การที่เราไปอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยและไม่เคยชิน ต่างสถานที่ ต่างแดน ทำให้เราต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสังคมนั้นๆ เนื่องจากความเป็นอยู่ สังคม และวัฒนธรรมในแต่ละที่นั้นต่างกัน ในที่นี้จะยกตัวอย่างเมื่อเราไปอยู่ในประเทศเยอรมัน สิ่งที่แตกต่างระหว่างประเทศไทยและประเทศเยอรมันนั้นมีมากมาย อย่างเช่น เวลาประเทศไทยกับเยอรมนีต่างกัน 5 ชั่วโมงสภาพอากาศ ลักษณะอากาศของเยอรมันเป็นแบบค่อนข้างไปทางหนาวเย็น มี 4 ฤดู คือ ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 18 – 20 องศาเซลเซียส แต่อาจจะสูงขึ้นถึง 30 องศา หรือสูงกว่า ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อากาศจะเย็นลงและมีฝน ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองบ้าง สีแดงบ้างดูสวยงาม ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 5 องศา ถึง ลบ 5 องศาเซลเซียส โดยจะมีหิมะตกบ้าง ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อากาศจะอุ่นขึ้น ดอกไม้เริ่มบานและต้นไม้จะแตกใบอ่อน นำความเขียวขจีกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่ต่างแตกโดยเฉพาะฤดูหนาวอาจเป็นเรื่องยากในการปรับตัวให้ชินกับสภาพอากาศที่เย็นจัดของประเทศเยอรมันได้เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทยแล้วทำให้ในเรื่องของเสื้อผ้าและการแต่งกายนั้นก็แตกต่างกันอีกด้วย ในประเทศเยอรมันมักจะแต่งกายด้วยการสวมใส่เสื้อโคชตัวหนาๆรองเท้าบูธเพื่อทำให้ร่างกายนั้นอบอุ่นซึ่งเมื่อเราไปอยู่ในประเทศของเค้าเราก็ต้องปรับตัวใส่เสื้อผ้าหนาๆเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นอาจจะเป็นการยากเล็กน้อยในเรื่องของแฟชั่นที่เราไม่มีความเคยชิน และยังมีอีกมากมายที่เรานั้นต้องปรับตัวให้คุ้นเคยและเกิดความเคยชิน เช่น เรื่องถนนที่เลนท์ในการขับตรงข้ามกับประเทศไทย ที่นั่งคนขับของรถยนต์ก็อยู่ฝั่งทางซ้ายซึ่งเราอยู่ทางขวา มารยาททางสังคมของชาวเยอรมัน การจับมือเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญของชาวเยอรมัน โดยเฉพาะการพบกันครั้งแรก การจูบสำหรับความสัมพันธ์ในรูปแบบเพื่อนจะเป็นการจูบเบา ๆ ที่แก้มทั้ง 2 ข้างในขณะที่เจอกัน ความตรงต่อเวลาชาวเยอรมันมีความตรงต่อเวลาเป็นอย่างมาก และเป็นมารยาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ควรจะไปก่อนเวลาสักเล็กน้อย หากเราไปสายจะเป็นการสร้างความไม่ประทับใจต่อคนอื่น ๆ การได้รับคำเชิญเมื่อเราได้รับการเชื้อเชิญให้ไปทานข้าวหรือเยี่ยมบ้านของชาวเยอรมัน เราควรนำของเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อมอบให้กับเจ้าของบ้าน และต้องมั่นใจด้วยว่าของเหล่านั้นจะมีจำนวนเป็นเลขคี่ เพราะชาวเยอรมันเชื่อว่าของที่มีจำนวนเป็นเลขคู่จะนำโชคไม่ดีเข้าสู่บ้านเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราไม่คุ้นเคยมากเท่าไหร่ การแยกขยะ การแยกขยะในบ้านของตนเอง หรือแม้กระทั่งถังขยะของสาธารณะ เป็นเรื่องปกติของชาวเยอรมัน ซึ่งการแยกขยะในสังคมไทยนั้นก็มีแต่ไม่ค่อยมีระเบียบวินัยและไม่เคร่งในเรื่องนี้นัก และสิ่งสำคัญอีกอย่างที่เราต้องปรับตัวให้คุ้นชินก็คืออาหาร ร้านอาหารในเยอรมนีเมื่อเข้าไปในร้านอาหาร เราไม่จำเป็นต้องคอยให้บริการมาหาที่นั่งให้ ไม่มีบริการน้ำฟรี และการรับประทานอาหารหลักโดยทั่วไปเราจะต้องถือมีดในมือขวา และถือส้อมด้วยเมือซ้าย เมื่อเรารับประทานอาหารเสร็จแล้วเราจะต้องวางส้อมและมีดไว้คู่กันบนจานทางด้านขวาของเรา เพื่อเป็นสัญญาณให้กับบริกรในการเก็บจานอาหาร ชาวเยอรมันมักจะทานขนมปัง โทสต์ กาแฟหรือชาเป็นอาหารเช้า มื้อกลางวันถือว่าเป็นอาหารมื้อหลักของในแต่ละวัน โดยจะรับประทานในเวลา 12.00 น. ส่วนมื้อเย็นจะเป็นอาหารที่มื้อเล็กกว่า โดยอาจจะเป็นอาหารจำพวกแซนด์วิชมากกว่าและรสชาติอาหารมักจะไม่เน้นเป็นรถจัด เครื่องดื่มชาวเยอรมันมักจะดื่มเบียร์ถือว่าเป็นเครื่องดื่มเก่าแก่ของเยอรมนี พิลเซ่นเบียร์ (Pills) แต่ในไทยนั้นในเรื่องอาหารจะเน้นหนักไปที่มื้อเช้าเป็นส่วนใหญ่ถือว่าเป็นมื้อสำคัญที่ต้องรับประทานและคนไทยส่วนใหญ่จะรับประทานข้าว เนื้อสัตว์ และอาหารที่มีรสจัด สิ่งที่เราต้องปรับตัวอีกหนึ่งยากที่สำคัญมากที่สุดและถือว่ายากคือในเรื่องของการสื่อสารในประเทศเยอรมันจะสื่อสารด้วยภาษาเยอรมัน ซึ่งเมื่อเราจะไปอยู่ในประเทศเยอรมันเราต้องศึกษาภาษาหรือมีพื้นฐานพอสมควร หรืออาจมีพื้นฐานภาษาอังกฤษก็สามารถใช้ได้เช่นกัน