่สุด กับครอบครัว Wertheimer ประสิทธิภาพที่หายไป ไปทำงานพยายามใช้กฎระเบียบอาชีพใหม่เพื่อควบคุมหุ้น Parfums Chanel Coco Chanel แต่ Wertheimers เข้าใจ stymied ย้ายที่ เกินไป ในกรณีที่พวกเขา พวกเขาพบพร็อกซีอารยันทำงานธุรกิจของพวกเขา และให้ Coco Chanel ที่อ่าวในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง Coco Chanel พักในปารีส ย้ายไปโรงแรมลิทซ์กับเธอใหม่ paramour ฮันส์ Gunther von Dincklage เป็นสมาชิกของบริการข้อมูลเยอรมัน ตามของ Coco Chanel biographers ชาร์ลส์ Edmonde-ส้ม เธอมีบทบาทในภารกิจลับสงบใกล้สิ้นสุดของสงคราม ชาร์ลส์ส้ม contends ที่ ข่าวกรองเยอรมันส่ง Coco Chanel ไปวินสตันเชอร์ชิลเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจลับสงบ จับกุมทันทีหลังจากการปลดปล่อยฝรั่งเศส และมี abetting เยอรมัน Coco Chanel แต่เชอเข้าแทรกแซงในนามของเธอ และเธอถูกนำออกใช้หลังจากปล่อยเธอ Coco Chanel ทันทีหนีไปฝรั่งเศสสำหรับสวิตเซอร์แลนด์ ในขณะเดียวกัน ปิแอร์ Wertheimer กลับไปปารีสเพื่อดำเนินการควบคุมของโฮลดิ้งส์ของครอบครัว การขาดงานของเธอ Coco Chanel ยังคงโจมตีเธอในโฆษณาอดีตของเธอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชาแนลมูลค่าประมาณ $ 1.5 พันล้านเป็นหนึ่งใน บริษัท ที่ใหญ่ที่สุดใน $ 4000000000 อุตสาหกรรมน้ำหอมระดับโลก ชาแนลเริ่มต้นความสำเร็จด้วยการแนะนำของชาแนลฉบับที่ 5 น้ำหอมซึ่งยังคงเป็นน้ำหอมที่มียอดขายสูงสุดลงในปี 1990 บริษัท มีความหลากหลายตั้งแต่การให้บริการที่เกินน้ำหอมที่จะรวมถึงนักออกแบบเสื้อผ้าและอุปกรณ์เสริมที่มีจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและร้านบูติกชาแนลทั่วโลก บริษัท แห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานอุดมไปด้วยอุบาย, ความมั่งคั่งและเรื่องอื้อฉาว.

โดยปี 1990, ครอบครัว Wertheimer ของฝรั่งเศสได้รับการบำรุงรักษาการควบคุมความสนใจในชาแนลมานานกว่า 100 ปี ชาแนลมีร่องรอยของประชาชนกลับไปปี 1870 เมื่อเออร์เนส Wertheimer ย้ายจากฝรั่งเศสฝรั่งเศสไปยังกรุงปารีสระหว่างฝรั่งเศสและปรัสเซียนสงคราม ไม่นานหลังจากที่เขามาถึงเขาซื้อความสนใจใน บริษัท แต่งหน้าละครภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า Bourjois Bourjois ประสบความสำเร็จในการแนะนำ Rouge แห้งไปยังตลาดยุโรปในยุค 1890 บริษัท เติบโตอย่างรวดเร็วและในต้นปี ค.ศ. 1920, Bourjois ได้เริ่มทำและจำหน่ายครีมบำรุงผิวจาก Rochester ของเขา, New York, โรงงานอุตสาหกรรมเครื่องสำอางยักษ์เฮเลนา Rubenstien โดยปี ค.ศ. 1920, Bourjois ได้กลายมาเป็นเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดและผู้ผลิตน้ำหอมในฝรั่งเศส.

แม้ว่าครอบครัว Wertheimer จะควบคุมการเงินของชาแนลจากการเริ่มของแรงผลักดันวิสัยทัศน์และความคิดสร้างสรรค์ให้กับ บริษัท มาจาก Coco Chanel Theophile Bader ผู้ก่อตั้งที่ประสบความสำเร็จฝรั่งเศสห้างสรรพสินค้า Galeries Lafayette ห่วงโซ่แนะนำ Coco Chanel กับลูกชายของเออร์เนส Wertheimer ของปิแอร์ในปี 1922 Coco Chanel ขอความช่วยเหลือทางการเงินจาก Pierre Wertheimer ในการทำตลาดน้ำหอมที่เธอได้รับการพัฒนาในปี 1921 ให้ความช่วยเหลือของโคโค่ชาแนล ปิแอร์ Wertheimer ต้องการที่จะช่วยให้เธอประสบความสำเร็จและสองปีหลังจากการเปิดตัวของพวกเขาที่เขาก่อตั้งขึ้น Parfums ชาแนลเพื่อทำและขายน้ำหอมหรูของเธอชื่อชาแนลฉบับ 5. Pierre Wertheimer ได้รับการสนับสนุนกิจการและเก็บไว้เป็นเจ้าของหุ้นร้อยละ 70 ใน บริษัท Coco Chanel ได้เจียมเนื้อเจียมตัวร้อยละ 10 ของ บริษัท และ Bader ได้รับร้อยละ 20.

ในช่วงปี ค.ศ. 1920 และ 1930 Parfums ชาแนลเติบโต นอกจากนี้การขายที่มีชื่อเสียงชาแนลฉบับที่ 5 น้ำหอมในที่สุด บริษัท ก็แนะนำน้ำหอมอื่น ๆ ในปี 1929, Pierre Wertheimer แนะนำ Soir de Paris กลิ่นหอมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปและทำการตลาดผ่าน บริษัท Bourjois ในขณะเดียวกันการดำเนินการ Coco Chanel แฟชั่นสตูดิโอที่ประสบความสำเร็จอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในกรุงปารีส ภายใต้ข้อตกลงกับ Wertheimers เธอดำเนินธุรกิจการออกแบบของเธอเป็น บริษัท ที่แยกจากกัน แต่ขายเสื้อผ้าภายใต้ชื่อชาแนล แม้ว่า Parfums ชาแนลและธุรกิจออกแบบ Coco Chanel ของความเจริญรุ่งเรืองความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่าง Coco Chanel และปิแอร์ Wertheimer เสื่อมโทรม.

แรงเสียดทานระหว่าง Coco Chanel และครอบครัว Wertheimer เกิดจากความไม่พอใจของ Coco Chanel กับเงื่อนไขของข้อตกลงเดิมของพวกเขา Coco Chanel ไม่พอใจในสิ่งที่เธอมองว่าเป็นความพยายามโดย Wertheimers จะใช้ประโยชน์จากความสามารถของเธอเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เธอรู้สึกว่าเธอควรจะมีส่วนที่มีขนาดใหญ่กว่าร้อยละสิบของ บริษัท และเธอก็เป็นที่ถกเถียงกันว่าเธอได้เซ็นสัญญาโดยไม่เจตนาออกไปสิทธิในการใช้ชื่อของเธอเอง Wertheimers โต้คับข้องใจของเธอกับการโต้แย้งว่าการเตือน Coco Chanel ว่า Wertheimers ได้รับการสนับสนุนกิจการของเธอในครั้งแรกที่ทำให้เธอมีโอกาสที่จะใช้ความคิดสร้างสรรค์ของเธอไปยังตลาดและทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างร่ำรวย.

ในปี 1935 ชาแนลได้รับการว่าจ้างในกรุงปารีส ทนายความเรเน่เดอ Chambrun เพื่อเจรจาข้อตกลงของเธอกับ Wertheimers แต่ Wertheimers ประสบความสำเร็จในความพยายามเหล่านั้นวุฒิสมาชิก นอกจากนี้ธุรกิจแฟชั่นของเธอพ่นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 และ 56 ปีของอายุ Coco Chanel ปิดมันเมื่อพวกนาซีบุกฝรั่งเศส Coco Chanel พบวิธีใหม่ในการต่อสู้กับ Wertheimers ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในความเป็นจริง Wertheimers หนีออกนอกประเทศในปี 1940 ในที่สุดก็จะเชื่อมโยงไปถึงในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยพลังครอบครัว Wertheimer หายไป Coco Chanel ไปทำงานพยายามที่จะใช้กฎระเบียบของการประกอบอาชีพใหม่ที่จะใช้การควบคุมของการเป็นหุ้นส่วน Parfums ชาแนล แต่เข้าใจ Wertheimers ขัดขวางการย้ายที่มากเกินไป ในกรณีที่ไม่มีพวกเขาพวกเขาพบพร็อกซี่อารยันทำงานธุรกิจของพวกเขาและให้ Coco Chanel ที่อ่าว.

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง Coco Chanel อยู่ในปารีสย้ายเข้าไปอยู่ในโรงแรม Ritz กับชู้รักใหม่ของเธอ, ฮันส์กุนเธอร์ฟอน Dincklage เป็นสมาชิกของ บริการข้อมูลเยอรมัน ตามหนึ่งในนักเขียนชีวประวัติของ Coco Chanel, ชาร์ลส์ Edmonde Roux เธอมีบทบาทในการปฏิบัติภารกิจสันติภาพลับใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของสงคราม ชาร์ลส์ Roux เชื่อว่าหน่วยสืบราชการลับเยอรมันส่ง Coco Chanel ที่จะเยี่ยมชม Winston Churchill เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจสันติภาพลับ Coco Chanel ถูกจับทันทีหลังจากการปลดปล่อยของฝรั่งเศสข้อหาสนับสนุนเยอรมัน แต่เชอแทรกแซงในนามของเธอและเธอได้รับการปล่อยตัว.

หลังจากที่ปล่อยเธอ Coco Chanel ทันทีหนีไปฝรั่งเศสวิตเซอร์แลนด์ ในขณะเดียวกัน Pierre Wertheimer กลับไปปารีสเพื่อดำเนินการต่อการควบคุมของการถือครองของครอบครัวของเขา แม้จะขาดเธอ Coco Chanel ยังคงโจมตีของเธอในโฆษณาเก่าของเธอ