Water requirementDepending upon the

Water requirement

Depending upon the agro climatic conditions, type of soil, methods of planting and use of manures and fertilizers and sugarcane yield the water requirement varies.The hot weather associated with dry winds and drought increases the water requirement of the crop.

The crop sown in trenches needs relatively less water but sandy soils and application of more fertilizers increase the water uptake. On an average 1 ton cane needs about 60-70 tons of water or thin varieties of cane need 150 cm thick canes and need 200 cm water and Adsali planted canes 200 cm, in addition to 75 cm rainfall. The crop should be irrigated when available water reaches to 50% level.

The soil must have sufficient moisture at the time of sowing. First irrigation should be done when about 20-25% plant have germinated or about 20 days after sowing and the irrigations are given at 10-15 days interval during summer, 25-30 days interval during winter and if there is drought the crop should be irrigated during rainy season also as and when needed. The crop needs maximum water at tillering stage and during elongation or grand growth phase.

Under water logging conditions the root respiration becomes poor. Nutrients are leached down, activities of useful micro-organisms are reduced and the crop lodges down with an excessive branching. Thus the quality becomes poor along with very low crop yield. These all make it necessary to drain the excess water from the field.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความต้องการน้ำขึ้นอยู่กับการเกษตรสภาพอากาศ ชนิดของดิน วิธีการปลูกและการใช้ manures และปุ๋ย และผลผลิตอ้อยต้องการน้ำแตกต่างกันไป อากาศร้อนที่เกี่ยวข้องกับลมแห้งและภัยแล้งเพิ่มขึ้นความต้องการน้ำของพืช พืชที่หว่านในสนามเพลาะต้องการน้ำค่อนข้างน้อย แต่ดินทรายและการเติมปุ๋ยเพิ่มการดูดซึมน้ำ ในการเฉลี่ย 1 ตันอ้อย ต้องประมาณ 60-70 ตันน้ำหรืออ้อยบางพันธุ์ต้อง 150 ซม.หนาอ้อย และต้อง 200 ซม.น้ำและ Adsali ปลูกอ้อยนอกจากฝน 75 ซม. ซม. ควรจะล้างพืชเมื่อน้ำมีถึงระดับ 50% ดินต้องมีความชื้นเพียงพอในเวลาหว่าน ชลประทานแรกควรจะทำเมื่อประมาณ 20-25% โรงงานได้งอก หรือประมาณ 20 วันหลังหว่านและ irrigations ที่ถูกกำหนดในช่วงเวลา 10-15 วันในช่วงฤดูร้อน 25-30 วันช่วงฤดูหนาวและถ้ามีภัยแล้งพืชควรเป็นชลประทานฤดูฝนยังเป็น และ เมื่อจำเป็น พืชต้องการน้ำสูงสุด ที่ tillering ขั้น และใน ระหว่างการยืดตัวหรือระยะเจริญเติบโตของแกรนด์ภายใต้เงื่อนไขการเข้าสู่ระบบน้ำ หายใจรากจะไม่ดี สารอาหารมี leached ลง กิจกรรมของจุลินทรีย์มีประโยชน์จะลดลง และพืชกระท่อมลง ด้วยสาขามากเกินไป ดังนั้น คุณภาพจะไม่ดีพร้อมกับผลผลิตของพืชต่ำมาก เหล่านี้ทั้งหมดทำให้จำเป็นต้องระบายน้ำส่วนเกินจากฟิลด์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศเกษตรชนิดของดิน, วิธีการปลูกและการใช้ปุ๋ยพืชสดและปุ๋ยและผลผลิตอ้อยน้ำ varies.The อากาศร้อนที่เกี่ยวข้องกับลมแห้งและภัยแล้งเพิ่มขึ้นความต้องการน้ำของพืช. พืชหว่าน ในสนามเพลาะต้องการน้ำค่อนข้างน้อย แต่ดินทรายและการประยุกต์ใช้ปุ๋ยมากขึ้นเพิ่มการดูดซึมน้ำ โดยเฉลี่ย 1 ตันอ้อยต้องการประมาณ 60-70 ตันของน้ำหรือพันธุ์บาง ๆ ของความต้องการอ้อยอ้อย 150 ซม. หนาและต้อง 200 เซนติเมตรน้ำและ Adsali ปลูกอ้อย 200 เซนติเมตรนอกเหนือไปจาก 75 ซม. ปริมาณน้ำฝน ผู้ปลูกควรชลประทานเมื่อน้ำใช้ได้ถึงระดับ 50%. ดินต้องมีความชื้นเพียงพอในช่วงเวลาของการหว่าน ชลประทานแรกที่ควรจะทำเมื่อประมาณ 20-25% ของพืชได้งอกหรือประมาณ 20 วันหลังหยอดเมล็ดและ irrigations จะได้รับในช่วงเวลา 10-15 วันในช่วงฤดูร้อน 25-30 ช่วงวันในช่วงฤดูหนาวและหากมีภัยแล้งพืชที่ควรจะเป็น ชลประทานในช่วงฤดูฝนยังเป็นและเมื่อจำเป็น พืชที่ต้องการน้ำสูงสุดในขั้นตอนการแตกกอและในระหว่างการยืดระยะการเจริญเติบโตหรือแกรนด์. ภายใต้เงื่อนไขการเข้าสู่ระบบน้ำและระบบหายใจรากกลายเป็นคนยากจน สารอาหารจะถูกชะล้างลงกิจกรรมที่มีประโยชน์จุลินทรีย์จะลดลงและบ้านพักพืชลงด้วยการแตกแขนงมากเกินไป ดังนั้นที่มีคุณภาพจะไม่ดีพร้อมกับผลผลิตที่ต่ำมาก ทั้งหมดเหล่านี้ทำให้จำเป็นต้องระบายน้ำส่วนเกินออกจากสนาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความต้องการน้ำขึ้นอยู่กับการเกษตร สภาพภูมิอากาศ ชนิดของดิน วิธีการปลูก และการใช้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยอ้อยผลผลิตและความต้องการน้ำแตกต่างกันไป อากาศร้อนและแห้งแล้ง เกี่ยวข้องกับลมเพิ่มความต้องการน้ำของพืชพืชที่หว่านในร่องลึกความต้องการน้ำค่อนข้างน้อย แต่ทรายดินและการใช้ปุ๋ยมากขึ้น เพิ่มการดูดน้ำ . โดยเฉลี่ย 1 ตันอ้อยประมาณ 60-70 ตันของน้ำ หรือบางพันธุ์อ้อยต้อง 150 ซม. หนาาา 200 ซม. และน้ำและ adsali ปลูกอ้อย 200 เซนติเมตร นอกจาก 75 ซม. ตามลำดับ ผู้ปลูกควรปลูก เมื่อมีน้ำถึงระดับ 50%ดินต้องมีความชื้นเพียงพอ ณเวลาการหว่านเมล็ด น้ำแรกที่ควรทำเมื่อประมาณ 20-25 % พืชงอก หรือ ประมาณ 20 วัน หลังหว่าน และ irrigations จะได้รับในช่วงเวลา 10-15 วันในช่วงฤดูร้อนในช่วงฤดูหนาวและช่วง 25-30 วันหากมีภัยแล้งปลูกควรปลูกในฤดูฝน ก็เป็นและเมื่อจำเป็น พืชต้องการน้ำสูงสุดที่จนถึงระยะและช่วงยืดตัวหรือระยะการเจริญเติบโตที่ยิ่งใหญ่ภายใต้สภาพน้ำเข้าสู่ระบบรากการหายใจจะกลายเป็นคนจน รังจะถูกชะล้างลงกิจกรรมของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์จะลดลง และพืชพักลงมากเกินไปแยกเป็นสาขา ดังนั้นคุณภาพจะไม่ดี พร้อมกับผลผลิตพืชน้อยมาก ทั้งหมดเหล่านี้ทำให้มันต้องระบายน้ำส่วนที่เกินจากสนาม