What would constitute a suitable le

What would constitute a suitable level of carbon storage in natural habitats remains an open question. If we arbitrarily assume we need to protect 75–90% of the unprotected carbon stock, this would require protection of an additional 7–14% of land area if the areas with the highest carbon density were selected. Although these are crude estimates they nevertheless illustrate the magnitude of the additional area required to attain an ambitious target of carbon storage in natural terrestrial habitats. The conversion of unprotected ecosystems with high carbon storage would exacerbate CO2 emissions, and therefore efforts to mitigate climate change would need to ensure higher carbon storage. For example, adding the extra 14.3% of land required to reach the target of storing 90% of biomass carbon in natural habitats would secure c. 246 Pg C. In comparison, CO2 emissions from fossil fuel in 2009 constituted 30.8 Pg CO2 (the equivalent of 8.4 ± SE 0.5 Pg C; Friedlingstein et al., 2010). If all the carbon stored in the extra c. 14.3% of important areas for carbon were emitted as a result of land-use change, the resulting CO2 emissions would be c. 29 times the global fossil fuel CO2 emissions in 2009 (246/8.4529). We focused on living biomass carbon (and omitted soil organic carbon and dead biomass carbon) as there is much more uncertainty in the change of these carbon pools following land-use change. In general a smaller portion of soil carbon and dead biomass carbon is emitted following land-use change such as deforestation (Brown, 2002), but degradation of peat can release considerable amounts of CO2 (van der Werf et al., 2009). Although other data and methods may reveal other important areas for carbon storage, the magnitude of the extra area needed to reach high targets for carbon storage seems less likely to change.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่จะเป็นระดับที่เหมาะสมของการจัดเก็บคาร์บอนในแหล่งที่อยู่อาศัยยังคงเป็นคำถามเปิด ถ้าเราโดยพลการถือว่าเราจำเป็นต้องปกป้อง 75-90% ของหุ้นคาร์บอนที่ไม่มีการป้องกันนี้จะต้องมีการคุ้มครองเพิ่มอีก 7-14% ของพื้นที่ถ้าพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของคาร์บอนที่สูงที่สุดได้รับการคัดเลือก แม้ว่าเหล่านี้ประมาณการน้ำมันดิบ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มพื้นที่ที่จำเป็นที่จะบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถในการจัดเก็บคาร์บอนในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติบนบก การเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศที่ไม่มีการป้องกันกับการจัดเก็บคาร์บอนสูงจะทำให้รุนแรงก​​ารปล่อย CO2 และดังนั้นความพยายามที่จะลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะต้องให้แน่ใจว่าการจัดเก็บคาร์บอนสูง ตัวอย่างเช่นการเพิ่มพิเศษ 14.3% ของที่ดินที่จำเป็นในการบรรลุเป้าหมายของการจัดเก็บ 90% ของคาร์บอนชีวมวลในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติจะปลอดภัย C 246 Pg ซีในการเปรียบเทียบการปล่อย CO2 จากเชื้อเพลิงฟอสซิลในปี 2009 ประกอบด้วย 30.8 Pg CO2 (เทียบเท่า 8.4 ± SE 0.5 Pg ซี. Friedlingstein et al, 2010) หากทุกคาร์บอนที่เก็บไว้ในซีเอ็กซ์ตร้า 14.3% ของพื้นที่ที่สำคัญสำหรับคาร์บอนที่ถูกปล่อยออกมาเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน, การปล่อย CO2 ที่เกิดขึ้นจะเป็น C 29 ครั้งการปล่อย CO2 เชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลกในปี 2009 (246 / 8.4529) เรามุ่งเน้นไปที่การใช้ชีวิตคาร์บอนชีวมวล (และละเว้นดินคาร์บอนและคาร์บอนชีวมวลตายอินทรีย์) ในขณะที่มีความไม่แน่นอนมากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงของสระว่ายน้ำคาร์บอนเหล่านี้ต่อไปเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน โดยทั่วไปเป็นส่วนที่เล็กกว่าของคาร์บอนในดินและคาร์บอนชีวมวลที่ตายแล้วถูกปล่อยออกมาหลังการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเช่นตัดไม้ทำลายป่า (บราวน์, 2002) แต่การย่อยสลายของพีทสามารถปล่อยจำนวนมากของ CO2 (แวนเดอร์ Werf et al., 2009) แม้ว่าข้อมูลอื่น ๆ และวิธีอาจเปิดเผยพื้นที่อื่น ๆ ที่สำคัญสำหรับการจัดเก็บคาร์บอนขนาดของพื้นที่พิเศษที่จำเป็นในการเข้าถึงเป้าหมายสูงสำหรับการจัดเก็บคาร์บอนดูเหมือนว่าโอกาสน้อยที่จะเปลี่ยนแปลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งที่จะเป็นระดับที่เหมาะสมของคาร์บอนที่เก็บในแหล่งที่อยู่อาศัยยังคงเป็นคำถามที่เปิดอยู่ ถ้าเราถืออำนาจเราต้องปกป้อง 75 - 90% ของหุ้นคาร์บอนไม่มีการป้องกัน นี้จะต้องมีการคุ้มครองเพิ่มอีก 7 – 14 % ของพื้นที่ ถ้าพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของคาร์บอนสูงสุดได้รับเลือก ถึงแม้ว่าเหล่านี้เป็นประมาณการหยาบพวกเขายังคงแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพื้นที่ที่ต้องใช้เพิ่มเติมเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ทะเยอทะยานของคาร์บอนกระเป๋าพื้นที่บกธรรมชาติ แปลงที่ไม่มีการป้องกันระบบนิเวศกับการจัดเก็บคาร์บอนสูงช่วยเพิ่มการปล่อย CO2 และดังนั้นความพยายามที่จะบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะต้องให้แน่ใจว่ากระเป๋าคาร์บอนสูง ตัวอย่างเช่นการเพิ่มเพิ่มขึ้น 14.3% ของที่ดินต้องถึงเป้าหมายของการจัดเก็บ 90% ของชีวมวลคาร์บอนในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติจะปลอดภัย . . แต่ PG C ในการเปรียบเทียบการปล่อย CO2 จากเชื้อเพลิงฟอสซิลใน 2009 constituted 30.8 PG CO2 ( เทียบเท่ากับ 8.4 ±เซ 0.5 pg C ; friedlingstein et al . , 2010 ) ถ้าทั้งหมดถูกเก็บไว้ใน C คาร์บอนเสริมต่อของพื้นที่ที่สำคัญสำหรับคาร์บอนถูกปล่อยออกมาเป็นผลของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการปล่อย CO2 จะเป็น C . 29 ครั้งเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลกปล่อยก๊าซ CO2 ใน 2009 ( 246 / 8.4529 ) เราเน้นการใช้ชีวิตชีวมวลคาร์บอน ( และละเว้นดินอินทรีย์คาร์บอนตายชีวมวลคาร์บอน ) เนื่องจากมีความไม่แน่นอนมากขึ้นในการเปลี่ยนประเภทคาร์บอนเหล่านี้ตามการเปลี่ยนแปลง โดยทั่วไปส่วนขนาดเล็กของดินและตายชีวมวลคาร์บอนออกมาตามการเปลี่ยนแปลง เช่น การตัดไม้ทำลายป่า ( สีน้ำตาล , 2002 ) แต่การย่อยสลายของพีทสามารถปล่อยจํานวนมากของ CO2 ( แวนเดอร์กราฟ et al . , 2009 ) แม้ว่าข้อมูลอื่น ๆและวิธีการที่อาจเปิดเผยพื้นที่สำคัญอื่น ๆสำหรับคาร์บอนกระเป๋า , ขนาดของพื้นที่พิเศษที่จำเป็นถึงเป้าหมายสูงสำหรับเก็บคาร์บอนดูเหมือนว่าโอกาสน้อยที่จะเปลี่ยน