The aim of this study is to investi

The aim of this study is to investigate the effects of different home cooking techniques (boiling, steaming,
and stir-frying) in kale and red cabbage, on the levels of bioactive compounds (carotenoids, anthocyanins
and phenolic compounds) determined by high-performance liquid chromatography coupled with photo
diode array and mass spectrometry detectors (HPLC–DAD–MSn), and on the antioxidant activity evaluated by ABTS radical scavenging activity , Oxygen radical absorbance capacity assay and cellular antioxidant activity assays. The steaming technique resulted in
a significant increase in phenolic content in kale (86.1%;p< 0.001) whereas in red cabbage it was significantly reduced (34.6%; p< 0.001). In the kale, steaming resulted in significant increases in antioxidant
activity levels in all of the evaluation methods. In the red cabbage, boiling resulted in a significant
increase in antioxidant activity using the ABTS radical scavenging activity assay but resulted in a significant decrease using the
Oxygen radical absorbance capacity assay. According to the cellular antioxidant activity assay, the stir-fried sample displayed the highest levels of antioxidant
activity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้เป็นการ ตรวจสอบผลกระทบของโฮต่างเทคนิค (ต้ม นึ่งและผัดบะหมี่ถือ) ในผักคะน้าและกะหล่ำปลีสีแดง ในระดับของสารออกฤทธิ์สำคัญ (carotenoids, anthocyaninsและสารฟีนอ) กำหนด โดย chromatography ของเหลวประสิทธิภาพสูงควบคู่กับภาพไดโอดอาร์เรย์และเครื่องตรวจจับโตรเมทรี (HPLC – พ่อ – MSn), และในการต้านอนุมูลอิสระ กิจกรรมประเมิน โดยรเรียนรุนแรงกิจกรรม scavenging ทดสอบความจุ absorbance อนุมูลออกซิเจน และอนุมูลเซลลูลาร์ assays ส่งผลให้เกิดเทคนิคการนึ่งเพิ่มเนื้อหาในผักคะน้า (86.1%;p < 0.001) ในขณะที่ในกะหล่ำปลีสีแดง จะถูกลดนฟีนอ (34.6%; p < 0.001) ในคะน้า นึ่งผลในการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระสำคัญระดับกิจกรรมในวิธีการประเมินทั้งหมด ในกะหล่ำปลีสีแดง ต้มผลสำคัญเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระกิจกรรมใช้การรเรียนรุนแรง scavenging กิจกรรมทดสอบผลในการใช้ลดลงอย่างมากแต่การออกซิเจนรุนแรง absorbance กำลังทดสอบ ตามการทดสอบกิจกรรมของเซลล์ต้านอนุมูลอิสระ ตัวอย่างผัดแสดงระดับสูงของสารต้านอนุมูลอิสระกิจกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการตรวจสอบผลกระทบของเทคนิคการทำอาหารที่บ้านที่แตกต่างกัน (ต้มนึ่ง
และผัดทอด) ในผักคะน้าและกะหล่ำปลีสีแดงในระดับของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (carotenoids, anthocyanins
และสารประกอบฟีนอล) กำหนดโดยมีประสิทธิภาพสูง ของเหลวควบคู่ไปกับภาพ
อาร์เรย์ไดโอดและเครื่องตรวจจับมวลสาร (HPLC-DAD-MSN) และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระประเมินโดยกิจกรรม ABTS รุนแรงไล่ออกซิเจนรุนแรงทดสอบขีดความสามารถการดูดกลืนแสงและเซลล์ชุดตรวจสารต้านอนุมูลอิสระ เทคนิคการนึ่งผลในการ
เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเนื้อหาของฟีนอลในผักคะน้า (86.1%; p <0.001) ขณะที่ในกะหล่ำปลีสีแดงมันก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (34.6%; p <0.001) ในผักคะน้า, นึ่งผลในการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ
ระดับกิจกรรมในทุกวิธีการประเมินผล ในกะหล่ำปลีแดงเดือดส่งผลให้มีความสำคัญ
เพิ่มขึ้นในการต้านอนุมูลอิสระโดยใช้วิธี ABTS รุนแรงทดสอบกิจกรรมไล่ แต่มีผลในการลดลงอย่างมีนัยสำคัญโดยใช้
ออกซิเจนดูดกลืนแสงที่รุนแรงจุทดสอบ ตามที่มือถือทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, ตัวอย่างผัดแสดงระดับสูงสุดของสารต้านอนุมูลอิสระ
กิจกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของเทคนิคการปรุงอาหารที่บ้านที่แตกต่างกัน ( ต้ม , นึ่ง ,ผัดทอด ) ในผักคะน้าและกะหล่ำปลีแดง ในระดับของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ( carotenoids , แอนโทไซยานินสารประกอบฟีนอล ) และกำหนดโดย high-performance liquid chromatography คู่กับรูปเรย์ ไดโอด และเครื่องตรวจจับมวลสาร ( HPLC ) พ่อ ( MSN ) และสารต้านอนุมูลอิสระกิจกรรมการประเมินโดย Abbr เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเจน Radical Absorbance กิจกรรมการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระในเซลล์ ) . นึ่งเทคนิค )เพิ่มขึ้นอย่างมากในเนื้อหาฟีนอลในผักคะน้า ( 86.1 % ; p < 0.001 ) ส่วนในกะหล่ำปลีแดงมันลดลง ( ร้อยละ 34.6 % ; p < 0.001 ) ในกะหล่ำปลีนึ่งมีผลในการเพิ่มขึ้นในสารต้านอนุมูลอิสระระดับกิจกรรมในการประเมินวิธีการ ในกะหล่ำปลีแดง ต้มให้พบเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ) Abbr กิจกรรม แต่ผลในการลดอย่างมีนัยสำคัญออกซิเจน Radical Absorbance ผลิต ตามลำดับ จากการทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเซลล์ , ผัดตัวอย่างแสดงระดับสูงของสารต้านอนุมูลอิสระกิจกรรม