Over the past 20 years, scientists

Over the past 20 years, scientists have been using technology on nature to improve food supplies. They are producing, genetically mosified (GM) food by modifying, or changing, the genes of plant and animals. Genes are the codes in the cells of every living thing that determine the way they look and grow. In humans, genes determine characteristics such as the color of our eyes and how tall we are. By changing the genes of plant, scientists can cause crops to produce more, become resistant to pests and disease, and have more nutritional value. Genetically modified plants can have great benefits by increasing food supplies, protecting the environment, and even improving nutrition.
How will we feed a growing population? The world's population is expected to exceed 8 billion by 2025. Much of this increase will occur in the cities of developing countries. Unfortunately, food production, instead of increasing, has decreased over the last ten years. As it is, some 40000 people die from die from hunger-related causes every day. The only way to increase food production seems to be through technology, since land and water are getting scarce. In Afica, millions of people don't have enough food to eat and are dying because drought has destroyed their food supply. It GM food crops could be developed that could resist droughts or grow in poor, dry, or salty soils, this would help poorer countries.
GM crops can protect the environment because they are kinder to nature. Many farmers today depend on chemical such as pesticides, herbicides, and fertilizers to make their crops grow. Through gene biology, the genes of plants can be modified so that they will be diseasa-resistant and pest-resistant and still produce the sane amount. The most common GM crops grows at the moment are those that resist herbicides. The second most common are those crops that kill pests. Some crops have been grown with both these genes. If a crop can resist herbicidea, the farmer can spray a field with herbicides without harming the crop. All the weeds and other plants die, but the crop does not. By decreasing the number of weeds, the farmer increases the amount of crop grown. A good example of such a crop is GM cotton, which is often grown in the United States for cottonseed oil. If a crop can kill pest, the farmer does not have to spray so often to pests. An example of a pest-resistant crop is maize, which is similar to corn. There is a bacterium in the soil which produces a poison that kills insects, but it is harmless to people. Putting this bacterium gene into maize plants makes them produce their own poison, which kills the pests that eat them. This is better for the environment because it reduces the need to spray fields with pesticides and fertilizers.
Genetically modified crops may make food more nutritious by adding genes to produce more vitamins that the body needs for health and growth. For example, a kind of rice called golden rice has been genetically modified to contain vitamin A. Regular rice are missing this important vitamin. This new rice can make a big difference to those people. Modifying potatoes to contain less starch would not absorb so much fat in the cooking. GM vegetables of the future may be produced with added nutrients to help fight heart disease and cancer.
The United States grows 75 percent of the world's GM crops. More than 40 percent of the corn, 50 percent of the cotten, and 45 percent of the soybeans grown in the United states in 1999 were genetically modified. The ingredients from these crops-especially soy, which is used in many products-show up in a lot of the food we eat, from pizza, cookies, pasta, ice cream, and potato chips to soup. Are GM foods safe for our health and the environment? So far, there is no evidence that GM foods have any risks, but only time and more research will tell.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กว่า 20 ปี นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยีในธรรมชาติเพื่อเพิ่มเสบียง พวกเขาจะผลิต แปลงพันธุกรรมอาหาร (กรัม) mosified โดยปรับเปลี่ยน เปลี่ยน ยีนของพืชและสัตว์ ยีนที่เป็นรหัสอยู่ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตทุกที่กำหนดวิธีการพวกเขามอง และเติบโต ในมนุษย์ ยีนที่กำหนดลักษณะเช่นสีของตาและสูงว่าเราจะ โดยการเปลี่ยนแปลงยีนของพืช นักวิทยาศาสตร์สามารถทำให้พืชผลิตขึ้น กลายเป็นทนต่อโรคและศัตรูพืช และมีคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มมากขึ้น พืชดัดแปลงพันธุกรรมสามารถมีประโยชน์มาก โดยเพิ่มเสบียง ปกป้องสิ่งแวดล้อม และแม้กระทั่งปรับปรุงโภชนาการ วิธีใดเราจึงจะเลี้ยงประชากรที่เพิ่มขึ้น ประชากรโลกคาดว่าจะเกิน 8 ล้าน 2025 มากขึ้นนี้จะเกิดขึ้นในเมืองของประเทศกำลังพัฒนา อับ ผลิตอาหาร แทนที่จะเพิ่ม ลดสิบปี เนื่องจากเป็น บางคน 40000 ตายจากตายจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับความหิวทุกวัน วิธีเดียวที่จะเพิ่มการผลิตอาหารน่าจะ เป็นทางเทคโนโลยี เนื่องจากมีการขาดแคลนน้ำและที่ดิน ใน Afica ล้านคนไม่มีอาหารพอกิน และจะตายเนื่องจากภัยแล้งได้ทำลายจัดหาอาหาร มันกรัมอาหารสามารถพัฒนาพืชที่สามารถต้านทาน droughts หรือเติบโตในดี แห้ง หรือเค็มดินเนื้อปูน นี้จะช่วยให้ประเทศย่อม พืชจีเอ็มสามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมเพราะเป็นเกี่ยวกับธรรมชาติ เกษตรกรหลายท่านขึ้นอยู่กับสารเคมีเช่นยาฆ่าแมลง สารเคมีกำจัดวัชพืช และปุ๋ยเพื่อให้พืชผลของพวกเขาเติบโต ผ่านวิชาชีววิทยายีน ยีนของพืชสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้พวกเขาจะ diseasa ทน และทนทาน ต่อศัตรูพืช และยัง ผลิตจำนวนเงินบุคคล พืชจีเอ็มทั่วไปเติบโตในขณะต้านทานสารเคมีกำจัดวัชพืช พืชเหล่านั้นฆ่าศัตรูพืชทั่วไปส่วนใหญ่ที่สองได้ พืชบางอย่างได้เติบโต มีทั้งยีนเหล่านี้ ถ้าพืชสามารถต้านทาน herbicidea เกษตรกรสามารถสเปรย์เขต ด้วยสารเคมีกำจัดวัชพืชโดยไม่เป็นอันตรายต่อพืชผล วัชพืชทั้งหมด และตายพืชอื่น ๆ แต่พืชผลไม่ได้ โดยการลดจำนวนวัชพืช เกษตรกรเพิ่มจำนวนพืชที่ปลูก ตัวอย่างที่ดีของพืชเช่นฝ้ายจีเอ็ม ซึ่งมักจะมีการเติบโตขึ้นในสหรัฐอเมริกาสำหรับน้ำมันส่วนเกิน ได้ ถ้าพืชสามารถฆ่าแมลง ชาวนาไม่ได้พ่นบ่อยไปศัตรูพืช ตัวอย่างของพืชที่ทนทานต่อศัตรูพืชคือ ข้าวโพด ซึ่งคล้ายกับข้าวโพด มีแบคทีเรียอยู่ในดินซึ่งทำให้เกิดพิษที่ฆ่าแมลง แต่ก็ไม่เป็นอันตรายกับคน ใส่ยีนแบคทีเรียนี้เป็นข้าวโพดพืชทำให้พวกเขาผลิตเองพิษ การฆ่าศัตรูพืชที่กินได้ ทั้งนี้ดีกว่าสิ่งแวดล้อมเนื่องจากช่วยลดความจำเป็นต้องสเปรย์ฟิลด์ ด้วยยาฆ่าแมลงและปุ๋ย พืชดัดแปลงพันธุกรรมอาจทำให้อาหารมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น โดยการเพิ่มยีนการผลิตเติมวิตามินที่ร่างกายจำเป็นสำหรับสุขภาพและการเจริญเติบโต ตัวอย่าง ชนิดของข้าวที่เรียกว่าข้าวสีทองมีพันธุกรรมมี วิตามินข้าวปกติ A. ขาดวิตามินสำคัญนี้ ข้าวใหม่นี้สามารถทำให้เกิดความแตกต่างกับคนเหล่านั้น ปรับเปลี่ยนมันฝรั่งมีแป้งน้อยจะไม่ช่วยดูดซับไขมันมากในการปรุงอาหาร กรัมผักในอนาคตอาจจะผลิต ด้วยสารอาหารเพิ่มเพื่อช่วยต่อสู้โรคหัวใจและโรคมะเร็ง สหรัฐอเมริกาเติบโตร้อยละ 75 ของพืชจีเอ็มในโลก กว่าร้อย ละ 40 ของข้าวโพด 50 เปอร์เซ็นต์ของฝ้าย และ 45 เปอร์เซ็นต์ของถั่วเหลืองที่ปลูกในสหรัฐอเมริกาในปี 1999 มีพันธุกรรม ส่วนผสมเหล่านี้พืชโดยเฉพาะอย่างยิ่งถั่วเหลือง ซึ่งใช้ในการแสดงสินค้ามากขึ้นจำนวนมากกิน พิซซ่า คุกกี้ พาสต้า ไอศกรีม และมันฝรั่งไปต้ม อาหารจีเอ็มจะปลอดภัยสำหรับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของเรา เพื่อห่างไกล ไม่ว่า อาหารจีเอ็มมีความเสี่ยงใด ๆ แต่เฉพาะเวลาและวิจัยเพิ่มเติมจะบอก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ผ่านมา 20 ปีนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยีในลักษณะที่จะปรับปรุงเสบียงอาหาร พวกเขามีการผลิต, mosified พันธุกรรม (GM) อาหารโดยการปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงยีนของพืชและสัตว์ รหัสยีนในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตทุกที่เป็นตัวกำหนดวิธีที่พวกเขามองและเติบโต ในมนุษย์ยีนกำหนดลักษณะเช่นสีของดวงตาของเราและวิธีการที่สูงเราเป็น โดยการเปลี่ยนยีนของพืชที่นักวิทยาศาสตร์สามารถทำให้เกิดพืชในการผลิตมากขึ้นกลายเป็นทนต่อศัตรูพืชและโรคและมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น พืชดัดแปลงพันธุกรรมสามารถมีผลประโยชน์ที่ดีโดยการเพิ่มเสบียงอาหาร, การปกป้องสิ่งแวดล้อมและแม้กระทั่งการปรับปรุงโภชนาการ.
วิธีการที่เราจะเลี้ยงประชากรที่เพิ่มขึ้น? ประชากรของโลกที่คาดว่าจะเกิน 8 พันล้านดอลลาร์จากปี 2025 มากของการเพิ่มขึ้นนี้จะเกิดขึ้นในเมืองของประเทศกำลังพัฒนา แต่น่าเสียดายที่การผลิตอาหารแทนการเพิ่มขึ้นได้ลดลงในช่วงหลายสิบปีที่ผ่าน มันเป็นบางส่วน 40,000 คนเสียชีวิตจากการตายจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับความหิวทุกวัน วิธีเดียวที่จะเพิ่มการผลิตอาหารที่ดูเหมือนว่าจะผ่านทางเทคโนโลยีตั้งแต่บกและทางน้ำที่ได้รับความขาดแคลน ใน Afica ล้านคนไม่ได้มีอาหารเพียงพอที่จะกินและที่กำลังจะตายเพราะภัยแล้งได้ทำลายแหล่งอาหารของพวกเขา มันพืชอาหารจีเอ็มสามารถพัฒนาที่สามารถต้านทานภัยแล้งหรือเติบโตในยากจนแห้งหรือดินที่เค็มนี้จะช่วยให้ประเทศยากจน.
พืชจีเอ็มสามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมเพราะพวกเขามีเมตตากับธรรมชาติ เกษตรกรจำนวนมากในวันนี้ขึ้นอยู่กับสารเคมีเช่นยาฆ่าแมลง, สารเคมีกำจัดวัชพืชและปุ๋ยเพื่อให้พืชผลของพวกเขาเติบโต ผ่านทางชีววิทยายีนยีนของพืชสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้พวกเขาจะ diseasa ทนและศัตรูพืชที่ทนและยังคงผลิตจำนวนสติ พืชที่พบมากที่สุดของจีเอ็มเติบโตขึ้นในขณะนี้เป็นผู้ที่ต่อต้านสารเคมีกำจัดวัชพืช ที่สองพบมากที่สุดคือพืชที่ฆ่าศัตรูพืช พืชบางคนได้รับการปลูกที่มีทั้งยีนเหล่านี้ หากพืชสามารถต้านทาน herbicidea ชาวนาสามารถสเปรย์เขตข้อมูลที่มีสารเคมีกำจัดวัชพืชโดยไม่ทำร้ายพืช วัชพืชทั้งหมดและพืชอื่น ๆ ตาย แต่การเพาะปลูกไม่ได้ โดยการลดจำนวนของวัชพืชชาวนาเพิ่มปริมาณของพืชที่ปลูก ตัวอย่างที่ดีของพืชดังกล่าวเป็นผ้าฝ้ายจีเอ็มซึ่งเป็นผู้ใหญ่มักจะอยู่ในสหรัฐอเมริกาสำหรับน้ำมันเมล็ดฝ้าย หากพืชสามารถฆ่าศัตรูพืชที่เกษตรกรไม่ได้มีการสเปรย์จึงมักจะศัตรูพืช ตัวอย่างของพืชศัตรูพืชที่ทนคือข้าวโพดซึ่งคล้ายกับข้าวโพด มีแบคทีเรียในดินซึ่งเป็นผู้ผลิตยาพิษที่ฆ่าแมลงเป็น แต่มันไม่เป็นอันตรายต่อคน ใส่ยีนแบคทีเรียนี้ในพืชข้าวโพดทำให้พวกเขาผลิตพิษของตัวเองซึ่งฆ่าศัตรูพืชที่กินพวกเขา นี้จะดีสำหรับสภาพแวดล้อมเพราะจะช่วยลดความจำเป็นในการสาขาสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงและปุ๋ย.
พืชดัดแปลงพันธุกรรมอาจจะทำให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นโดยการเพิ่มการผลิตยีนวิตามินที่ร่างกายต้องการเพื่อสุขภาพและการเจริญเติบโต ตัวอย่างเช่นชนิดของข้าวที่เรียกว่าข้าวสีทองได้รับการดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อให้มีวิตามินเอข้าวปกติจะหายไปนี้วิตามินที่สำคัญ นี้ข้าวใหม่ที่สามารถสร้างความแตกต่างกับคนเหล่านั้น แก้ไขมันฝรั่งจะมีแป้งน้อยจะไม่ดูดซับไขมันมากในการปรุงอาหาร ผักจีเอ็มในอนาคตอาจจะมีการผลิตที่มีสารอาหารเพิ่มเพื่อช่วยต่อสู้กับโรคหัวใจและโรคมะเร็ง.
สหรัฐฯเติบโตร้อยละ 75 ของพืชจีเอ็มของโลก มากกว่าร้อยละ 40 ของข้าวโพดที่ร้อยละ 50 ของ Cotten และร้อยละ 45 ของถั่วเหลืองที่ปลูกในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1999 ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรม ส่วนผสมจากพืชเหล่านี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งถั่วเหลืองซึ่งจะใช้ในหลายผลิตภัณฑ์แสดงขึ้นมาในจำนวนมากของอาหารที่เรากินจากพิซซ่า, คุกกี้, พาสต้า, ไอศครีมและมันฝรั่งทอดในน้ำซุป อาหารจีเอ็มมีความปลอดภัยสำหรับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของเราหรือไม่ จนถึงขณะนี้มีหลักฐานว่าอาหารจีเอ็มมีความเสี่ยงใด ๆ แต่เวลาเท่านั้นและการวิจัยมากขึ้นจะบอก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้เทคโนโลยีในธรรมชาติเพื่อปรับปรุงวัสดุอาหาร พวกเขามีการผลิต , mosified พันธุกรรม ( GM ) อาหารโดยการปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลง พันธุกรรมของพืชและสัตว์ ยีนที่เป็นรหัสในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตที่กำหนดวิธีที่พวกเขามองและเติบโต ในมนุษย์ ยีนที่กำหนดลักษณะ เช่น สีของดวงตาของเราและสูงเท่าไร เราด้วยการเปลี่ยนแปลงยีนของพืช นักวิทยาศาสตร์สามารถทำให้พืชที่จะผลิตมากขึ้น กลายเป็นทนต่อศัตรูพืชและโรค และได้คุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น พืชดัดแปลงพันธุกรรมสามารถมีประโยชน์มากโดยการเพิ่มวัสดุอาหาร การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาแม้กระทั่งโภชนาการ .
แล้วเราจะเลี้ยงประชากรที่เพิ่มขึ้น ? ประชากรของโลกคาดว่าจะเกิน 8 พันล้านในปี 2568มากของการเพิ่มขึ้นนี้จะเกิดขึ้นในเมืองของประเทศกำลังพัฒนา แต่น่าเสียดายที่การผลิตอาหาร แทนที่จะเพิ่ม ลดลงไป 10 ปี มันเป็นบาง 40 , 000 คน ตายจากตายจากความหิวที่ทำให้ทุก ๆวัน วิธีเดียวที่จะเพิ่มการผลิตอาหารที่ดูเหมือนว่าจะผ่านเทคโนโลยี เนื่องจากที่ดินและน้ำเริ่มขาดแคลน สอบถามใน ,ล้านคนไม่มีอาหารเพียงพอที่จะกิน และจะตายเพราะความแห้งแล้งได้ทำลายแหล่งอาหารของพวกเขา แล้วจีเอ็มพืชอาหารอาจจะมีการพัฒนาที่สามารถต้านทานความแห้งแล้ง หรือ เติบโตจน แห้ง หรือ เค็ม ดิน นี้จะช่วยให้ประเทศที่ยากจนกว่า .
พืชจีเอ็มสามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมเพราะพวกเขาเป็นเด็กธรรมชาติ เกษตรกรจำนวนมากในวันนี้ขึ้นอยู่กับสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืชและปุ๋ยให้พืชเติบโต ผ่านชีววิทยายีน ยีนของพืชที่สามารถแก้ไขเพื่อให้พวกเขาจะ diseasa ทนและทนต่อศัตรูพืช และยังคงผลิตปริมาณปกติ พืช GM ที่พบมากที่สุดที่เติบโตในขณะนี้คือที่ต้านทานสารกำจัดวัชพืช . สองที่พบมากที่สุดคือ พืชที่ฆ่าศัตรูพืช พืชบางชนิดมีการเติบโตที่มียีนทั้งสองเหล่านี้หากพืชสามารถต้านทาน herbicidea , เกษตรกรสามารถฉีดพ่นด้วยสารกำจัดวัชพืชโดยไม่ทำร้ายด้านพืช หมดวัชพืชและพืชอื่น ๆตาย แต่พืชไม่ได้ โดยลดจำนวนวัชพืช เกษตรกรเพิ่มปริมาณพืชที่โต ตัวอย่างที่ดีของนี้เป็นพืชจีเอ็มฝ้าย ซึ่งมักจะปลูกในสหรัฐอเมริกา สำหรับเมล็ดน้ำมัน ถ้าเป็นพืชที่สามารถฆ่าศัตรูพืชเกษตรกรไม่ต้องฉีดบ่อยๆ เพื่อกำจัดแมลง ตัวอย่างของพืช คือ ต้านศัตรูพืชข้าวโพด ซึ่งคล้ายกับข้าวโพด มีแบคทีเรียในดินที่ผลิตสารพิษฆ่าแมลง แต่มันไม่เป็นอันตรายกับคน ใส่ยีนเข้าไปในพืช แบคทีเรีย ข้าวโพดทำให้พวกเขาผลิตพิษของตัวเองซึ่งฆ่าแมลงที่กินพวกเขานี้เป็นดีต่อสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยลดต้องพ่นสาขาด้วยยาฆ่าแมลงและปุ๋ย
พืชดัดแปลงพันธุกรรมอาจทำให้อาหารมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นโดยการเพิ่มยีนผลิตวิตามินที่ร่างกายต้องการเพื่อสุขภาพและการเจริญเติบโต ตัวอย่างเช่นชนิดของข้าว เรียกว่า ข้าวโกลเด้นได้รับการดัดแปลงทางพันธุกรรมเพื่อประกอบด้วยวิตามิน A