Life-cycle benefit gains of biofuel

Life-cycle benefit gains of biofuels over their counterpart fossil fuels compared with the different scenario sets are presented in Table 5. For instance, the base case of biodiesel/diesel gains the benefit 26% (biodiesel has impact score 26% lower than diesel) and bioethanol/gasoline is 22%. For SC1, although both biofuels still have advantage over fossil fuels, only biodiesel has an increase in the life cycle benefit (þ4%), in contrast of bioethanol which loses benefit ( 14%). In the detailed analysis, SC1 indicated GHG TEF has the most influence for all results and the freshwater TEF has increased effects to only biofuel production. SC2 is less concen- trated on GHG emissions, the primary energy resources then rise up to modest benefits (þ6%) because the biofuels gain some benefit from using mostly biomass in biofuel production. Although the various supposed policy target settings directly affect the TEFs, the results of this study are responsive mainly to the GHG emission impact.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วงจรชีวิตประโยชน์กำไรของเชื้อเพลิงชีวภาพมากกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลคู่ของพวกเขาเมื่อเทียบกับชุดสถานการณ์ต่าง ๆ แสดงในตาราง 5 เช่น กรณีพื้นฐานของเครื่องยนต์ดีเซลรับประโยชน์ 26% (ไบโอดีเซลมีผลคะแนนต่ำกว่าดีเซล 26%) และ bioethanol/น้ำมัน 22% สำหรับ SC1 แม้ว่าเชื้อเพลิงชีวภาพทั้งยังมีข้อได้เปรียบกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล ไบโอดีเซลเท่านั้นมีการเพิ่มขึ้นของประโยชน์วงจรชีวิต (þ4%), ความเปรียบต่างของ bioethanol ซึ่งสูญเสียผลประโยชน์ (14%) ในการวิเคราะห์โดยละเอียด SC1 ระบุ TEF ก๊าซเรือนกระจกมีอิทธิพลมากที่สุดสำหรับผลลัพธ์ทั้งหมด และ TEF น้ำจืดได้เพิ่มผลการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเฉพาะ SC2 เป็นน้อย trated concen ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แหล่งพลังงานหลักแล้วขึ้นถึงประโยชน์เจียมเนื้อเจียมตัว (þ6%) เนื่องจากเชื้อเพลิงชีวภาพมีประโยชน์บางอย่างจากการใช้ชีวมวลส่วนใหญ่ในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ แม้ว่าการตั้งค่าต่าง ๆ ของเป้าหมายนโยบายควรส่งผลกระทบต่อการ TEFs โดยตรง ผลของการศึกษานี้จะตอบสนองต่อผลกระทบของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกส่วนใหญ่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กำไรที่ได้รับประโยชน์วงจรชีวิตของเชื้อเพลิงชีวภาพกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลคู่ของพวกเขาเมื่อเทียบกับชุดสถานการณ์ที่แตกต่างกันจะถูกนำเสนอในตารางที่ 5 ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่ฐานของกำไรไบโอดีเซล / ดีเซลประโยชน์ 26% (ไบโอดีเซลมีผลกับคะแนน 26% ต่ำกว่าดีเซล) และเอทานอล / น้ำมันเบนซิน 22% สำหรับ SC1 แม้ว่าทั้งสองเชื้อเพลิงชีวภาพยังคงได้เปรียบกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลเพียงไบโอดีเซลมีการเพิ่มขึ้นของผลประโยชน์วงจรชีวิต (TH4%) ในทางตรงกันข้ามของเอทานอลซึ่งสูญเสียผลประโยชน์ (14%) ในการวิเคราะห์รายละเอียด SC1 ระบุเรือนกระจก TEF มีอิทธิพลมากที่สุดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์และ TEF น้ำจืดได้เพิ่มขึ้นมีผลกระทบกับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเท่านั้น SC2 คือความเข้มข้นน้อย trated บนปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่แหล่งพลังงานหลักแล้วลุกขึ้นเพื่อผลประโยชน์เจียมเนื้อเจียมตัว (TH6%) เพราะเชื้อเพลิงชีวภาพได้รับประโยชน์จากการใช้ส่วนใหญ่ชีวมวลในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ แม้ว่าการตั้งค่าเป้าหมายนโยบายต่างๆควรส่งผลโดยตรงต่อ TEFs ผลการศึกษาครั้งนี้มีการตอบสนองส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประโยชน์ของเชื้อเพลิงชีวภาพของวงจรชีวิตกำไรกว่าคู่เชื้อเพลิงฟอสซิลเมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันชุดแสดงในตารางที่ 5 ตัวอย่างเช่น กรณีพื้นฐานของไบโอดีเซลดีเซล / ได้รับประโยชน์ 26 % ( ไบโอดีเซลมีผลกระทบต่อคะแนน 26 % ต่ำกว่าดีเซล / เบนซินและเอทานอล คือ 22 % สำหรับ SC1 แม้ว่าทั้งสองก็ยังมีประโยชน์กว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่ไบโอดีเซลมีเพิ่มในวงจรชีวิตผลประโยชน์ ( þ 4 % ) ในทางตรงกันข้าม เอทานอลที่เสียผลประโยชน์ ( 14% ) ในการวิเคราะห์รายละเอียด ระบุพร้อม SC1 เทฟมีอิทธิพลมากที่สุดสำหรับผลทั้งหมดและเทฟน้ำจืดเพิ่มขึ้นผลการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเท่านั้น sc2 น้อย concen - trated ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการพลังงาน แล้วลุกขึ้นเพื่อประโยชน์เจียมเนื้อเจียมตัว ( þ 6 % ) เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพชีวมวลส่วนใหญ่ในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ แม้ว่านโยบายการตั้งค่าเป้าหมายต่าง ๆ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ tefs ผลลัพธ์ของการศึกษานี้จะตอบสนองกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกส่วนใหญ่ผลกระทบ