A. The Domain ModelThe domain model

A. The Domain Model
The domain model contains all the expert knowledge of a particular domain that needs to be taught by the system [2][11]. It details different concepts of the learning domain, their hierarchy, mutual interconnection, and how they relate to educational resources to be delivered [16][17]. Broadly speaking, there are three main ways how domain models are conceptualized [16]: the set/vector model, the hierarchy model and the network model. The most popular and widely used type of domain model is the network model. In this model, the concepts are arranged into a network and are interconnected by different types of links. The most common type of links are, amongst others, prerequisite links, “is-a” or “part-of” links, and remedial links [16]. Links in both hierarchy and network models are very useful in for improving the accuracy of the learner model. For example, in case the learner does not possess knowledge related to a certain concept (e.g., formation of the Simple Past Tense), the links help in providing the most likely remedial concepts (e.g., irregular verb forms). Conversely, if the learner possesses knowledge related to a certain concept (e.g., formation of the first conditional), the links help in identifying other concepts that the learner is likely to know (e.g., the Simple Present Tense).

B. The Learner Model
In order to recognize individual learners’ needs successfully and take appropriate pedagogical action, a piece of software needs to be able to track what learners do with it while learning a language, i.e., how they behave during usage [18][19]. Such monitoring entails the creation and constant updating of a student model which gathers all the necessary data from the learner, be it the learning path, correctness of answers to questions, time taken to offer a solution, or the overall success in solving a task [2][14][19][20]. Learner models may contain other relevant information about the learner as well, such as their previous level of linguistic knowledge, learning style preference, cognitive style, strategic competence, goals or interests, to name just a few [2][21]. Typically, the information in the model should be enough to differentiate between learners who are using the system on the basis of their knowledge, task performance, overall proficiency, goals or background, and take appropriate action to personalize their learning experience [16][22]. Hence, the main goal of a learner model is to support the process of making assumptions about the learner and to support
pedagogical decision-making concerning, e.g., the feedback to be delivered back to the learner or the choice of appropriate follow-up activities, as defined in the instructional model [23]. The two broadly recognized and used approaches to student modeling are stereotype modeling and feature-based modeling [16].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ก.รูปแบบโดเมนรุ่นโดเมนประกอบด้วยความเชี่ยวชาญทั้งหมดของโดเมนเฉพาะที่ต้องได้รับการสอน โดยระบบ [2] [11] ให้รายละเอียดแตกต่างกันแนวคิดของโดเรียน ลำดับชั้น เชื่อมต่อซึ่งกันและกัน และวิธีที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรทางการศึกษาจะจัดส่ง [16] [17] พูดอย่างกว้าง ๆ มีวิธีหลักสามวิธีรูปแบบโดเมนจะอนู่ [16]: แบบชุด/เวกเตอร์ แบบจำลองลำดับชั้น และแบบเครือข่าย นิยมมากที่สุด และใช้กันแพร่หลายชนิดของรูปแบบโดเมนเป็นแบบเครือข่าย ในรุ่นนี้ แนวคิดออกเป็นเครือข่าย และเชื่อมโยงกัน โดยชนิดของการเชื่อมโยง ชนิดทั่วไปของการเชื่อมโยงมี ผู้นำ เชื่อมโยงข้อกำหนดเบื้องต้น "จะเป็น" หรือ "เป็นส่วนหนึ่งของ" เชื่อมโยง และแก้ไขลิงค์ [16] เชื่อมโยงในรูปแบบลำดับชั้นและเครือข่ายมีประโยชน์มากในการปรับปรุงความถูกต้องของรูปแบบผู้เรียน ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ผู้เรียนไม่มีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ (เช่น การก่อการในรูปอดีตกาล) แนวคิดบางอย่าง ลิงค์ช่วยในการนำเสนอแนวคิดแก้ไขมากที่สุด (เช่น รูปแบบคำกริยาที่ผิดปกติ) ถ้าผู้เรียนมีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ (เช่น ก่อของเงื่อนไขแรก) แนวคิดบางอย่าง การเชื่อมโยงช่วยในการระบุแนวคิดที่ผู้เรียนมีโอกาสที่จะรู้ (เช่น ง่ายปัจจุบันกาล)ข.ผู้เรียนแบบเพื่อรับรู้ความต้องการของนักเรียนรายบุคคลเรียบร้อยแล้ว และดำเนินการที่เหมาะสมสอน ชิ้นส่วนของซอฟต์แวร์ต้องสามารถติดตามผู้เรียนทำอะไรกับมันในขณะที่การเรียนภาษา เช่น วิธีที่ทำงานในระหว่างการใช้งาน [18] [19] ตรวจสอบดังกล่าว entails การสร้าง และคงปรับปรุงแบบจำลองของนักเรียนซึ่งรวบรวมข้อมูลจำเป็นจากผู้เรียน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เส้นทาง ความถูกต้องของคำตอบคำถาม เวลาที่ถ่ายได้เสนอวิธีการแก้ปัญหา หรือความสำเร็จในการแก้งาน [2] [14] [19] [20] รูปแบบผู้เรียนอาจประกอบด้วยข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผู้เรียนเช่นกัน เช่นก่อนหน้านี้ระดับของความรู้ทางภาษา การเรียนรู้การตั้งค่ารูปแบบ ลักษณะองค์ความรู้ ความสามารถเชิงกลยุทธ์ เป้าหมาย หรือความ สนใจ เพื่อชื่อเพียงไม่กี่ [2] [21] โดยทั่วไป ข้อมูลในรูปแบบควรเพียงพอที่จะแยกความแตกต่างระหว่างนักเรียนที่ใช้ระบบบนพื้นฐานของความรู้ งานประสิทธิภาพ รวมชำนาญ เป้าหมาย หรือพื้นหลัง และดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปรับแต่งประสบการณ์การเรียนรู้ของพวกเขา [16] [22] ด้วยเหตุนี้ เป้าหมายหลักของรูปแบบผู้เรียนเป็น การสนับสนุนกระบวนการสร้างสมมติฐานเกี่ยวกับผู้เรียน และ การสนับสนุน ตัดสินใจสอนเกี่ยวกับ เช่น ข้อเสนอแนะในการจัดส่งกลับไปยังผู้เรียนหรือกิจกรรมการติดตามผลที่เหมาะสม การเลือกตามที่กำหนดไว้ในรูปแบบการสอน [23] สองรู้จักอย่างกว้างขวาง และใช้วิธีให้นักเรียนสร้างแบบจำลองเป็นโมเดลตายตัวและคุณลักษณะการสร้างโมเดล [16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

A. โดเมนรุ่น
รุ่นโดเมนที่มีทุกความรู้จากผู้เชี่ยวชาญของโดเมนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเรียนการสอนโดยระบบ [2] [11] รายละเอียดมันแนวคิดที่แตกต่างของโดเมนการเรียนรู้ลำดับชั้นของพวกเขาเชื่อมต่อโครงข่ายร่วมกันและวิธีการที่พวกเขาเกี่ยวข้องกับทรัพยากรทางการศึกษาที่จะส่งมอบ [16] [17] พูดกว้างมีสามวิธีหลักในรูปแบบวิธีการแนวความคิดโดเมน [16]: รุ่น SET / เวกเตอร์รูปแบบลำดับชั้นและรูปแบบเครือข่าย ที่นิยมมากที่สุดและใช้กันอย่างแพร่หลายประเภทของรูปแบบโดเมนเป็นรูปแบบเครือข่าย ในรูปแบบนี้แนวคิดที่ถูกจัดให้เป็นเครือข่ายและมีการเชื่อมต่อกันตามประเภทที่แตกต่างกันของการเชื่อมโยง ชนิดที่พบมากที่สุดของการเชื่อมโยงเป็นหมู่คนเชื่อมโยงสิ่งที่จำเป็น "เป็น-A" หรือ "เป็นส่วนหนึ่งของ" การเชื่อมโยงและการเชื่อมโยงการแก้ไข [16] การเชื่อมโยงทั้งในลำดับชั้นและเครือข่ายรุ่นที่มีประโยชน์มากในการปรับปรุงความถูกต้องของรูปแบบการเรียนที่ ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่ผู้เรียนไม่ได้มีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับแนวความคิดบางอย่าง (เช่นการก่อตัวของอดีตง่าย Tense) เชื่อมโยงไปช่วยในการให้แนวคิดการแก้ไขได้มากที่สุด (เช่นรูปแบบคำกริยา) ตรงกันข้ามถ้าผู้เรียนมีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับแนวความคิดบางอย่าง (เช่นการก่อตัวของแรกเงื่อนไข) เชื่อมโยงไปช่วยในการระบุแนวคิดอื่น ๆ ที่ผู้เรียนมีโอกาสที่จะรู้ (เช่นง่ายปัจจุบันกาล). บี ผู้เรียนรุ่นเพื่อให้รู้จักความต้องการของผู้เรียนแต่ละคนประสบความสำเร็จและดำเนินการเรียนการสอนที่เหมาะสมชิ้นส่วนของซอฟต์แวร์จะต้องสามารถที่จะติดตามสิ่งที่ผู้เรียนจะทำอย่างไรกับมันในขณะที่การเรียนรู้ภาษาคือวิธีที่พวกเขาปฏิบัติตนระหว่างการใช้งาน [18] [19 ] การตรวจสอบดังกล่าวส่งผลให้การสร้างและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของรุ่นนักเรียนซึ่งรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นจากผู้เรียนไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการเรียนรู้ที่ถูกต้องของคำตอบสำหรับคำถามเวลาดำเนินการที่จะนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาหรือความสำเร็จโดยรวมในการแก้งาน [ 2] [14] [19] [20] รูปแบบการเรียนรู้อาจมีข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเรียนได้เป็นอย่างดีเช่นระดับก่อนหน้านี้ของพวกเขาจากความรู้ทางภาษา, การเรียนรู้การตั้งค่ารูปแบบรูปแบบองค์ความรู้ความสามารถเชิงกลยุทธ์เป้าหมายหรือผลประโยชน์เพื่อชื่อเพียงไม่กี่ [2] [21] โดยปกติข้อมูลในรูปแบบที่ควรจะเป็นมากพอที่จะแยกความแตกต่างระหว่างผู้เรียนที่กำลังใช้ระบบบนพื้นฐานของความรู้ของพวกเขาปฏิบัติงานความสามารถโดยรวมของเป้าหมายหรือพื้นหลังและดำเนินการที่เหมาะสมในการปรับแต่งประสบการณ์การเรียนรู้ของพวกเขา [16] [22 ] ดังนั้นเป้าหมายหลักของรูปแบบการเรียนคือการสนับสนุนกระบวนการของการทำสมมติฐานเกี่ยวกับผู้เรียนและให้การสนับสนุนการเรียนการสอนการตัดสินใจเกี่ยวกับการเช่นข้อเสนอแนะที่จะส่งมอบกลับไปเรียนหรือทางเลือกของกิจกรรมติดตามที่เหมาะสม ตามที่กำหนดไว้ในรูปแบบการเรียนการสอน [23] ทั้งสองได้รับการยอมรับในวงกว้างและใช้วิธีการสร้างแบบจำลองของนักเรียนมีการสร้างแบบจำลองต้นแบบและการสร้างแบบจำลองคุณสมบัติตาม [16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . โดเมนแบบโดเมนแบบมีทั้งความรู้จากผู้เชี่ยวชาญของโดเมนที่เฉพาะเจาะจงว่าต้องสอนโดยระบบ [ 2 ] [ 11 ] มันมีรายละเอียดแนวคิดต่าง ๆของโดเมน การเรียนรู้ลำดับขั้น , เชื่อมต่อโครงข่ายร่วมกันและวิธีที่พวกเขาเกี่ยวข้องกับทรัพยากรทางการศึกษาที่จะส่งมอบ [ 16 ] [ 17 ] กว้างพูดมีอยู่ 3 หลักวิธีการโดเมนโมเดลเป็น conceptualized [ 16 ] : ชุดเวกเตอร์รูปแบบลำดับชั้นรูปแบบและรูปแบบเครือข่าย ที่นิยมมากที่สุดและใช้กันอย่างแพร่หลายประเภทของโดเมนโมเดลเป็นรูปแบบเครือข่าย ในรุ่นนี้ มีแนวคิดจัดเป็นเครือข่าย และจะเชื่อมต่อกันโดยชนิดของการเชื่อมโยง ชนิดที่พบมากที่สุดของการเชื่อมโยง , ท่ามกลางคนอื่น ๆ , มีการเชื่อมโยง " is-a " หรือ " ของ " การเชื่อมโยงและแก้ไขการเชื่อมโยง [ 16 ] การเชื่อมโยงทั้งในลำดับชั้นและรูปแบบเครือข่ายจะมีประโยชน์มากในการปรับปรุงความถูกต้องของการเรียนรู้แบบ ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ผู้เรียนไม่ได้มีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดบางอย่าง ( เช่น การก่อตัวของกาลที่ผ่านมา ) , การเชื่อมโยงช่วยเสริมแนวคิดในการให้มากที่สุด ( เช่น กริยาพิเศษรูปแบบ ) ในทางกลับกัน ถ้าผู้เรียนมีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดบางอย่าง ( เช่น การก่อตัวของเงื่อนไขแรก ) , การเชื่อมโยงที่ช่วยในการระบุแนวคิดอื่น ๆ ที่ผู้เรียนมีโอกาสที่จะรู้ ( เช่น กาลปัจจุบัน )ข. ผู้เรียนรุ่นเพื่อรับรู้ความต้องการของผู้เรียนเป็นรายบุคคล และการกระทำที่เหมาะสมเรียบร้อยแล้วใช้ ชิ้นส่วนของซอฟต์แวร์จะต้องสามารถที่จะติดตามสิ่งที่ผู้เรียนทำขณะเรียนภาษา เช่นวิธีที่พวกเขาประพฤติในระหว่างการใช้งาน [ 18 ] [ 19 ] การตรวจสอบดังกล่าว ใช้ การสร้างและการอัพเดทเป็นนักเรียนต้นแบบ ซึ่งรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นจากผู้เรียน ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการเรียนรู้ ความถูกต้องของคำตอบ เวลาที่ถ่ายเสนอวิธีแก้ปัญหา หรือความสำเร็จในการรวมงาน [ 2 ] [ 14 ] [ 19 ] [ 20 ] รุ่นผู้เรียนอาจประกอบด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆเกี่ยวกับผู้เรียนเป็นอย่างดี เช่น ระดับก่อนหน้านี้ของพวกเขา ความรู้ทางภาษา เรียนรู้การตั้งค่าแบบความสามารถเชิงกลยุทธ์ การคิดเป้าหมายหรือผลประโยชน์เพื่อชื่อเพียงไม่กี่ [ 2 ] [ 21 ] โดยปกติแล้ว ข้อมูลในรูปแบบควรจะเพียงพอที่จะแยกแยะระหว่างผู้ที่ใช้ระบบบนพื้นฐานของความรู้ ความสามารถโดยรวมการปฏิบัติงานเป้าหมายหรือพื้นหลังและดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปรับแต่งของพวกเขาประสบการณ์การเรียนรู้ [ 16 ] [ 22 ] ดังนั้น เป้าหมายหลักของการเรียนรู้แบบเพื่อสนับสนุนกระบวนการของการตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับผู้เรียนและสนับสนุนการตัดสินใจเกี่ยวกับการสอน เช่น ข้อมูลจะถูกส่งกลับไปยังผู้เรียน หรือทางเลือกของการจัดกิจกรรมที่เหมาะสม ตามที่กำหนดไว้ในชุดการสอนแบบ [ 23 ] สอง การยอมรับในวงกว้าง และใช้แนวทางแบบตายตัวและแบบนักเรียนเป็นนางแบบในสาร [ 16 ]