2. Heat Seal Parameters Heatsealabi

2. Heat Seal Parameters
Heatsealability of the material should be evaluate from 2 aspects including hot tack, which could be tested when the sealing area is not cooled down completely and heat seal strength (ultimate strength) which could be tested when the sealing area is completely cooled down. Generally, the main factors influencing the heat seal property of the packaging materials include heat seal temperature, heat seal pressure and dwell time among which the heat sealing temperature is most critical.

Hot tack is the essential index that is used to evaluate the heat property of the packaging material. Since the interval between the heat sealing package making and product filling in production line is so short that the product is often filled when the temperature of the sealing area has not fallen to the room temperature. If the sealing area could not withstand the impact of the filled products in production line, the packaging bags may fail in the packaging process. Package breakage usually occurs in packaging process with high speed Form-Fill-Seal machine. As well it may occur if the sealing area does not cool down completely in packaging process with low speed packing machine.

Hot tack is tested to evaluate the combination capability of the sealing area when it is impacted by external force when it does not cool down completely within the short period after the sealing process. Technically hot tack is the total sum of the sealing agent’s tack strength under heat sealing temperature and the adhesive intensity to multiplayer structure and other elements. Generally, hot tack of material is much less than its heat seal strength (ultimate strength), which could be obviously seen from Fig.1 (Quoted from ASTM F 2029-00). The curve marked with “Equil. dwell ” on the left is the curve of seal strength and temperature tested after the sealing area has completely cooled down (it is noted in the figure that the balance retention time is 1000ms). The curve marked with “100ms dwell ” on its right is the curve of heat seal strength (ultimate strength) and temperature. The two curves have similar tendency with the change of temperature. The hot tack of material tested after an interval of only 100ms is much lower than that tested after being completely cooled down.

Fig.1 Heatsealability Test
3. Failure Mode of Heat Seal Test Specimen
Heat seal strength (Ultimate strength) of material is the peeling force required by per unit width of heat sealing layer (the failure modes illustrated in Figure 2a). However, in actual testing, failure always occurs at the non-sealing area instead of the heat sealing layer. The actual heat seal strength (ultimate strength) of such material is a little higher than the test result. Failure mode of material in ultimate strength test is important information in evaluation of specimen heatsealability. Operators should carefully observe the material’s condition after the test is finished.

Failure mode refers to the separation mode of the sealing part of the specimen when the sample grips separate from each other in heat seal strength test. Generally, failure mode include peeled sealing surface (Figure 2a), failure of adhesive layer (Figure 2b), failure in seal layer and bottom layer (Figure 2c), failure in sealing edge (Figure 2d), failure in non-sealing part (Figure 2e), elongation of sealing material (Figure 2f), elongation of peeled area (Figure 2g).

Note: Figure is quoted from ASTEM F 1921-98

Fig.2 Failure Mode of Heat Sealing Specimen
The failure mode is closely related to the selection of heat sealing temperature in practical production. Usually the temperature interval of heat sealing curve is within the range of 5-10 °C. Specimen failure mode at each temperature should also be illustrated in detail (usually in the form of graphic illustration, please refer to figure 1). Generally, heat seal temperature should be close to the melting temperature of heat sealing layer, which is in the turning point of the sealing curve where the curve ascends quickly and then becomes flat. If the test material will be used in melt down sealing, heat sealing temperature should be higher than the turning point mentioned above. If specimen is used in strippable sealing, the sealing temperature should be lower than the turning point.

4. Conclusion
The heat seal performance of the packaging material could be optimized by adjusting the heat seal parameters. With modification and improvement of the packaging technology, the materials are required to have better heatsealability so that the product could be sealed in the package and it could be easy to open the package.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2. ความร้อนตราพารามิเตอร์ Heatsealability วัสดุควรจะประเมินจาก 2 ด้านรวมทั้งร้อนตะปูหัวโต ซึ่งสามารถทดสอบได้เมื่อบริเวณยาแนวรอยต่อจะไม่ระบายความร้อนด้วยลงอย่างสมบูรณ์ และความร้อนตราแรง (แรงสุด) ซึ่งสามารถทดสอบได้เมื่อยาแนวรอยต่อพื้นที่ทั้งหมดได้ระบายความร้อนด้วยลง ปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อคุณสมบัติตราความร้อนของวัสดุบรรจุภัณฑ์รวมถึงอุณหภูมิความร้อนตรา ทั่วไป ความร้อนปิดผนึกที่ความดัน และเวลาที่อาศัยอยู่ในหมู่ซึ่งความร้อนที่อุณหภูมิดังกล่าวเป็นสำคัญที่สุด ตะปูหัวโตร้อนเป็นดัชนีสำคัญที่ใช้ในการประเมินคุณสมบัติความร้อนของวัสดุบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่ช่วงเวลาระหว่างความร้อน ตัดทำแพคเกจและบรรจุในสายการผลิตผลิตภัณฑ์นั้นให้สั้นว่า ผลิตภัณฑ์มักจะถูกกรอกเมื่ออุณหภูมิของบริเวณยาแนวรอยต่อได้ไม่ลดลงอุณหภูมิห้อง ถ้าบริเวณยาแนวรอยต่อสามารถทนต่อผลกระทบของผลิตภัณฑ์ที่เติมในสายการผลิต ถุงบรรจุภัณฑ์อาจล้มเหลวในกระบวนการบรรจุภัณฑ์ แพคเกจเคมีฯ มักเกิดขึ้นในกระบวนการบรรจุภัณฑ์ด้วยเครื่องจักรความเร็วสูงแบบฟอร์มกรอกตรา เช่นนั้นอาจเกิดขึ้นถ้าบริเวณยาแนวรอยต่อไม่เย็นลงอย่างสมบูรณ์ในกระบวนการบรรจุภัณฑ์ มีความเร็วต่ำสุดที่เครื่องตะปูหัวโตร้อนมีทดสอบเพื่อประเมินความสามารถในการรวมกันของบริเวณยาแนวรอยต่อเมื่อมันได้รับผลกระทบจากแรงภายนอกเมื่อมันไม่เย็นลงอย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาสั้น ๆ หลังการยาแนวรอยต่อ เทคนิคตะปูหัวโตร้อนเป็นผลรวมของตัวแทนการยาแนวรอยต่อตะปูหัวโตความแข็งแรงภายใต้ความร้อนที่อุณหภูมิและความเข้มกาวหลายโครงสร้างและองค์ประกอบอื่น ๆ ในการปิดผนึก ทั่วไป ตะปูหัวโตร้อนวัสดุได้มากน้อยกว่าความแข็งแรงตราความร้อน (แรงสุด), ซึ่งสามารถเห็นได้จากภาพ (Quoted ASTM F 2029-00) เส้นโค้งที่ทำเครื่องหมาย ด้วย "Equil อาศัยอยู่ "ทางด้านซ้ายเป็นโค้งของตราความแรงและอุณหภูมิที่ทดสอบหลังจากที่มีการระบายความร้อนด้วยบริเวณยาแนวรอยต่อทั้งหมด (มันจะระบุไว้ในรูปที่เวลารักษาดุล 1000ms) ลง ทำเครื่องหมาย ด้วย "100ms อาศัยอยู่" ทางขวาของเส้นโค้งเป็นเส้นโค้งของความร้อนตราแรง (แรงสุด) และอุณหภูมิ เส้นโค้งสองมีแนวโน้มคล้ายกันกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ตะปูหัวโตร้อนวัสดุทดสอบหลังจากช่วงของ 100ms เท่านั้นถูกมากต่ำกว่าที่ทดสอบหลังทั้งการระบายความร้อนด้วยลงภาพทดสอบ Heatsealability3. โหมดความล้มเหลวของความร้อนตราทดสอบ ความร้อนตราความแรง (แรงสุด) ของวัสดุคือ แรงปอกต้องใช้ต่อหน่วยความกว้างของชั้น (ล้มเหลววิธีแสดงในรูปที่ 2a) ปิดผนึกความร้อน อย่างไรก็ตาม ในการทดสอบจริง ความล้มเหลวเกิดขึ้นเสมอที่ตั้งไม่ใช่ซีลแทนความร้อนที่บรรจุชั้น ร้อนจริงตราความแรง (แรงสุด) วัสดุดังกล่าวจะสูงน้อยกว่าผลการทดสอบ โหมดความล้มเหลวของวัสดุในการทดสอบความแข็งแรงที่สุดเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินตัวอย่าง heatsealability ตัวอย่างควรพิจารณาถึงสภาพของวัสดุหลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบ ล้มเหลวโหมดหมายถึงโหมดแยกส่วนยาแนวรอยต่อของการเมื่อจับตัวอย่างแยกออกจากกันในที่ความร้อนปิดทดสอบความแข็งแรง ทั่วไป โหมดความล้มเหลวรวม peeled ยาแนวรอยต่อพื้น (รูป 2a), ความล้มเหลวของชั้นกาว (รูปที่ 2b) ความล้มเหลวในชั้นตราและชั้นล่าง (รูป 2c) ความล้มเหลวในการปิดผนึกขอบ (รูปที่ 2d), ความล้มเหลวในส่วนที่ไม่ใช่ซีล (รูปที่ 2e), elongation ของบรรจุวัสดุ (รูปที่ 2f), elongation peeled พื้นที่ (รูปที่ 2 กรัม) หมายเหตุ: ยกมาจาก 1921 ASTEM F-98 รูป Fig.2 โหมดความล้มเหลวของความร้อนที่บรรจุสิ่งส่งตรวจโหมดความล้มเหลวอย่างใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องกับการเลือกใช้ความร้อนที่บรรจุอุณหภูมิในการผลิตจริง โดยปกติช่วงอุณหภูมิความร้อนที่ตัดเส้นโค้งอยู่ช่วง 5-10 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังควรแสดงตัวอย่างโหมดความล้มเหลวที่อุณหภูมิแต่ละรายละเอียด (โดยปกติในรูปแบบของรูปภาพประกอบ โปรดดูรูป 1) ทั่วไป อุณหภูมิความร้อนตราควรจะใกล้กับอุณหภูมิความร้อนบรรจุชั้น ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนโค้งยาแนวรอยต่อที่โค้ง ascends อย่างรวดเร็ว และจะแบนแล้ว ละลาย ทดสอบวัสดุจะใช้ในการละลายลงยาแนวรอยต่อ ยาแนวรอยต่ออุณหภูมิความร้อนควรจะสูงกว่าจุดเปลี่ยนดังกล่าวข้างต้น ถ้ามีใช้ตัวอย่างใน strippable ยาแนวรอยต่อ ยาแนวรอยต่ออุณหภูมิควรต่ำกว่าจุดเปลี่ยน 4. บทสรุป สามารถปรับให้เหมาะสมความร้อนตราประสิทธิภาพของบรรจุภัณฑ์ โดยการปรับเปลี่ยนความร้อนตราพารามิเตอร์ แก้ไขและปรับปรุงเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ วัสดุจะต้องมี heatsealability ที่ดีเพื่อให้สามารถผนึกผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์ และอาจจะเปิดแพคเกจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2. พารามิเตอร์ซีลความร้อน
Heatsealability ของวัสดุที่ควรได้รับการประเมินจาก 2 ด้านรวมทั้งตะปูร้อนซึ่งอาจจะมีการทดสอบเมื่อพื้นที่ปิดผนึกไม่ได้เย็นลงอย่างสมบูรณ์และความแข็งแรงประทับตราความร้อน (ความแข็งแรงที่ดีที่สุด) ซึ่งอาจจะมีการทดสอบเมื่อพื้นที่ปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ เย็นลง โดยทั่วไปในปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อทรัพย์สินประทับตราความร้อนของวัสดุบรรจุภัณฑ์รวมถึงอุณหภูมิประทับตราความร้อนความดันประทับตราความร้อนและอาศัยเวลาในระหว่างที่อุณหภูมิความร้อนปิดผนึกเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด. ตะปูร้อนเป็นดัชนีสำคัญที่ใช้ในการประเมินสถานที่ให้บริการความร้อนของ วัสดุบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่ช่วงเวลาระหว่างการทำแพคเกจความร้อนปิดผนึกและบรรจุสินค้าในสายการผลิตเป็นระยะสั้นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่มีมักจะเต็มไปเมื่ออุณหภูมิของพื้นที่ปิดผนึกไม่ได้ลดลงไปที่อุณหภูมิห้อง หากพื้นที่ปิดผนึกไม่สามารถทนต่อผลกระทบของผลิตภัณฑ์ที่เติมเต็มในสายการผลิตที่ถุงบรรจุภัณฑ์อาจล้มเหลวในกระบวนการบรรจุภัณฑ์ แพคเกจการแตกมักจะเกิดขึ้นในขั้นตอนการบรรจุภัณฑ์ด้วยความเร็วสูงแบบฟอร์มเติมตราเครื่อง รวมทั้งอาจเกิดขึ้นได้หากพื้นที่ปิดผนึกไม่เย็นลงอย่างสมบูรณ์ในบรรจุภัณฑ์กระบวนการที่มีเครื่องบรรจุความเร็วต่ำ. ตะปูร้อนมีการทดสอบเพื่อประเมินความสามารถในการรวมกันของพื้นที่ปิดผนึกเมื่อมีการรับผลกระทบจากแรงภายนอกเมื่อมันไม่เย็นลงอย่างสมบูรณ์ ภายในระยะเวลาสั้น ๆ หลังจากขั้นตอนการปิดผนึก เทคนิคตะปูร้อนเป็นผลรวมของความแข็งแรงตะปูปิดผนึกตัวแทนของการปิดผนึกภายใต้อุณหภูมิความร้อนและความเข้มของกาวโครงสร้างหลายคนและองค์ประกอบอื่น ๆ โดยทั่วไปตะปูร้อนของวัสดุที่มีมากน้อยกว่าความแข็งแรงประทับตราความร้อน (ความแข็งแรงที่ดีที่สุด) ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากรูปที่ 1 (ยกมาจากมาตรฐาน ASTM F 2029-00) เส้นโค้งที่มีเครื่องหมาย "Equil อาศัยอยู่ "ด้านซ้ายเป็นเส้นโค้งของความแข็งแรงและประทับตราสำคัญของการทดสอบและอุณหภูมิหลังจากพื้นที่ปิดผนึกเย็นลงอย่างสมบูรณ์ (มันถูกบันทึกไว้ในรูปที่ว่ายอดเงินการเก็บรักษาเป็นเวลาที่ 1000ms) เส้นโค้งที่มีเครื่องหมาย "100ms อาศัยอยู่" ด้านขวาของมันคือเส้นโค้งของความแข็งแรงประทับตราความร้อน (ความแข็งแรงที่ดีที่สุด) และอุณหภูมิ ทั้งสองเส้นโค้งมีแนวโน้มที่คล้ายกันกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ตะปูร้อนของวัสดุทดสอบหลังจากช่วงเวลาเพียง 100 มิลลิวินาทีต่ำกว่าที่ผ่านการทดสอบหลังจากที่ถูกทำให้เย็นลงอย่างสมบูรณ์. รูปที่ 1 Heatsealability ทดสอบ3 โหมดความล้มเหลวของความร้อนตราทดสอบตัวอย่างร้อนแรงของการปิดผนึก (ความแข็งแรงที่ดีที่สุด) ของวัสดุที่เป็นแรงปอกเปลือกที่จำเป็นโดยต่อหน่วยความกว้างของชั้นความร้อนปิดผนึก (โหมดความล้มเหลวแสดงในรูปที่ 2a) อย่างไรก็ตามในการทดสอบที่เกิดขึ้นจริงความล้มเหลวมักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ไม่ปิดผนึกแทนของชั้นปิดผนึกความร้อน ที่เกิดขึ้นจริงความร้อนแรงของตราประทับ (ความแข็งแรงที่ดีที่สุด) ของวัสดุดังกล่าวเป็นเพียงเล็กน้อยที่สูงกว่าผลการทดสอบ โหมดความล้มเหลวของวัสดุในการทดสอบความแข็งแรงสูงสุดเป็นข้อมูลที่สำคัญในการประเมินผลของชิ้นงาน heatsealability ผู้ประกอบการควรสังเกตสภาพของวัสดุหลังการทดสอบเสร็จสิ้น. โหมดความล้มเหลวหมายถึงโหมดการแยกส่วนที่ปิดผนึกของชิ้นงานเมื่อจับตัวอย่างแยกจากกันในความร้อนแรงของการทดสอบประทับตรา โดยทั่วไปความล้มเหลวรวมถึงพื้นผิวการปิดผนึกปอกเปลือก (รูปที่ 2a) ความล้มเหลวของชั้นกาว (รูปที่ 2b) ความล้มเหลวในชั้นตราประทับและชั้นล่าง (รูปที่ 2 c) ความล้มเหลวในการปิดผนึกขอบ (รูปที่ 2d) ความล้มเหลวในการเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ปิดผนึก ( รูป 2e) การยืดตัวของวัสดุปิดผนึก (รูป 2f) การยืดตัวของพื้นที่ปอกเปลือก (รูป 2g). หมายเหตุ: รูปที่จะยกมาจาก ASTEM F 1921-1998 รูปที่ 2 โหมดความล้มเหลวของการปิดผนึกความร้อนตัวอย่างความล้มเหลวที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับ การเลือกอุณหภูมิความร้อนปิดผนึกในการผลิตในทางปฏิบัติ โดยปกติช่วงอุณหภูมิของเส้นโค้งความร้อนปิดผนึกอยู่ในช่วง 5-10 องศาเซลเซียส ตัวอย่างความล้มเหลวที่อุณหภูมิแต่ละควรที่จะแสดงให้เห็นในรายละเอียด (มักจะอยู่ในรูปแบบของภาพประกอบกราฟิกโปรดดูรูปที่ 1) โดยทั่วไปอุณหภูมิประทับตราความร้อนควรจะใกล้เคียงกับอุณหภูมิละลายของชั้นความร้อนปิดผนึกซึ่งอยู่ในจุดเปลี่ยนของเส้นโค้งปิดผนึกที่เส้นโค้งที่เชื่อมได้อย่างรวดเร็วและกลายเป็นแบนแล้ว ถ้าวัสดุการทดสอบจะใช้ในการละลายลงปิดผนึกที่อุณหภูมิความร้อนปิดผนึกควรจะสูงกว่าจุดเปลี่ยนดังกล่าวข้างต้น หากชิ้นงานที่ใช้ในการปิดผนึกลอกอุณหภูมิปิดผนึกที่ควรจะต่ำกว่าจุดเปลี่ยน. 4 สรุปผลการดำเนินงานประทับตราความร้อนของวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมาปรับให้เหมาะสมโดยการปรับพารามิเตอร์ประทับตราความร้อน ด้วยการปรับเปลี่ยนและปรับปรุงเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์วัสดุที่จะต้องมี heatsealability ที่ดีขึ้นเพื่อให้สินค้าสามารถปิดผนึกในแพคเกจและมันอาจจะง่ายต่อการเปิดแพคเกจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 . ความร้อนพารามิเตอร์
ประทับตรา heatsealability ของวัสดุควรประเมินจาก 2 ด้าน ทั้งร้อน แทค ซึ่งจะถูกทดสอบเมื่อปิดผนึกพื้นที่ ไม่เย็นลงอย่างสมบูรณ์ และความแข็งแกร่ง ซีลความร้อน ( ประลัย ) ซึ่งจะถูกทดสอบเมื่อปิดผนึกพื้นที่ได้อย่างใจเย็น โดยทั่วไปปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความร้อนตราคุณสมบัติของวัสดุบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ อุณหภูมิ ความร้อน ความดันและความร้อนปิดผนึก , ประทับตราประทับเวลา ระหว่างที่อุณหภูมิความร้อนตราประทับเป็นสำคัญที่สุด

จาต่อท้ายเป็นดัชนีที่สำคัญที่ใช้เพื่อประเมินความร้อนคุณสมบัติของบรรจุภัณฑ์วัสดุตั้งแต่ช่วงเวลาระหว่างความร้อนปิดผนึกให้แพคเกจและผลิตภัณฑ์บรรจุในสายการผลิตเพื่อให้สั้น ๆที่ผลิตภัณฑ์มักเต็มไปเมื่ออุณหภูมิของบริเวณปิดผนึกไม่ล้มได้ในอุณหภูมิห้อง . ถ้าปิดผนึกพื้นที่ไม่สามารถทนต่อผลกระทบของการบรรจุผลิตภัณฑ์ในสายการผลิต บรรจุภัณฑ์ ถุงอาจล้มเหลวในกระบวนการบรรจุภัณฑ์การแพคเกจมักจะเกิดขึ้นในกระบวนการบรรจุภัณฑ์ที่มีความเร็วสูงแบบเติมตราเครื่อง เช่นกันมันอาจเกิดขึ้นหากปิดพื้นที่ไม่เย็นลงอย่างสมบูรณ์ในกระบวนการบรรจุภัณฑ์ที่มีความเร็วต่ำ

เครื่องบรรจุจาทักคือการทดสอบเพื่อประเมินความสามารถในการปิดผนึกพื้นที่เมื่อมันเป็นผลกระทบจากแรงภายนอก เมื่อมันไม่ได้เย็นลงอย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาสั้นๆหลังจากการกระบวนการ ร้อนแล้วต่อท้ายคือผลรวมของการปิดผนึกตัวแทนเพิ่มความแข็งแรงภายใต้อุณหภูมิและความร้อนปิดผนึกกาวเข้มหลายโครงสร้างและองค์ประกอบอื่น ๆ โดยทั่วไปตะปูร้อนของวัสดุมีค่าน้อยกว่าความร้อนปิดผนึกพลัง ( ประลัย ) ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดจาก” ( อ้างอิงจากมาตรฐาน ASTM F 2029-00 ) เส้นโค้งที่มีเครื่องหมาย " equil . อาศัยอยู่บนซ้ายเป็นเส้นโค้งแรงประทับตราและอุณหภูมิทดสอบหลังจากปิดผนึกพื้นที่เย็นสนิทลง ( มันเป็นข้อสังเกตในรูปร่างที่สมดุลในเวลา 1000ms )เส้นโค้งที่มีเครื่องหมาย " 100ms อาศัยอยู่ " บนขวาเป็นเส้นโค้งแรงผนึกด้วยความร้อน ( ประลัย ) และอุณหภูมิ สองโค้ง มีแนวโน้มที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ตะปูหัวโตร้อนของวัสดุทดสอบหลังจากช่วงเวลาเพียง 100ms ต่ำกว่าที่ทดสอบหลังจากถูกเย็นลง

” heatsealability ทดสอบ
3 โหมดความล้มเหลวของความร้อนซีลชิ้นงานทดสอบ
พลังผนึกด้วยความร้อน ( ประลัย ) ของวัสดุการบังคับใช้ต่อหน่วยความกว้างของชั้นความร้อนซีล ( ความล้มเหลวโหมดแสดง ในรูปที่ 2A ) แต่ในการทดสอบจริง ความล้มเหลวมักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ไม่ปิดผนึกแทนความร้อนชั้นปิดผนึก จริงตราความร้อนแรง ( ประลัย ) ของวัสดุดังกล่าวเป็นเล็กน้อยสูงกว่าผลการทดสอบความล้มเหลวในการทดสอบความแข็งแรงของวัสดุที่ดีที่สุด เป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินชิ้นงาน heatsealability . ผู้ประกอบการควรสังเกตอาการของวัสดุหลังสอบเสร็จ

โหมดความล้มเหลวหมายถึงการแยกโหมดของการปิดผนึกเป็นส่วนหนึ่งของตัวอย่างเมื่อตัวอย่างจับแยกจากแต่ละอื่น ๆในความร้อนซีลกำลังทดสอบ โดยทั่วไปโหมดความล้มเหลวรวมปอกเปลือกพื้นผิวปิดผนึก ( รูปที่ 2A ) , ความล้มเหลวของชั้นกาว ( รูปที่ 2B ) , ความล้มเหลวในชั้นตราและด้านล่างชั้น ( รูปที่ 2 ) , ความล้มเหลวในขอบซีล ( รูปที่ 2 ) , ความล้มเหลวในส่วนที่ปิดผนึกบน ( รูปที่ 2 ) ความยาวของวัสดุปิดผนึก ( รูปห้อง 2F ) , การปอกเปลือกบริเวณ ตัวเลข ( 2G ) หมายเหตุ

: รูปที่ยกมาจาก astem F 1921-98

ฟิค2 โหมดความล้มเหลวของตัวอย่าง
โหมดความล้มเหลวที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการปิดผนึกด้วยความร้อนอุณหภูมิในการผลิตจริงในการปิดผนึกความร้อน โดยปกติอุณหภูมิของความร้อนปิดผนึกภายในช่วงโค้งช่วง 5-10 องศา ตัวอย่างความล้มเหลวในแต่ละอุณหภูมิ ควรแสดงรายละเอียด ( โดยปกติในรูปแบบของภาพกราฟิก โปรดดูรูปที่ 1 ) โดยทั่วไปซีลความร้อนอุณหภูมิควรอยู่ใกล้ละลายอุณหภูมิของชั้นความร้อนซีลซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของการปิดผนึกเส้นโค้งที่โค้งขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นแบน ถ้าวัสดุที่ทดสอบจะถูกใช้ในการปิดผนึกซีลละลายลง อุณหภูมิความร้อนจะสูงกว่าจุดที่กล่าวถึงข้างต้น ถ้าตัวอย่างที่ใช้ใน strippable ปิดผนึกตราประทับอุณหภูมิควรจะต่ำกว่าจุดเลี้ยว

4 . สรุป
ความร้อนซีลสมรรถนะของวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่สามารถปรับได้โดยการปรับความร้อนซีลค่า กับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาเทคโนโลยีการบรรจุวัสดุจะต้องมีที่ดีกว่า heatsealability เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถปิดผนึกในแพคเกจและมันอาจจะง่ายที่จะเปิดแพคเกจ