The U.S. economy underwent an exten

The U.S. economy underwent an extensive credit market reform in the early 1980s.
Most household debt requires an initial equity share in the home or vehicle that serves as
collateral—a down payment—and a minimum rate of debt amortization—which determines
the rate of equity accumulation. The Monetary Control and the Garn-St. Germain Acts of
1980 and 1982 allowed market innovations that dramatically reduced these equity requirements:
Greater access to alternative borrowing instruments reduced effective down payments,
and cash-out mortgage refinancing allowed households to delay repayment of principle and
spend previously accumulated home equity. In 1982, home equity equalled 71 percent of
GDP, so a surge of household borrowing unsurprisingly followed these reforms

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้รับการปฏิรูปตลาดเครดิตอย่างกว้างขวางในต้นทศวรรษ 1980หนี้ครัวเรือนส่วนใหญ่ต้องการหุ้นครั้งแรกในบ้านหรือรถที่ทำหน้าที่เป็นหลักประกัน — เงินดาวน์ — และอัตราขั้นต่ำของค่าตัดหนี้ — ซึ่งกำหนดอัตราการสะสมทุน การควบคุมทางการเงินและการกระทำ Germain Garn เซนต์ของ1980 และ 1982 อนุญาตนวัตกรรมในตลาดที่ลดอย่างว่าข้อกำหนดเหล่านี้ในส่วนของ:ลดโอกาสเข้าถึงเครื่องมืออื่นกู้ยืมเงินมีประสิทธิภาพrefinancing เงินสด-เช็คจำนองให้ครัวเรือนการหน่วงเวลาการจ่ายคืนหลักการ และใช้ส่วนของบ้านที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้ ในปี 1982 บ้านทุน equalled 71 เปอร์เซ็นต์ของGDP ดังนั้นการหลั่งไหลของครัวเรือนกู้ยืมประกอบด้วยปฏิรูปเหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เศรษฐกิจสหรัฐขนานปฏิรูปตลาดสินเชื่ออย่างกว้างขวางในช่วงต้นทศวรรษ 1980.
หนี้ภาคครัวเรือนส่วนใหญ่ต้องมีการถือหุ้นครั้งแรกในบ้านหรือรถที่ทำหน้าที่เป็น
หลักประกันลงการชำระเงินและอัตราขั้นต่ำของหนี้ค่าตัดจำหน่ายซึ่งกำหนด
อัตราของผู้ถือหุ้น ขุม ควบคุมการเงินและเฮ่อเซนต์ บารมีต์แชร์กแมงของ
ปี 1980 และ 1982 ได้รับอนุญาตนวัตกรรมตลาดที่ลดลงอย่างมากส่วนความต้องการเหล่านี้:
เข้าถึงมากขึ้นเพื่อการกู้ยืมตราสารทางเลือกที่มีประสิทธิภาพลดลงการชำระเงิน
และการรีไฟแนนซ์สินเชื่อเงินสดออกอนุญาตให้ผู้ประกอบการที่จะชะลอการชำระหนี้ของหลักการและ
การใช้จ่ายส่วนของบ้านที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้ ในปี 1982 ส่วนของบ้านเท่ากับร้อยละ 71 ของ
จีดีพีดังนั้นคลื่นของการกู้ยืมเงินที่ใช้ในครัวเรือนแปลกใจตามการปฏิรูปเหล่านี้