Biomerieux, France) and the Ribopri

Biomerieux, France) and the Riboprint method (DuPont Qualicon,
Wilmington, DE) and the strains were identical in both tests
systems. Thus, changes in the adhesion capacity apparently
occurred during industrial production.
If adhesion is modified during industrial processes, other
probiotic traits may also be altered. Adhesion properties,
including adhesion to intestinal cells (eg, Caco-2) and human
intestinal mucus preparations, should be monitored carefully.
These control measurements form the basis of human intestinal
colonization, health effects, and future monitoring of production
procedures.
Viability and properties during processing and storage
Consumption of probiotics may aid lactose digestion, control
intestinal infections, and balance the intestinal mucosal barrier.
However, most such studies were conducted with viable bacterial
preparations, and the definition of a probiotic includes viability
as an important factor (1, 18). The viability of several strains
in fermented milks is dependent on both the production method
and the strain. In one study, 5 strains of L. acidophilus and Lactobacillus
GG (ATCC 53103) were tested to determine the effect
of refrigeration on the viability of the strains in cultured buttermilk
and yogurt (19). In cultured buttermilk, 3 of the strains
showed no significant loss of viability during storage, but 2 strains
had significantly decreased viability. Results were similar in
yogurt. It is possible that cultures producing organic acids,
diacetyl, or other inhibitory compounds in the fermented milk
may influence the survival of some probiotic cultures. The baceriocins
produced by different dairy cultures were reviewed by
Ouwehand and Salminen (20). L. casei GG showed no loss of
viability during storage of any of the cultured products. Thus, the
results indicate that the production method for fermented milk
needs to be carefully evaluated to offer consumers the right
amount of viable cultures to obtain the reported health effects.
Studies of a defined probiotic preparation for the prevention
of antibiotic-associated diarrhea produced conflicting results. In
2 studies, Clements et al (21) reported that 1 of 2 batches of a
lyophilized lactobacillus preparation reduced the volume and
duration of neomycin-associated diarrhea. A second batch had
no effect, although the question of differences in viability
between the preparations may be raised. It is important to take
viability into account because many strains exert effects in the
nonviable form as well (21, 22). Further studies on viability and
health effects are clearly needed.
CONCLUSIONS
It is important to ensure that the specific properties of a probiotic
used originally as selection criteria are also targets for
quality assurance. This is an important prerequisite for any
health claims and should be continuously controlled if the health
claims are approved for use. Thus, functional food regulations
should take into account strain properties and their stability during
industrial processing and use. On the other hand, not all
selection criteria are always necessary for in vivo functional
effects. Each important strain property and its influence on
health should be assessed in relation to the clinical effects
observed in various studies. In vitro test protocols can be readily
adopted to examine the maintenance of a strain’s ability to tolerate
acidic conditions, survive and grow in the presence of bile,
and metabolize selective substrates.
Adhesion characterization may be an important quality-control
method for assessing the surface structure of probiotic bacteria
and related gut barrier effects. Adhesion has been related to
immunogenic effects, shortening the duration of diarrhea, and
other health effects. If adhesion is modified during industrial
processes, probiotic effects may consequently also be altered.
Adhesion properties and their dependence on processes and
process changes should be monitored. Suitable models include
adhesion to intestinal cells, such as Caco-2 cells, and binding to
human intestinal mucus preparations. At least 2 models should
be used for routine quality control of adhesion of probiotic
microbes because this would

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Biomerieux, ฝรั่งเศส) และวิธีการ Riboprint (ดูปองท์ Qualicon,
Wilmington, DE)
และสายพันธุ์เหมือนกันทั้งในการทดสอบระบบ
ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงในความสามารถในการยึดเกาะที่เห็นได้ชัดว่าเกิดขึ้นในช่วงการผลิตภาคอุตสาหกรรม.
ถ้ายึดเกาะที่มีการแก้ไขในระหว่างกระบวนการทางอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ลักษณะโปรไบโอติกนอกจากนี้ยังอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง คุณสมบัติยึดเกาะรวมทั้งการยึดเกาะกับเซลล์ในลำไส้ (เช่น Caco-2) และมนุษย์เตรียมเมือกในลำไส้ควรได้รับการตรวจสอบอย่างรอบคอบ. วัดการควบคุมเหล่านี้เป็นพื้นฐานของลำไส้มนุษย์ตั้งรกรากผลกระทบต่อสุขภาพและการตรวจสอบในอนาคตของการผลิตขั้นตอน. มีชีวิตและคุณสมบัติ ระหว่างการประมวลผลและการเก็บรักษาการบริโภคของโปรไบโอติกอาจช่วยย่อยอาหารแลคโตส, การควบคุมการติดเชื้อในลำไส้และสมดุลอุปสรรคเยื่อเมือกในลำไส้. อย่างไรก็ตามการศึกษาดังกล่าวส่วนใหญ่ดำเนินการกับแบคทีเรียทำงานได้เตรียมการและความหมายของโปรไบโอติกรวมถึงการมีชีวิตเป็นปัจจัยสำคัญ(1, 18) ศักยภาพของสายพันธุ์หลายในนมหมักจะขึ้นอยู่กับทั้งสองวิธีการผลิตและความเครียด ในการศึกษา 5 สายพันธุ์ของ L. acidophilus และแลคโตบาซิลลัสGG (ATCC 53103) ได้มีการทดสอบเพื่อตรวจสอบผลของการทำความเย็นในศักยภาพของสายพันธุ์ที่เพาะเลี้ยงในบัตเตอร์ที่และโยเกิร์ต(19) บัตเตอร์ในการเพาะเลี้ยงที่ 3 ของสายพันธุ์พบว่าไม่มีการสูญเสียที่สำคัญของการมีชีวิตระหว่างการเก็บรักษาสายพันธุ์ที่2 แต่ได้ลดลงอย่างมากมีชีวิต ผลการวิจัยพบที่คล้ายกันในโยเกิร์ต เป็นไปได้ว่าวัฒนธรรมการผลิตกรดอินทรีย์diacetyl หรือสารยับยั้งอื่น ๆ ในนมหมักอาจมีผลต่อความอยู่รอดของบางวัฒนธรรมโปรไบโอติก baceriocins ผลิตโดยวัฒนธรรมที่แตกต่างกันนมสอบทานโดยOuwehand และ Salminen (20) L. casei GG แสดงให้เห็นว่าไม่มีการสูญเสียของการมีชีวิตระหว่างการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ใดๆ ของเพาะเลี้ยง ดังนั้นผลการศึกษาพบว่าวิธีการผลิตสำหรับนมหมักความต้องการที่จะได้รับการประเมินอย่างระมัดระวังเพื่อให้ผู้บริโภคที่ถูกต้องจำนวนเงินของวัฒนธรรมที่มีศักยภาพที่จะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพรายงาน. การศึกษาที่กำหนดไว้เตรียมโปรไบโอติกในการป้องกันโรคอุจจาระร่วงยาปฏิชีวนะที่เกี่ยวข้องผลลัพธ์ที่ขัดแย้งกัน. ใน2 การศึกษา, เคลเมนท์ et al, (21) รายงานว่า 1 ใน 2 ของสำหรับกระบวนการเตรียมแลคโตบาซิลลัสแห้งลดปริมาณและระยะเวลาของอาการท้องเสียneomycin ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มที่สองมีไม่มีผลกระทบแม้ว่าคำถามของความแตกต่างในความมีชีวิตระหว่างการเตรียมการอาจได้รับการเลี้ยงดู มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีชีวิตเข้าบัญชีเนื่องจากสายพันธุ์หลายออกแรงผลในรูปแบบสูญสิ้นเช่นกัน(21, 22) ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมีชีวิตและผลกระทบต่อสุขภาพที่มีความจำเป็นอย่างชัดเจน. สรุปมันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสมบัติเฉพาะของโปรไบโอติกที่นำมาใช้เป็นเกณฑ์การคัดเลือกนอกจากนี้ยังมีเป้าหมายสำหรับการประกันคุณภาพ นี้เป็นสิ่งสำคัญจำเป็นสำหรับการใด ๆกล่าวอ้างทางสุขภาพและควรมีการควบคุมอย่างต่อเนื่องถ้าสุขภาพเรียกร้องได้รับการอนุมัติสำหรับการใช้งาน ดังนั้นกฎระเบียบอาหารทำงานควรคำนึงถึงคุณสมบัติของสายพันธุ์บัญชีและความมั่นคงของพวกเขาในระหว่างการประมวลผลและการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม ในทางกลับกันไม่ได้ทุกเกณฑ์การคัดเลือกอยู่เสมอสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำงานในร่างกายผลกระทบ สถานที่ให้บริการในแต่ละสายพันธุ์ที่มีความสำคัญและอิทธิพลที่มีต่อสุขภาพควรมีการประเมินในส่วนที่เกี่ยวกับผลกระทบทางคลินิกพบว่าในการศึกษาต่างๆ ในหลอดทดลองโปรโตคอลการทดสอบสามารถหาได้ง่ายนำมาใช้ในการตรวจสอบการมีความสามารถในสายพันธุ์ที่จะทนต่อสภาพที่เป็นกรดอยู่รอดและเจริญเติบโตได้ในการปรากฏตัวของน้ำดีและเผาผลาญพื้นผิวเลือก. ลักษณะการยึดติดอาจจะมีการควบคุมคุณภาพที่สำคัญวิธีการในการประเมินโครงสร้างพื้นผิวของเชื้อแบคทีเรียโปรไบโอติกและผลกระทบสิ่งกีดขวางทางเดินอาหารที่เกี่ยวข้อง การยึดติดได้รับการที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบภูมิคุ้มกัน, การลดระยะเวลาของโรคอุจจาระร่วงและผลกระทบต่อสุขภาพอื่นๆ หากมีการปรับเปลี่ยนการยึดเกาะระหว่างอุตสาหกรรมกระบวนการผลกระทบโปรไบโอติกจึงอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง. คุณสมบัติการยึดติดและการพึ่งพาของพวกเขาในกระบวนการและการเปลี่ยนแปลงกระบวนการควรจะตรวจสอบ รูปแบบที่เหมาะสมรวมถึงการยึดเกาะกับเซลล์ในลำไส้เช่น Caco-2 เซลล์และผูกพันกับมนุษย์เตรียมเมือกในลำไส้ อย่างน้อย 2 รุ่นควรจะนำมาใช้สำหรับการควบคุมคุณภาพตามปกติของการยึดเกาะของโปรไบโอติกจุลินทรีย์เพราะจะ