Michael Faraday /ˈfæ.rəˌdeɪ/ FRS (2

Michael Faraday /ˈfæ.rəˌdeɪ/ FRS (22 September 1791 – 25 August 1867) was an English scientist who contributed to the fields of electromagnetism and electrochemistry. His main discoveries include those of electromagnetic induction, diamagnetism and electrolysis.

Although Faraday received little formal education, he was one of the most influential scientists in history. It was by his research on the magnetic field around a conductor carrying a direct current that Faraday established the basis for the concept of the electromagnetic field in physics. Faraday also established that magnetism could affect rays of light and that there was an underlying relationship between the two phenomena.[1][2] He similarly discovered the principle of electromagnetic induction, diamagnetism, and the laws of electrolysis. His inventions of electromagnetic rotary devices formed the foundation of electric motor technology, and it was largely due to his efforts that electricity became practical for use in technology.

As a chemist, Faraday discovered benzene, investigated the clathrate hydrate of chlorine, invented an early form of the Bunsen burner and the system of oxidation numbers, and popularised terminology such as anode, cathode, electrode, and ion. Faraday ultimately became the first and foremost Fullerian Professor of Chemistry at the Royal Institution of Great Britain, a lifetime position.

Faraday was an excellent experimentalist who conveyed his ideas in clear and simple language; his mathematical abilities, however, did not extend as far as trigonometry or any but the simplest algebra. James Clerk Maxwell took the work of Faraday and others, and summarized it in a set of equations that is accepted as the basis of all modern theories of electromagnetic phenomena. On Faraday's uses of the lines of force, Maxwell wrote that they show Faraday "to have been in reality a mathematician of a very high order – one from whom the mathematicians of the future may derive valuable and fertile methods."[3] The SI unit of capacitance is named in his honour: the farad.

Albert Einstein kept a picture of Faraday on his study wall, alongside pictures of Isaac Newton and James Clerk Maxwell.[4] Physicist Ernest Rutherford stated; "When we consider the magnitude and extent of his discoveries and their influence on the progress of science and of industry, there is no honour too great to pay to the memory of Faraday, one of the greatest scientific discoverers of all time

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟาราเดย์ Michael /ˈfæ.rəˌdeɪ/ FRS (22 กันยายนค.ศ. 1791 – 25 1867 สิงหาคม) ได้มีนักวิทยาศาสตร์อังกฤษผู้กับฟิลด์ของแรงแม่เหล็กไฟฟ้าและไฟฟ้าเคมี การค้นพบหลักของเขารวมของการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า diamagnetism และ electrolysisแม้ว่าฟาราเดย์ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการน้อย เขาเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ก็ โดยการวิจัยของเขาในสนามแม่เหล็กรอบ ๆ ที่นำกระแสตรงที่ฟาราเดย์สร้างพื้นฐานแนวคิดของฟิลด์แม่เหล็กไฟฟ้าในการถือครอง ฟาราเดย์สร้างที่สนามแม่เหล็กอาจมีผลต่อแสงไฟ และที่มีความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างปรากฏการณ์ทั้งสอง [1] [2] เขาค้นพบหลักการของการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า diamagnetism และกฎหมายของ electrolysis ในทำนองเดียวกัน เขาประดิษฐ์อุปกรณ์ไฟฟ้าโรตารี่ก่อตั้งรากฐานของเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้า และมันเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากความพยายามของเขาที่ไฟฟ้ากลายเป็นปฏิบัติการใช้เทคโนโลยีเป็นเป็นนักเคมี ฟาราเดย์พบเบนซีน สอบสวนมีเทนของคลอรีน คิดค้นรูปแบบแรก ๆ ของเตาบุนเซนและระบบหมายเลขออกซิเดชัน และ popularised คำศัพท์ เช่นแอโนด แคโทด ไฟฟ้า ไอออน ฟาราเดย์เป็น ศาสตราจารย์ Fullerian และสำคัญของเคมีที่รอยัลสถาบันของสหราชอาณาจักร ตำแหน่งอายุการใช้งานในที่สุดฟาราเดย์ได้ experimentalist มีดีที่ใช้ความคิดของเขาในภาษาที่ชัดเจน และเรียบง่าย ความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเขา แต่ ไม่ได้ไม่ขยายเท่าตรีโกณมิติหรือใด ๆ แต่พีชคณิตที่ง่ายที่สุด James เคลิร์กแมกซ์เวลล์เอาการทำงานของฟาราเดย์และอื่น ๆ และสรุปในชุดของสมการที่เป็นที่ยอมรับเป็นพื้นฐานของทฤษฎีสมัยใหม่ทั้งหมดของปรากฏการณ์ไฟฟ้า ในการใช้งานของฟาราเดย์ของหน่วยของบรรทัด แมกซ์เวลล์เขียนว่า พวกเขาแสดงฟาราเดย์ "ไปแล้วในความเป็นจริงนักคณิตศาสตร์สูงมากใบสั่ง – หนึ่งซึ่ง mathematicians ในอนาคตอาจมาอุดมสมบูรณ์ และมีคุณค่า" [3] ชื่อในเกียรติของเขาในหน่วยเอสไอของค่าความจุ: ฟารัดอัลเบิร์ตไอน์สไตน์เก็บภาพของฟาราเดย์บนผนังเขาศึกษา ควบคู่ไปกับรูปภาพของไอแซคนิวตันและ James เคลิร์กแมกซ์เวลล์ [4] physicist เออร์เนสต์รูเทอร์ฟอร์ดระบุ "เมื่อเราพิจารณาขนาดและขอบเขตของการค้นพบของเขาและอิทธิพลของความก้าวหน้า ของวิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรม ไม่มีเกียรติไม่มากเกินไปถึงหน่วยความจำของฟาราเดย์ discoverers ทางวิทยาศาสตร์มากที่สุดของเวลาทั้งหมดอย่างใดอย่างหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไมเคิลฟาราเดย์/fæ.rəˌdeɪ/ FRS (22 กันยายน 1791 - 25 สิงหาคม 1867) เป็นนักวิทยาศาสตร์ภาษาอังกฤษที่มีส่วนร่วมกับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของการไฟฟ้าและ การค้นพบที่สำคัญของเขารวมถึงผู้ที่ของการเหนี่ยวนำไฟฟ้าและอิเล็กโทรไดอะแมกเนติ. แม้ว่าฟาราเดย์ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ มันเป็นโดยการวิจัยของเขาในสนามแม่เหล็กรอบตัวนำถือกระแสตรงที่ฟาราเดย์ที่จัดตั้งขึ้นพื้นฐานสำหรับแนวคิดของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในฟิสิกส์ที่ ฟาราเดย์ยังเป็นที่ยอมรับว่าอาจมีผลต่อสนามแม่เหล็กรังสีของแสงและว่ามีความสัมพันธ์พื้นฐานระหว่างสองปรากฏการณ์. [1] [2] ในทำนองเดียวกันเขาค้นพบหลักการของการเหนี่ยวนำไฟฟ้า, ไดอะแมกเนติและกฎหมายของกระแสไฟฟ้า สิ่งประดิษฐ์ของเขาของอุปกรณ์หมุนแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดขึ้นเป็นรากฐานของเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าและมันก็เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากความพยายามของเขาที่ไฟฟ้ากลายเป็นในทางปฏิบัติสำหรับการใช้งานในด้านเทคโนโลยี. ในฐานะที่เป็นนักเคมีเดย์ค้นพบเบนซินสอบสวนมือไม่ถึงก่ายคลอรีนคิดค้นรูปแบบแรก ของแผดเผาเผาและระบบของตัวเลขการเกิดออกซิเดชันและ popularized คำศัพท์เช่นขั้วบวกขั้วลบขั้วและไอออน . ฟาราเดย์ในท้ายที่สุดกลายเป็น Fullerian แรกและสำคัญที่สุดศาสตราจารย์วิชาเคมีที่สถาบันพระมหากษัตริย์แห่งบริเตนใหญ่ตำแหน่งอายุการใช้งานของฟาราเดย์เป็นexperimentalist ยอดเยี่ยมที่ถ่ายทอดความคิดของเขาในภาษาที่ชัดเจนและง่าย ความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเขา แต่ไม่ได้ขยายเท่าที่ตรีโกณมิติหรือ แต่พีชคณิตง่าย เจมส์เคลิร์กแมกซ์เวลล์เอาการทำงานของฟาราเดย์และอื่น ๆ และสรุปไว้ในชุดของสมการที่เป็นที่ยอมรับเป็นพื้นฐานของทฤษฎีที่ทันสมัยของปรากฏการณ์แม่เหล็กไฟฟ้า เกี่ยวกับการใช้ของฟาราเดย์ของเส้นแรง, แมกซ์เวลเขียนว่าพวกเขาแสดงเดย์ "จะได้รับในความเป็นจริงนักคณิตศาสตร์ของการสั่งซื้อที่สูงมาก - ผู้หนึ่งซึ่งนักคณิตศาสตร์แห่งอนาคตอาจเป็นผลมาวิธีการที่มีคุณค่าและอุดมสมบูรณ์." [3] SI หน่วยของความจุการตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่เขา: หน่วยวัดความจุไฟฟ้าในได้. Albert Einstein เก็บไว้ภาพของฟาราเดย์บนผนังการศึกษาของเขาพร้อมกับภาพของไอแซกนิวตันและเจมส์เคลิร์กแมกซ์เวลล์ [4] ฟิสิกส์เออร์เนสรัทเธอร์ที่ระบุไว้. "เมื่อเราพิจารณาขนาดและขอบเขตของการค้นพบของเขาและอิทธิพลของพวกเขาในความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และของอุตสาหกรรมที่ไม่มีเกียรติมากเกินไปที่จะจ่ายเงินเพื่อความทรงจำของฟาราเดย์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเวลาทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไมเคิล ฟาราเดย์ / ˈ F æ R əˌ de ɪ / FRS ( 22 กันยายน 25 สิงหาคม 1791 – 1867 ) เป็นภาษาอังกฤษ นักวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนด้านแม่เหล็กไฟฟ้าและเคมีไฟฟ้า การค้นพบของเขาหลัก รวมถึงผู้ที่เหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า เดอะ ไลอ้อน คิง และอิเล็กโทร .

ถึงแม้ว่าฟาราเดย์ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการน้อย , เขาเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์มันเป็นโดยงานวิจัยของเขาเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กรอบ ๆตัวนำถือไฟฟ้ากระแสตรง ที่เขาก่อตั้งขึ้นโดยพื้นฐานแนวคิดของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในฟิสิกส์ ฟาราเดย์ยังขึ้นว่าแม่เหล็กสามารถส่งผลกระทบต่อรังสีของแสงและมีพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ [ 1 ] [ 2 ] เขาก็ค้นพบหลักการของการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าเดอะ ไลอ้อน คิง และกฎหมายของกระแสไฟฟ้า เขาประดิษฐ์ของแม่เหล็กไฟฟ้าหมุนอุปกรณ์รูปแบบพื้นฐานของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และส่วนใหญ่มาจากความพยายามของเขาที่ไฟฟ้ามาปฏิบัติใช้ในเทคโนโลยี

เป็นนักเคมี ฟาราเดย์ค้นพบมีเทนคลาเทรตเบนซีน และคลอรีนคิดค้นต้นรูปแบบเตาบุนเซนและระบบของเลขออกซิเดชันและความนิยมศัพท์เฉพาะ เช่น ขั้วบวกขั้วลบ , ไฟฟ้า และ ไอออน ฟาราเดย์ในที่สุดกลายเป็นที่แรกและสำคัญที่สุด fullerian ศาสตราจารย์วิชาเคมีที่สถาบันพระมหากษัตริย์ของสหราชอาณาจักร เป็นตำแหน่งตลอดชีพ

ฟาราเดย์เป็นเลิศ experimentalist ที่ถ่ายทอดความคิดของเขาในที่ชัดเจนและเรียบง่ายของภาษาความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเขา แต่ไม่ได้ขยายเท่าที่ตรีโกณมิติพีชคณิตหรือใด ๆแต่ที่ง่ายที่สุด เจมส์ เคลิร์ก แมกซ์เวลล์ได้งานของ ฟาราเดย์ และ อื่น ๆ และสรุปเป็นชุดของสมการที่เป็นที่ยอมรับเป็นพื้นฐานของทฤษฎีสมัยใหม่ของปรากฏการณ์แม่เหล็กไฟฟ้า บนของฟาราเดย์ใช้เส้นของแรงแมกซ์เวลฟาราเดย์ " เขียนว่า แสดงได้ในความเป็นจริงนักคณิตศาสตร์–สินค้าสูงมากผู้หนึ่ง จากนักคณิตศาสตร์ในอนาคตอาจได้รับคุณค่าและวิธีการที่ . " [ 3 ] ศรีหน่วยความจุเป็นชื่อในเกียรติของเขา : ฟารัด .

Albert Einstein เก็บรูปภาพของฟาราเดย์ บนผนัง การศึกษาของเขา พร้อมกับ ภาพ ของ ไอแซค นิวตัน และ เจมส์ เคลิร์ก แมกซ์เวลล์ .[ 4 ] นักฟิสิกส์รัทเธอร์ฟอร์ด กล่าวว่า " เมื่อเราพิจารณาขนาดและขอบเขตของการค้นพบและอิทธิพลของพวกเขาเกี่ยวกับความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมที่ไม่มีเกียรติมากเกินไปที่จะจ่ายไปยังหน่วยความจำของฟาราเดย์ หนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวิทยาศาสตร์ ค้นพบ ของเวลาทั้งหมด