History of Wat Chedi LuangKing Saen

History of Wat Chedi Luang

King Saen Muang Ma (r.1385-1401) began construction on Wat Chedi Luang in 1391 to hold the ashes of his father, Ku Na. The building was expanded by later kings, reaching its final form in 1475.

It was then given the great honor of housing the Emerald Buddha, the holiest religious object in Thailand (now kept in Wat Phra Kaew, Bangkok). At this time, Wat Chedi Luang rose to a height of 84m (280 ft.).

A century later, a severe earthquake (1545) toppled part of the great spire. The Emerald Buddha was kept in the chedi for another six years, then moved to Luang Prabang (in present-day Laos) by the king.

Five years later, Chiang Mai fell to the Burmese. The temple was never rebuilt, but even at its post-earthquake height (60m) it remained the tallest structure in Chiang Mai until modern times.

Several viharns were added to the temple complex in subsequent years; the largest viharn was built in 1928.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติของวัดเจดีย์หลวงพระแสนเมืองมา (r.1385-1401) เริ่มก่อสร้างในวัดเจดีย์หลวงใน 1391 เก็บขี้เถ้าของบิดาของเขา Ku เรี่ยม อาคารที่ถูกขยาย โดยกษัตริย์ในภายหลัง เข้าถึงรูปแบบสุดท้ายใน 1475นั้นแล้วได้รับเกียรติมากอยู่อาศัยศาสดา ศาสนาวัตถุ holiest ในไทย (ตอนนี้เก็บไว้ในวัดพระแก้ว กรุงเทพมหานคร) ตอนนี้ วัดเจดีย์หลวงกุหลาบความสูง 84 เมตร (280 ฟุต)ศตวรรษต่อมา แผ่นดินไหวรุนแรง (1545) toppled ส่วนหนึ่งของสไปร์ดี พระถูกเก็บไว้ในเจดีย์อีกหกปี แล้วย้ายไปหลวงพระบาง (ประเทศลาวเหตุการณ์) โดยห้าปีต่อมา เชียงใหม่ตกไปพม่า ไม่เคยมีสร้างวัด แต่ที่ความสูงหลังแผ่นดินไหว (60 เมตร) แม้จะยังคงโครงสร้างสูงที่สุดในเชียงใหม่จนถึงสมัยปัจจุบันเพิ่ม viharns หลายวัดที่ซับซ้อนในปีต่อไป องค์ใหญ่ที่สุดถูกสร้างขึ้นใน 1928

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติความเป็นมาของวัดเจดีย์หลวงพระมหากษัตริย์แสนเมืองมา (r.1385-1401) เริ่มก่อสร้างวัดเจดีย์หลวงใน 1391 ที่จะถือเถ้าถ่านของพ่อของเขา Ku นา ตัวอาคารได้รับการขยายตัวโดยกษัตริย์ต่อมาถึงรูปแบบสุดท้ายใน 1,475. มันได้รับแล้วเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ของที่อยู่อาศัยพระศรีรัตนศาสดาราม, วัตถุทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย (ตอนนี้เก็บไว้ในวัดพระแก้วกรุงเทพฯ) ในเวลานี้วัดเจดีย์หลวงลุกขึ้นไปที่ความสูงของ 84m (280 ฟุต.). ศตวรรษต่อมาเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง (1545) ล้มส่วนหนึ่งของยอดที่ดี พระแก้วมรกตถูกเก็บไว้ในเจดีย์อีกหกปีที่ผ่านมานั้นก็ย้ายไปหลวงพระบาง (ในปัจจุบันประเทศลาว) โดยกษัตริย์. ห้าปีต่อมาเชียงใหม่ล้มลงไปพม่า วัดก็ไม่เคยสร้างขึ้นมาใหม่ แต่แม้ที่ความสูงการโพสต์ของแผ่นดินไหว (60m) มันก็ยังคงโครงสร้างที่สูงที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่จนถึงยุคปัจจุบัน. viharns หลายคนเข้ามาอยู่ในวัดที่ซับซ้อนในปีต่อ ๆ มา; วิหารที่ใหญ่ที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1928

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติวัดเจดีย์หลวง

กษัตริย์แสนเมืองมา ( r.1385-1401 ) เริ่มก่อสร้างในวัดเจดีย์หลวงใน 1170 เพื่อเก็บอัฐิของพ่อกู นา อาคารที่ถูกขยายโดยกษัตริย์ต่อมาถึงรูปสุดท้ายใน 843 .

จึงได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ของที่อยู่อาศัย พระแก้วมรกต , วัตถุศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาในไทย ( เก็บไว้ในวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ) ในเวลาแบบนี้วัดเจดีย์หลวงเพิ่มขึ้นถึงความสูงของ 84m ( 280 ฟุต ) .

ศตวรรษต่อมา แผ่นดินไหวรุนแรง ( การผลิต ) โค่นล้มส่วนหนึ่งของหน่อใหญ่ พระแก้วมรกตที่ถูกเก็บไว้ในเจดีย์อีก 6 ปี ก็ย้ายไปอยู่หลวงพระบาง ( ประเทศลาวในปัจจุบัน ) โดยกษัตริย์

ห้าปีต่อมาเชียงใหม่ลงสู่พม่า วัดที่เคยสร้างแต่การโพสต์แผ่นดินไหวความสูง ( 60 ) มันยังคงเป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดในเชียงใหม่ จนบางครั้ง

หลาย viharns ถูกเพิ่มไปยังวัดซับซ้อนในปีถัดไป ; ปราสาทพระวิหารที่ใหญ่ที่สุด สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1928 .