Despite this widespread praise, Mot

Despite this widespread praise, Mother Teresa's life and work have not gone without criticism. In particular, she has drawn criticism for her vocal endorsement of some of the Catholic Church's more controversial doctrines, such as opposition to contraception and abortion. "I feel the greatest destroyer of peace today is abortion," Mother Teresa said in her 1979 Nobel lecture.

In 1995, she publicly advocated a "no" vote in the Irish referendum to end the country's constitutional ban on divorce and remarriage. The most scathing criticism of Mother Teresa can be found in Christopher Hitchens' book The Missionary Position: Mother Teresa in Theory and Practice, in which Hitchens argued that Mother Teresa glorified poverty for her own ends and provided a justification for the preservation of institutions and beliefs that sustained widespread poverty.

Death and Legacy

After several years of deteriorating health in which she suffered from heart, lung and kidney problems, Mother Teresa died on September 5, 1997 at the age of 87. Since her death, Mother Teresa has remained in the public spotlight. In particular, the publication of her private correspondence in 2003 caused a wholesale re-evaluation of her life by revealing the crisis of faith she suffered for most of the last 50 years of her life.

In one despairing letter to a confidant, she wrote, "Where is my Faith—even deep down right in there is nothing, but emptiness & darkness—My God—how painful is this unknown pain—I have no Faith—I dare not utter the words & thoughts that crowd in my heart -- & make me suffer untold agony." While such revelations are shocking considering her public image of perfect faith, they have also made Mother Teresa a more relatable and human figure to all those who experience doubt in their beliefs.

For her unwavering commitment to aiding those most in need, Mother Teresa stands out as one of the greatest humanitarians of the 20th century. She combined profound empathy and a fervent commitment to her cause with incredible organizational and managerial skills that allowed her to develop a vast and effective international organization of missionaries to help impoverished citizens all across the globe.

However, despite the enormous scale of her charitable activities and the millions of lives she touched, to her dying day she held only the most humble conception of her own achievements. Summing up her life in characteristically self-effacing fashion, Mother Teresa said, "By blood, I am Albanian. By citizenship, an Indian. By faith, I am a Catholic nun. As to my calling, I belong to the world. As to my heart, I belong entirely to the Heart of Jesus."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้สรรเสริญนี้แพร่หลาย ชีวิตและการทำงานของแม่ชีเทเรซายังไม่ได้ไปโดยไม่ต้องวิจารณ์ โดยเฉพาะ เธอได้วาดวิจารณ์สำหรับการสลักหลังของ vocal ของโบสถ์คาทอลิกขึ้นแย้งอยู่ เช่นต่อต้านการคุมกำเนิดและทำแท้ง "ฉันรู้สึกพิฆาตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวันนี้คือ ทำแท้ง แม่ชีเทเรซากล่าวในการบรรยายของเธอโนเบล 1979ใน 1995 เธอเผย advocated โหวต "ไม่" ในการลงประชามติไอริชจะสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญห้ามหย่าและแต่งงานใหม่ วิจารณ์แม่ชีเทเรซาที่สุด scathing สามารถพบได้ในหนังสือของคริสโตเฟอร์ Hitchens มิชชันนารีตำแหน่ง: แม่ชีเทเรซาในทฤษฎีและปฏิบัติ ซึ่ง Hitchens โต้เถียงว่า แม่ชีเทเรซามิความยากจนการสิ้นสุดของตนเอง และให้เหตุผลเพื่อการอนุรักษ์ของสถาบันและความเชื่อที่ยั่งยืนความยากจนได้ตายและมรดกหลังจากหลายปีของกำลังทรุดลงสุขภาพที่เธอรับความเดือดร้อนจากหัวใจ ปอดและไตปัญหา แม่ชีเทเรซาตายบน 5 กันยายน 1997 อายุ 87 นับตั้งแต่การตายของเธอ แม่ชีเทเรซาได้ยังคงอยู่ในสาธารณ โดยเฉพาะ การเผยแพร่จดหมายส่วนตัวของเธอใน 2003 เกิดประเมินใหม่ขายส่งชีวิตของเธอ โดยเปิดเผยวิกฤตศรัทธาที่เธอรับความเดือดร้อนในส่วนใหญ่ของ 50 ปีที่ผ่านมาของชีวิตของเธอในหนึ่ง despairing จดหมายจะเป็น confidant เธอเขียน, "ซึ่งเป็นความเชื่อของฉัน — แม้ลึกลงในนั่นคืออะไร แต่ความว่างเปล่าและความมืด — พระเจ้า — เจ็บปวดว่าเป็นความเจ็บปวดนี้ไม่รู้จัก — ศรัทธาไม่ — พักไม่ส่งคำ และความคิดที่ฝูงชนในหัวใจของฉัน - และทำให้ฉันประสบทุกข์ทรมานแห่งการ" ขณะที่เปิดเผยเช่นขยันพิจารณาภาพสาธารณะเธอมั่นเหมาะ พวกเขายังได้แม่ชีเทเรซารูป relatable มากขึ้น และมนุษย์ทุกคนที่สงสัยในความเชื่อของพวกเขามีประสบการณ์การสำหรับเธอไม่เปลี่ยนใจมุ่งมั่นที่จะช่วยงานใหญ่เหล่านั้นจำเป็นต้อง แม่ชีเทเรซาโดดเด่นเป็นหนึ่งของคนยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษ 20 เธอรวมเอาใจใส่อย่างลึกซึ้งและสาเหตุของเธอมาร้อง ด้วยเหลือเชื่อองค์กร และจัดการทักษะที่ได้รับอนุญาตเพื่อพัฒนาที่กว้างขวาง และมีประสิทธิภาพองค์การระหว่างประเทศของข้าฯ เพื่อช่วยประชาชนที่ขัดสนทั้งหมดทั่วโลกอย่างไรก็ตาม แม้ มีมาตราส่วนขนาดใหญ่ของกิจกรรมการกุศลของเธอและเธอสัมผัสชีวิตคนนับล้าน วันของเธอตาย เธอจัดเฉพาะความคิดพึงพอใจมากที่สุดของความสำเร็จของตนเอง รวมชีวิตของเธอในแฟชั่น characteristically ตน effacing แม่ชีเทเรซาว่า "โดยเลือด ฉันแอลเบเนีย โดยสัญชาติ ภารต โดยความเชื่อ ฉันเป็นแม่ชี เป็นโทรศัพท์ของฉัน ฉันเป็นของโลก เป็นหัวใจของฉัน ฉันเป็นทั้งหัวใจของพระเยซู"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้จะมีการยกย่องอย่างกว้างขวางนี้ชีวิตแม่เทเรซาและการทำงานไม่ได้ไปโดยไม่ต้องวิจารณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เธอได้รับการวิจารณ์การรับรองเสียงของเธอบางส่วนของคริสตจักรคาทอลิกคำสอนที่ถกเถียงกันมากขึ้นเช่นการต่อสู้กับการคุมกำเนิดและการทำแท้ง "ฉันรู้สึกพิฆาตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความสงบในวันนี้คือการทำแท้ง" แม่เทเรซากล่าวว่าในปี 1979 เธอบรรยายโนเบลในปี 1995 เธอต่อสาธารณชนสนับสนุน "ไม่" ลงคะแนนเสียงในการลงประชามติของชาวไอริชที่จะยุติการห้ามตามรัฐธรรมนูญของประเทศเกี่ยวกับการหย่าร้างและการสมรส วิจารณ์รุนแรงที่สุดของแม่เทเรซาสามารถพบได้ในหนังสือของคริสโตเฟอร์ฮิตเชนส์ 'มิชชันนารีตำแหน่ง: แม่เทเรซาในทฤษฎีและปฏิบัติในสิ่งที่ฮิตเชนส์แย้งว่าแม่เทเรซาสรรเสริญความยากจนสำหรับการสิ้นสุดของเธอเองและให้เหตุผลเพื่อรักษาสถาบันและความเชื่อ ที่ยั่งยืนความยากจนอย่างกว้างขวางตายและมรดกหลังจากหลายปีของการมีสุขภาพที่ทวีความรุนแรงในขณะที่เธอรับความเดือดร้อนจากปัญหาหัวใจปอดและไตแม่เทเรซาเสียชีวิตเมื่อ 5 กันยายน 1997 ตอนอายุ 87 หลังจากการตายของเธอแม่เทเรซายังคงอยู่ใน ความสนใจของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตีพิมพ์จดหมายส่วนตัวของเธอในปี 2003 เกิดจากการขายส่งการประเมินในชีวิตของเธอด้วยการเปิดเผยวิกฤติศรัทธาเธอทุกข์ทรมานมากที่สุดในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาในชีวิตของเธอในจดหมายหวังหนึ่งที่จะไว้ใจเธอเขียน "อยู่ที่ไหนศรัทธายิ่งลึกลงไปสิทธิในการมีอะไร แต่ความว่างเปล่าและความมืดของฉันพระเจ้าว่าเจ็บปวดไม่เป็นที่รู้จักความเจ็บปวดนี้ฉันไม่มีศรัทธาผมไม่กล้าที่จะพูดคำพูดและความคิดที่ฝูงชนในหัวใจของฉันของฉัน - และทำให้ผมประสบความทุกข์ทรมานนับไม่ถ้วน. " ในขณะที่การเปิดเผยดังกล่าวมีความน่าตกใจพิจารณาภาพลักษณ์ของเธอที่มีความเชื่อที่สมบูรณ์แบบที่พวกเขาได้ยังทำให้แม่เทเรซาเป็นร่างมากขึ้น relatable และมนุษย์ทุกคนที่ได้สัมผัสกับข้อสงสัยในความเชื่อของพวกเขาสำหรับความมุ่งมั่นของเธอที่จะช่วยเหลือผู้ที่ต้องการมากที่สุด, แม่เทเรซายืนออก เป็นหนึ่งใน humanitarians ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20 เธอร่วมการเอาใจใส่ที่ลึกซึ้งและความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะทำให้เธอมีทักษะขององค์กรและการบริหารจัดการอย่างไม่น่าเชื่อที่ได้รับอนุญาตของเธอในการพัฒนาองค์การระหว่างประเทศที่กว้างใหญ่และมีประสิทธิภาพของมิชชันนารีที่จะช่วยให้ประชาชนที่ยากจนทั่วโลกอย่างไรก็ตามแม้จะมีขนาดมหาศาลของกิจกรรมการกุศลของเธอและ นับล้านชีวิตที่เธอสัมผัสถึงวันตายของเธอที่เธอจัดขึ้นเพียงความคิดที่อ่อนน้อมถ่อมตนมากที่สุดของความสำเร็จของเธอเอง ข้อสรุปถึงชีวิตของเธอในลักษณะแฟชั่นหลบหน้าไปเสีย, แม่เทเรซากล่าวว่า "โดยเลือดผมแอลเบเนีย. โดยสัญชาติอินเดีย. โดยความเชื่อฉันเป็นแม่ชีคาทอลิก. ในขณะที่การโทรของฉันฉันอยู่ในโลก. ในฐานะที่เป็น หัวใจของฉันที่ฉันอยู่ทั้งหมดให้กับหัวใจของพระเยซู. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้การสรรเสริญอย่างกว้างขวางนี้ แม่เทเรซา ชีวิตและงานมีไม่ไปวิจารณ์ โดยเฉพาะ ที่เธอได้วาดเธอรับรองเสียงวิจารณ์ของโบสถ์คาทอลิกแย้งมากกว่าคำสอน เช่น การต่อต้านการคุมกำเนิดและการทำแท้ง " . ฉันรู้สึกยิ่งใหญ่พิฆาตสันติวันนี้แท้ง " แม่ชีเทเรซ่าบอกว่าเธอ 1979 รางวัลโนเบลบรรยาย

ใน 1995เธอประกาศสนับสนุน " ไม่มี " ลงคะแนนในการลงประชามติไอริชที่จะสิ้นสุดของประเทศตามรัฐธรรมนูญ ห้ามหย่าและแต่งงานใหม่ วิจารณ์ที่รุนแรงที่สุดของแม่ชีเทเรซ่าสามารถพบได้ในหนังสือ ท่ามิชชันนารีคริสโตเฟอร์ฮิทเช่นส์ ' : แม่เทเรซาในทฤษฎีและการปฏิบัติที่ฮิทเช่นส์แย้งว่าแม่ชีเทเรซ่าสรรเสริญความยากจนสิ้นสุดของเธอเอง และให้เหตุผลเพื่อรักษาสถาบันและความเชื่อที่ยั่งยืนความยากจนแพร่หลาย

ความตายและมรดก

หลังจากหลายปีของสุขภาพเสื่อม ซึ่งเป็นโรคหัวใจ ปอด และไตปัญหา แม่ชีเทเรซ่า เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2540 ที่ อายุ 87 ปี ตั้งแต่เธอตายคุณแม่เทเรซาได้อยู่ในแสงไฟสาธารณะ โดยเฉพาะการประกาศของจดหมายส่วนตัวของเธอใน 2003 จากการประเมินเป็นขายส่งของชีวิตของเธอ โดยเผยวิกฤตแห่งศรัทธาเธอทนทุกข์ทรมานมากว่า 50 ปีของชีวิตของเธอ

ในสิ้นหวังจดหมายกับคนสนิท เธอเขียน " ที่เป็นศรัทธาลึกแม้อยู่ในไม่มีอะไร ,แต่ความว่างเปล่า&ความมืดพระเจ้าว่าเจ็บปวดเป็น pain-i นี้ไม่รู้จักไม่มี faith-i ไม่กล้าเอ่ยคำพูด&ความคิดที่ฝูงชนในใจของฉัน . . . &ให้ฉันทุกข์ทรมานนับไม่ถ้วนทุกข์ทรมาน . " ในขณะที่โองการดังกล่าวจะพิจารณาเธอตกตะลึงภาพสาธารณะของความเชื่อที่สมบูรณ์แบบ พวกเขายังทำให้คุณแม่เทเรซาเป็นเข้าถึงตัวละครได้มากขึ้น และมนุษย์คิดทุกคน ใครมีประสบการณ์

สงสัยในความเชื่อของพวกเขาเธอมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ใจเด็ดมากที่สุดในความต้องการ แม่ชีเทเรซ่า ยืนออกเป็นหนึ่งในผู้มีมนุษยธรรมมากที่สุดของศตวรรษที่ 20เธอรวมความรู้สึกที่ลึกซึ้งและความมุ่งมั่นที่จะทำให้เธอร้อนรนกับทักษะขององค์กรและการจัดการที่น่าทึ่งที่ได้รับอนุญาตของเธอที่จะพัฒนามาก และมีประสิทธิภาพเป็นองค์กรนานาชาติของมิชชันนารี เพื่อช่วยประชาชนที่ยากจนทั่วโลก .

อย่างไรก็ตามแม้จะมีขนาดมหึมาของกิจกรรมการกุศลของเธอและนับล้านชีวิตที่เธอสัมผัสได้ถึงวันตายของเธอเธอจัดขึ้นเฉพาะอ่อนน้อมถ่อมตนมากที่สุดความคิดของความสำเร็จของตัวเอง สรุปชีวิตของเธอในลักษณะที่ตนเอง effacing แฟชั่น , แม่ชีเทเรซ่าบอกว่า " เลือดผม ภาษาไทย . โดยพลเมืองอินเดีย โดยความเชื่อ ฉันเป็นแม่ชีคาทอลิก ให้ฉันโทร ฉันเป็นของโลก เป็นหัวใจของฉันเป็นของฉันทั้งหัวใจของพระเยซู "
.