Body temperature can be measured in

Body temperature can be measured in a
range of different places, including the axilla,
mouth, ear, forehead and rectum. There is
a wide variety of thermometers available,
including traditional glass, digital, chemical
and infrared. Children under the age of five will
have difficulty keeping a thermometer under
the tongue, and the use of glass thermometers
is no longer recommended because of the risk
of breakage and potential loss of mercury
(Crawford et al 2005). Rectal measurement
should not be done routinely because of the
potential risk of injury (NICE 2013) (Table 1).
Over the past few years, electronic and
infrared thermometers have become common
in clinical practice because of their speed
and accuracy. Non-contact forehead
thermometers are relatively new and measure
heat radiated from the forehead. These are
becoming increasingly popular because of
the non-touch technique, but they may be
unreliable in sick children as poorly perfused
or sweating skin can give a reading up to 1°C
below actual body temperature (Fortuna et al
2010). NICE (2013) has stated that ‘forehead
chemical thermometers are unreliable and
should not be used by healthcare professionals’

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สามารถวัดอุณหภูมิร่างกายในการของสถานต่าง ๆ รวมถึง axillaปาก หู หน้าผาก และรูตูด มีความหลากหลายของ thermometers ว่างรวมทั้งกระจกแบบดั้งเดิม ดิจิตอล เคมีและอินฟราเรด เด็กอายุจะห้ามีปัญหาในการทำปรอทวัดอุณหภูมิภายใต้ลิ้น และการใช้เทอร์โมมิเตอร์ไม่แนะนำเนื่องจากความเสี่ยงสูญเสียเคมีฯ และศักยภาพของดาวพุธ(ครอฟอร์ด et al 2005) วัดไส้ควรไม่ทำเป็นประจำเนื่องจากการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของการบาดเจ็บ (ไนซ์ 2013) (ตาราง 1)ปีผ่านมาไม่กี่ อิเล็กทรอนิกส์ และthermometers อินฟราเรดเป็นทั่วไปในทางปฏิบัติทางคลินิกเนื่องจากความเร็วของพวกเขาและความถูกต้อง หน้าผากไม่ติดต่อthermometers ยังค่อนข้างใหม่ และวัดความร้อน radiated จากหน้าผาก เหล่านี้เป็นกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากเทคนิคไม่ใช่สัมผัส แต่พวกเขาอาจจะไม่น่าเชื่อถือในเด็กที่ป่วยเป็นงาน perfusedหรือตากระตุกผิวสามารถทำให้การอ่านถึง 1° Cต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกายจริง (ฟอร์จูน่า et al2010) ดี (2013) ได้ระบุไว้ที่ "หน้าผากthermometers เคมีจะไม่น่าเชื่อถือ และไม่ควรใช้ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุณหภูมิของร่างกายที่สามารถวัดได้ในช่วงของสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งรักแร้, ปากหูหน้าผากและทวารหนัก มีความหลากหลายของเครื่องวัดอุณหภูมิที่มีอยู่รวมทั้งแก้วแบบดั้งเดิมดิจิตอลเคมีและอินฟราเรด ภายใต้เด็กอายุห้าจะมีปัญหาในการรักษาเครื่องวัดอุณหภูมิภายใต้ลิ้นและการใช้งานของเครื่องวัดอุณหภูมิแก้วจะแนะนำไม่ได้เพราะความเสี่ยงของการแตกและการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นของสารปรอท(Crawford et al, 2005) การวัดทางทวารหนักไม่ควรทำประจำเพราะความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการบาดเจ็บ(NICE 2013) (ตารางที่ 1). ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา, อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรดได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาในการปฏิบัติทางคลินิกเพราะความเร็วของพวกเขาและความถูกต้อง หน้าผากแบบไม่สัมผัสเครื่องวัดอุณหภูมิที่ค่อนข้างใหม่และวัดความร้อนที่แผ่จากหน้าผาก เหล่านี้จะกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเทคนิคที่ไม่ได้สัมผัสแต่พวกเขาอาจจะไม่น่าเชื่อถือในเด็กที่ป่วยเป็น perfused ไม่ดีหรือผิวเหงื่อออกสามารถให้การอ่านได้ถึง1 องศาเซลเซียสต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกายที่เกิดขึ้นจริง(Fortuna et al, 2010) NICE (2013) ได้กล่าวว่า 'หน้าผากเครื่องวัดอุณหภูมิทางเคมีที่ไม่น่าเชื่อถือและไม่ควรใช้โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ'

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อุณหภูมิในร่างกายสามารถวัดได้ในช่วงของสถานที่ต่าง ๆ

รวมถึงรักแร้ , , ปาก , หู หน้าผาก และทวารหนัก มีหลากหลายแบบ

รวมทั้งใช้แก้วแบบดิจิตอล , เคมี
และ อินฟราเรด เด็กอายุต่ำกว่าห้าจะมีปัญหาในการรักษา

ปรอทใต้ลิ้น และใช้กระจกแบบ
ไม่แนะนำเพราะความเสี่ยงของความเสียหายและการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นของ

( ครอฟอร์ดปรอท et al 2005 )
การวัดทางทวารหนักไม่ควรทำประจำเพราะ
ความเสี่ยงการบาดเจ็บ ( ดี 2013 ) ( ตารางที่ 1 ) .
กว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมา , อิเล็กทรอนิกส์และ
เทอร์โมมิเตอร์แบบอินฟราเรดได้กลายเป็นสามัญ

คลินิกเพราะของความเร็วและความแม่นยำ ไม่สัมผัสหน้าผาก
เทอร์โมมิเตอร์ค่อนข้างใหม่และวัด
ความร้อนที่เกิดจากหน้าผาก เหล่านี้จะกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะ

ไม่สัมผัสเทคนิค แต่พวกเขาอาจจะไม่น่าเชื่อถือในเด็กป่วยไม่ดี

หรือเหงื่อออก ผิวจะให้หนูอ่านถึง 1 ° C
ด้านล่างอุณหภูมิร่างกายที่แท้จริง ( Fortuna et al
2010 ) ดี ( 2013 ) ได้กล่าวว่า ' เครื่องวัดอุณหภูมิทางหน้าผากและ

จะไม่น่าเชื่อถือไม่ควรใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ '