Future work self stems from the con

Future work self stems from the concept of possible selves that constitute the future-oriented aspects of the self-concept. These
possible selves may be both positive and negative in terms of what one hopes to become and or hopes to avoid becoming (Markus
& Nurius, 1986). Theoretically, possible selves are a source of identity-based motivation that influences current behavior consistent
with one's characteristics and aimed toward the attainment of a desired future (Oyserman & James, 2011). Within the context of
possible selves, research has demonstrated its motivational influence on behavior related to career aspirations. For example, Destin
and Oyserman (2010) reported that middle-school students from a low-income background who envisioned a desired occupation
that required higher education tended to earn higher grades than students who did not see their future occupation as education
dependent. A longitudinal study by Beal and Crockett (2010) mirrored these results with a sample of low-income rural teens. In
this study, 15-year olds that aspired to further their education and attain prestigious occupations did in fact attain more education
7 years later. Given the theoretical and empirical links between current behavior and a desired future, examining the motivational
influence of the future self in the context of work may lend itself to understanding the engagement of proactive career behaviors
that lead to successful attainment of a preferred occupation and subsequent career management.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตนเองมาจากแนวคิดของตัวเป็นไปได้ที่เป็นด้านหน้าของ self-concept ทำงานในอนาคต เหล่านี้ตัวได้อาจมีทั้งบวก และลบสิ่งหนึ่งหวังที่จะเป็นและ หรือหวังว่าจะไม่ (Markus& Nurius, 1986) ตามหลักวิชา ตัวสุดเป็นแหล่งของตัวตามแรงจูงใจที่มีผลต่อการทำงานปัจจุบันที่สอดคล้องหนึ่งเป็นลักษณะ และมุ่งไปทางมั่นอนาคตต้อง (Oyserman & James, 2011) ภายในบริบทของตัวได้ วิจัยได้แสดงอิทธิพลหัดในพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับแรงบันดาลใจในการทำงาน ตัวอย่าง Destinและ Oyserman (2010) รายงานที่โรงเรียนมัธยมต้นเรียนจากพื้นหลังแนซ์ที่จินตนาการอาชีพระบุที่ต้องการศึกษามีแนวโน้มที่จะ ได้รับคะแนนสูงกว่านักเรียนที่ไม่ได้เห็นการประกอบอาชีพในอนาคตเป็นการศึกษาขึ้นอยู่กับการ การศึกษาระยะยาวโดย Beal มคร็อก (2010) สะท้อนผลลัพธ์เหล่านี้กับตัวอย่างของวัยรุ่นชนบทแนซ์ ในศึกษา 15 - ปีอายุที่ aspired เพื่อศึกษาเพิ่มเติม และบรรลุอาชีพอันทรงเกียรติ ได้จริงบรรลุการศึกษาเพิ่มเติม7 ปี ให้ประจักษ์ และทฤษฎีเชื่อมโยงระหว่างพฤติกรรมปัจจุบันและอนาคตต้อง ตรวจสอบการหัดอิทธิพลของตนเองในบริบทของงานในอนาคตอาจยืมตัวเองเพื่อทำความเข้าใจความผูกพันของพฤติกรรมการทำงานเชิงรุกที่ทำให้ประสบความสำเร็จโดยอาชีพที่ต้องการและการบริหารงานต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตนเองการทำงานในอนาคตที่เกิดจากแนวความคิดของตัวเองเป็นไปได้ที่เป็นแง่มุมเชิงอนาคตของแนวคิดตนเอง เหล่านี้ตัวเป็นไปได้ที่อาจจะมีทั้งบวกและลบในแง่ของสิ่งหนึ่งที่จะกลายเป็นความหวังหรือหวังที่จะหลีกเลี่ยงการเป็น(มาร์คัสและNurius, 1986) ในทางทฤษฎีตัวที่เป็นไปได้เป็นที่มาของแรงจูงใจในตัวตนตามที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมในปัจจุบันที่สอดคล้องกับลักษณะของคนและมุ่งเป้าไปสู่ความสำเร็จของอนาคตที่ต้องการ (Oyserman และเจมส์ 2011) ในบริบทของตัวเองที่เป็นไปได้การวิจัยได้แสดงให้เห็นอิทธิพลของแรงบันดาลใจที่มีต่อพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับแรงบันดาลใจอาชีพ ยกตัวอย่างเช่นสติและ Oyserman (2010) รายงานว่านักเรียนระดับมัธยมศึกษาจากพื้นหลังมีรายได้ต่ำที่จินตนาการเป็นอาชีพที่ต้องการที่จำเป็นต้องใช้การศึกษาสูงมีแนวโน้มที่จะได้รับเกรดที่สูงกว่านักเรียนที่ไม่ได้เห็นการประกอบอาชีพในอนาคตของพวกเขาเช่นการศึกษาขึ้น การศึกษาระยะยาวโดย Beal และคร็อค (2010) สะท้อนผลลัพธ์เหล่านี้มีตัวอย่างรายได้ต่ำวัยรุ่นชนบท ในการศึกษาครั้งนี้เด็กอายุ 15 ปีที่สร้างแรงบันดาลใจเพื่อการศึกษาของพวกเขาและบรรลุการประกอบอาชีพที่มีชื่อเสียงในความเป็นจริงไม่บรรลุการศึกษาอื่น ๆ อีก 7 ปีต่อมา ได้รับการเชื่อมโยงทางทฤษฎีและการทดลองระหว่างพฤติกรรมในปัจจุบันและอนาคตที่ต้องการตรวจสอบสร้างแรงบันดาลใจอิทธิพลของตัวเองในอนาคตในบริบทของการทำงานอาจจะให้ยืมตัวเพื่อความเข้าใจการมีส่วนร่วมของพฤติกรรมอาชีพเชิงรุกที่นำไปสู่ความสำเร็จที่ประสบความสำเร็จของอาชีพที่ต้องการและอาชีพที่ตามมาการจัดการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตนเองการทำงานในอนาคตเกิดจากแนวคิดของที่สุดตัวที่เป็นอนาคตที่มุ่งเน้นด้านของอัตมโนทัศน์ . เหล่านี้
เป็นไปได้ตัวอาจจะมีทั้งด้านบวกและด้านลบในแง่ของสิ่งที่เราหวังที่จะเป็น หรือหวังที่จะหลีกเลี่ยงการกลายเป็น ( มาคัส
& nurius , 1986 ) ตามทฤษฎีแล้ว ตัวที่เป็นไปได้คือ แหล่งที่มาของแรงจูงใจที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมที่สอดคล้องกันบนฐาน
ปัจจุบันด้วยลักษณะ และมุ่งสู่ความสำเร็จของที่ต้องการในอนาคต ( oyserman &เจมส์ , 2011 ) ภายในบริบทของ
ตัวที่สุด การวิจัยได้แสดงให้เห็นอิทธิพลของแรงจูงใจต่อพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับแรงบันดาลใจในอาชีพ ตัวอย่างเช่น เดสติน
oyserman ( 2010 ) และ รายงานว่า นักเรียน ม.ต้น จากผู้ที่มองเห็นภาพพื้นหลังที่ต้องการอาชีพ
เป็นระดับอุดมศึกษามีแนวโน้มที่จะได้รับคะแนนสูงกว่านักเรียนที่ไม่ได้ดูอาชีพในอนาคตของพวกเขาเป็นการศึกษา
ขึ้นอยู่กับ การศึกษาระยะยาวโดยบีล Crockett ( 2010 ) และสะท้อนผลลัพธ์เหล่านี้ด้วยตัวอย่างของผู้มีรายได้น้อยในชนบท วัยรุ่น ใน
การศึกษา 15 ปี olds ที่ aspired เพื่อการศึกษาของพวกเขาและบรรลุอาชีพอันทรงเกียรติในความเป็นจริงไม่บรรลุ
การศึกษาเพิ่มเติม7 ปีต่อมา ได้รับการเชื่อมโยงเชิงทฤษฎีและเชิงประจักษ์ระหว่างพฤติกรรมในปัจจุบันและอนาคตที่ต้องการ การตรวจสอบแรงจูงใจ
อิทธิพลของอนาคตในบริบทของงานอาจยืมตัวเองเพื่อความเข้าใจ ความผูกพันของพฤติกรรมเชิงรุกสู่ความสำเร็จอาชีพ
ของอาชีพที่ต้องการและการจัดการอาชีพ .