2.1.3 Problem of listening skill L

2.1.3 Problem of listening skill
Listening play a vital role in people's daily lives. If they cannot hear it well, they will find it hard communicates. As a result, lack of listening comprehension might lead to the poor result.Wenden (1998) mentioned that the learner’s perception of their listening problem and strategies can affect their comprehension both positively.
On the other hand, Yagang (1994) stated that the problems in listening were accompanied with the four following factors: the messages, the speaker, the listener and the physical setting.
Moreover, Underwood (1989) pointed out other kinds of problems that are related to the students themselves. She summarizes that learners have to establish learning habit in the sense that they were encouraged by listening carefully to teachers who probably speak slowly and clearly.
Nguyen (2002) also stated problems that affect the listening comprehension. First of all people find it hard to understand proper names as they have never heard about it before or they have no background knowledge about what they are listening.
The second problem he stressed out is believed to rise from the unfamiliar, uninteresting and too long listening. The last one is about the sound connections and intonation spoken by native speaker with different accents.
Goh (2000) reported that listeners complained about the problems such as "quickly forget what is heard". "unable to term a mental representation from words heard", and "do not understand subsequent parts of input because of earlier problem"
One of the principal skills which listeners must develop if they would like to participate successfully in conversation is the ability to identify the topic conversation.
Hatch (1978) Stated that identifying the topic accurately enough to make an immediate relevant reply is apparently a very hard task. He also illustrated how learner a dealt with the problem of topic clarification by using verbal expression such as "huh?" or "excuse me?" to indicate that they are having difficulties in knowing how to response. At the end, he concluded that people might need to reconsider the traditional view of what it is the listener has to do in listening comprehension, at least in the case of face-to-face.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.1.3 ปัญหาทักษะฟัง ฟังเล่นมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน ถ้าพวกเขาไม่ได้ยินดี พวกเขาจะพบมันยากที่สื่อสาร เป็นผล ขาดความเข้าใจในการฟังอาจทำให้ผลไม่ดี Wenden (1998) กล่าวว่า การรับรู้ของผู้เรียนรับฟังปัญหาและกลยุทธ์จะมีผลต่อความเข้าใจของตนทั้งสองบวก บนมืออื่น ๆ กัง (1994) กล่าวว่า ปัญหาในการฟังบท ด้วยปัจจัยสี่ต่อไปนี้: ข้อความ ลำโพง การฟัง และการตั้งค่าทางกายภาพ นอกจากนี้ อันเดอร์วูด (1989) ชี้ให้เห็นปัญหาที่เกี่ยวข้องได้ชนิดอื่น เธอสรุปว่า ผู้เรียนจะต้องสร้างนิสัยการเรียนรู้ในความรู้สึกที่พวกเขาได้รับการสนับสนุน โดยรอบคอบฟังครูที่อาจจะพูดช้า และชัดเจน เหงียน (2002) ยังระบุปัญหาที่มีผลต่อความเข้าใจในการฟัง แรกของทุกคนหายากที่จะเข้าใจชื่อที่เหมาะสม ตามที่พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับมันก่อน หรือไม่มีพื้นหลังความรู้คืออะไรต้องฟัง ปัญหาที่สองที่เขาเครียดเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นจากการไม่คุ้นเคย ไม่น่าทึ่ง และฟังยาวเกินไป สุดท้ายคือการเชื่อมต่อเสียงและโทนเสียงที่พูด โดยเจ้าของภาษามีสำเนียงแตกต่างกัน โก๊ะ (2000) รายงานว่า ผู้ฟังการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาเช่น "เร็วลืมสิ่งที่ได้ยิน" "ไม่สามารถระยะการแสดงจิตจากคำที่ได้ยิน" และ "ไม่เข้าใจส่วนที่ตามมาของการป้อนข้อมูลเนื่องจากปัญหาที่ก่อนหน้านี้" ทักษะหลักที่ต้องพัฒนาผู้ฟังต้องเข้าร่วมสนทนาสำเร็จ อย่างใดอย่างหนึ่งคือความสามารถในการระบุหัวข้อการสนทนา Stated ฟัก (1978) ที่ระบุหัวข้ออย่างถูกต้องเพียงพอเพื่อให้การตอบสนองที่เกี่ยวข้องทันทีเป็นงานยากมากที่เห็นได้ชัด เขายัง แสดงวิธีหงายกับปัญหาของหัวข้อชี้แจงโดยใช้ถ้อยเช่น "ฮะ" หรือ "ขอโทษ" ผู้เรียนระบุว่า พวกเขามีความยากลำบากในการรู้วิธีการตอบสนอง ปลาย เขาสรุปว่า ท่านอาจต้องพิจารณามุมมองดั้งเดิมของมันคืออะไรที่ฟังได้ทำในอาทิ อย่างน้อยในกรณีคุย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.1.3 ปัญหาการฟังทักษะ
การฟังที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน หากพวกเขาไม่สามารถได้ยินมันได้ดีพวกเขาจะพบว่ามันยากที่จะสื่อสาร เป็นผลให้การขาดความเข้าใจในการฟังอาจนำไปสู่คนจน result.Wenden (1998) บอกว่าการรับรู้ของผู้เรียนของปัญหาการฟังและกลยุทธ์ของพวกเขาจะมีผลต่อความเข้าใจของพวกเขาทั้งในเชิงบวก.
บนมืออื่น ๆ , Yagang (1994) ระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ในการฟังที่มาพร้อมกับปัจจัยสี่ต่อไปนี้:. ข้อความลำโพงฟังและการตั้งค่าทางกายภาพ
นอกจากนี้อันเดอร์วู้ด (1989) ชี้ให้เห็นชนิดอื่น ๆ ของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนเอง เธอสรุปว่าผู้เรียนมีการจัดตั้งนิสัยการเรียนรู้ในความรู้สึกที่ว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนโดยการฟังอย่างรอบคอบเพื่อให้ครูที่อาจจะพูดช้าและชัดเจน.
เหงียน (2002) ยังระบุปัญหาที่มีผลต่อความเข้าใจในการฟัง ครั้งแรกของทุกคนพบว่ามันยากที่จะเข้าใจชื่อที่เหมาะสมตามที่พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมันก่อนหรือพวกเขาไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังฟังเพลง.
ปัญหาที่สองที่เขาเน้นออกเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นจากที่ไม่คุ้นเคยไม่น่าทึ่งและนานเกินไปฟัง . คนสุดท้ายเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเสียงและน้ำเสียงที่พูดโดยเจ้าของภาษาด้วยสำเนียงที่แตกต่างกัน.
โก๊ะ (2000) รายงานว่าผู้ฟังบ่นเกี่ยวกับปัญหาเช่น "ได้อย่างรวดเร็วลืมสิ่งที่ได้ยิน" "ไม่สามารถที่จะเป็นคำที่เป็นตัวแทนทางจิตจากคำพูดที่ได้ยิน" และ "ไม่เข้าใจส่วนที่ตามมาของการป้อนข้อมูลเนื่องจากมีปัญหาก่อนหน้านี้"
หนึ่งในทักษะที่สำคัญที่ผู้ฟังจะต้องพัฒนาหากพวกเขาต้องการที่จะเข้าร่วมประสบความสำเร็จในการสนทนาคือความสามารถในการระบุ หัวข้อสนทนา.
แฮทช์ (1978) ระบุว่าการระบุหัวข้ออย่างถูกต้องเพียงพอที่จะทำให้การตอบกลับที่เกี่ยวข้องทันทีเห็นได้ชัดว่าเป็นงานที่ยากมาก นอกจากนี้เขายังแสดงให้เห็นถึงวิธีการเรียนการจัดการกับปัญหาของการชี้แจงหัวข้อโดยใช้การแสดงออกทางวาจาเช่น "ฮะ?" หรือ "ขอโทษนะ?" เพื่อบ่งชี้ว่าพวกเขาจะมีความยากลำบากในการรู้วิธีการตอบสนอง ในตอนท้ายเขาสรุปว่าคนอาจจะต้องพิจารณามุมมองแบบดั้งเดิมของสิ่งที่ผู้ฟังจะทำอย่างไรในการฟังอย่างน้อยในกรณีของใบหน้าเพื่อใบหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัญหาของทางทักษะการฟังฟังเพลง มีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คน ถ้าพวกเขาไม่สามารถได้ยินมัน พวกเขาจะพบมันยากที่สื่อสาร . เป็นผลให้ขาดการฟัง อาจนำไปสู่ผลที่น่าสงสาร เว็นเด็น ( 1998 ) กล่าวว่า การรับรู้ของผู้เรียนของตนฟังปัญหาและกลยุทธ์ที่มีผลต่อความเข้าใจของพวกเขาทั้งในด้านบวกบนมืออื่น ๆ , yagang ( 1994 ) กล่าวว่า ปัญหาในการฟังก็มาพร้อมกับสี่ปัจจัยต่อไปนี้ : ข้อความ , ผู้พูด ผู้ฟัง และการตั้งค่าทางกายภาพนอกจากนี้ อันเดอร์วู้ด ( 1989 ) ชี้ให้เห็นชนิดอื่น ๆของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน เธอสรุปที่ผู้เรียนต้องสร้างนิสัยการเรียนรู้ในความรู้สึกที่พวกเขาได้รับการสนับสนุนโดยการฟังอย่างรอบคอบเพื่อให้ครูที่อาจจะพูดช้าและชัดเจนเหงียน ( 2545 ) ยังระบุปัญหาที่มีผลต่อความเข้าใจในการฟัง . แรกของทั้งหมดผู้ที่พบมันยากที่จะเข้าใจชื่อเฉพาะเช่นที่พวกเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อนหรือมีพื้นฐานความรู้ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังฟังอยู่ส่วนปัญหาที่สอง เขาเครียด เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นจากที่ไม่คุ้นเคย และไม่ยาวเกินไป ฟัง สุดท้ายคือเรื่องการเชื่อมต่อเสียงและน้ำเสียงที่พูดโดยเจ้าของภาษาด้วยสำเนียงที่แตกต่างกันโก ( 2000 ) รายงานว่าผู้ฟังบ่นเกี่ยวกับปัญหาเช่นการ " ลืม " สิ่งที่ได้ยิน " ไม่สามารถในระยะการจิตจากคำได้ยิน " และ " ไม่เข้าใจส่วนที่ตามมาของการป้อนข้อมูลเพราะปัญหาก่อนหน้านี้ "หนึ่งในทักษะหลักที่ผู้ฟังต้องพัฒนาหากพวกเขาต้องการที่จะเข้าร่วมในการสนทนาที่ประสบความสำเร็จคือความสามารถในการระบุหัวข้อการสนทนาฟักไข่ ( 1978 ) กล่าวว่า การระบุหัวข้อที่ถูกต้อง เพียงพอที่จะให้ตอบกลับที่เกี่ยวข้องทันที เห็นได้ชัดว่าเป็นงานหนักมาก นอกจากนี้เขายังแสดงวิธีการเรียนรู้การจัดการกับปัญหาชี้แจงหัวข้อโดยใช้การแสดงออกทางวาจาเช่น " หือ ? " หรือ " ขอโทษครับ " ? เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความยากลำบากในการรู้วิธีการตอบสนอง สุดท้ายเขาสรุปว่า คนอาจต้องการที่จะพิจารณามุมมองแบบดั้งเดิมของสิ่งที่มันเป็นผู้ฟังต้องฟังเพื่อความเข้าใจ อย่างน้อยในกรณีของตัวต่อตัว