แต่ดั้งเดิมแล้ว Death Coach เป็นตำนานพื้นบ้านที่รู้จักกันดีในแถบไอร์แลนด์ จะรู้จักกันดีในชื่อ Cóiste Bodhar (Chost-a-bower หรือ Coach-a-bower) แต่ก็พบว่าในอังกฤษหรืออเมริกาก็มีเรื่องเล่านี้อยู่ เช่นกัน ว่ากันว่าการปรากฏให้เห็นหรือส่งเสียงให้ได้ยินของรถ ม้ามรณะนี้ จะเป็นการแจ้งข่าวเกี่ยวกับความตายล่วงหน้า ซึ่งอาจเป็นของตนเองหรือคนใกล้ชิด แน่นอนว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะเมื่อรถม้ายมทูตปรากฏตัวบนโลกแล้วจะไม่ยอมกลับไปเปล่าๆ
โดยทั่วไปแล้วจะบรรยายลักษณะของ Death Coach ไว้ว่าเป็นรถม้าขนาดใหญ่สีดำสนิททั้งคัน เทียมด้วยม้าดำ 4 หรือ 6 ตัว บ้างว่าม้าทั้งหมดล้วนเป็นม้าหัวขาด ตัวสารถีคืออัศวินไร้หัว Dullahan ซึ่งมักหิ้วหัวของตนไว้ด้วยแขนขวาหรือเสียบปักไว้บนปุ่มอานม้า สภาพของหัวที่เน่าเปื่อยฉาบไปด้วยรอยยิ้มชวนแสยงที่ฉีกกว้างจากใบหูข้าง หนึ่งไปจรดกับใบหูอีกข้างข้าง ดวงตาอันมืดมิดกลอกกลิ้งไปมาดั่งมุ่งร้ายหมายขวัญ หัวนั้นเปล่งแสงเรื่อเรืองด้วยก๊าซที่เกิดจากการเน่า เปื่อยและถูกใช้ต่าง ตะเกียงนำทางแหวกความมืดไปสู่จุดหมาย เมื่อดุลลาฮานหยุดลง ณ. ประตูบ้านใด ที่นั่นย่อมมีคนตาย
บางครั้งบางคราวอาจเห็นวิญญานของแบนชี (Banshee) ตามติดไปพร้อมกับรถม้าด้วย ซึ่งแบนชีที่ตามมานั้นแต่เดิมเมื่อยังมีชีวิตจะเป็นเ ครือญาติในตระกูลที่ เกี่ยวดองกับผู้ถึงฆาต ในบางกรณีที่ดุลลาฮานไม่สามารถแจ้งข่าวเตือนมรณกรรมได้หน้าที่นั้นก็จะตก เป็นของแบนชีแทน เสียงเพรียกหานั้นมีเพียงผู้ถึงฆาตเท่านั้นที่จะได้ยิน
บ้างก็ว่าดุลลาฮานไม่ได้มาเตือนว่าคนในบ้านที่ไปเยือนจะตาย หากแต่เป็นญาติมิตรของครอบครัวนั้นที่อยู่ห่างไกล
ในฐานะที่เป็นยมทูตผู้แจ้งข่าวมรณกรรมแล้วไม่ใครจะมี สิ่งใดสามารถหยุดยั้ง ดุลลาฮานไว้ได้(และดูเหมือนด้วยเอกสิทธิ์ในหน้าที่นี้ทำให้ดุลลาฮานเป็นปิศาจเพียงตนเดียวที่สามารถย่างก้าวเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์) เว้นเสียแต่หากมีเครื่องรางหรือเครื่องประดับที่ทำด้วยทองคำ ก็อาจจะช่วยข่มขวัญให้ดุลลาฮานหวาดกลัวหลีกหนีไปได้สักระยะ
เท่าที่จำได้ดูเหมือนจะเคยมีคนลองของเหมือนกัน เพราะอยากเห็นว่ารถม้ามรณะนี่จะมีจริงรึเปล่า (น่าเสียดายที่ผมจำที่มาไม่ได้ แล้วว่าไปอ่านมาจากไหน จึงไม่ได้ลงแหล่งอ้างอิงข้อมูลไว้ และอาจตกหล่นไปบ้างเพราะเล่าจากความทรงจำ) โดยการแขวนตะเกียงไว้บนเสาข้างถนนเส้นหลักแล้วคอยแอบ ส่องจากหน้าต่างชั้นสอง บนบ้านที่ตั้งอยู่ริมถนนทุกคืน คืนแล้วคืนเล่าก็คอยหาย จนกระทั่งคืนหนึ่งก็ได้เรื่อง มีเสียงควบขับของรถม้าแว่วมาให้ได้ยิน แต่ไม่มีวี่แววของตัวรถม้าให้เห็นเลยแม้แต่น้อย เมื่อเสียงเข้ามาใกล้บริเวณที่แขวนตะเกียงก็เกิดลมกร รโชกอย่างรุนแรง และตะเกียงที่แขวนไว้ก็แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ หลังจากคืนนั้นด้วยความขนพองสยองเกล้ากับสิ่งที่เกิด ขึ้นก็ไม่มีใครกล้า พิสูจน์ความจริงเรื่องนี้อีกเลย