Thailand and ASEAN had an agreement

Thailand and ASEAN had an agreement
on free trade area (FTA) with China
since November 2003 and it has been
carried out in July 2005. After the FTA,
mainly implemented tariff reduction on
fruits, Thai fruit exports to China have
been substantially increased and China
allows 23 Thai fruits to be imported and
of these, longan, durian, mangosteen,
pomelo, rambutan, sweet tamarind,
rose apple and mango are fast gaining
popularity. Even thought, the tariff
barriers have been steadily reduced,
there has been increasing interest in
the ways that non-tariff barriers (NTBs)
may distort and restrict international
trade. There had an evidenced support
from many studies showed that NTBs,
consist of Sanitary and Phyto-sanitary
(SPS) measures covering chemical
residue, diseases, insects, artificial
substances and food contamination,
have recently cause some problems
to Thai fruit exports. In addition, the
qualitative analysis also indicated that
China is still imposing a value-added
tax (VAT) of up to 13% on imported
fruits for all counties, including those
fruits from Thailand. Thus to maintain
and increase market shares of fruits in
China market, farmers who have grown
fruits have to adjust themselves to cope
with the SPS measures and the government
has to do something about valueadded
tax being added instead of tariff
by the Chinese government.
Under those circumstances, many
questions has been emerged especially

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเทศไทยและอาเซียนมีข้อตกลงในเขตการค้าเสรี (เขตการค้าเสรี) กับจีนตั้งแต่ 2546 พฤศจิกายน และได้รับดำเนินการในเดือนกรกฎาคมปี 2005 หลังจากเขตการค้าเสรีส่วนใหญ่นำมาใช้ลดภาษีในผลไม้ ผลไม้ไทยส่งออกไปจีนได้ได้มากขึ้น และประเทศจีนช่วยให้ผลไม้ไทย 23 ต้องการนำเข้า และเหล่านี้ ลำไย ทุเรียน มังคุดส้มโอ เงาะ มะขามหวานชมพู่และมะม่วงรวดเร็วได้ความนิยม แม้ความคิด อัตราค่าโดยสารอุปสรรคอย่างต่อเนื่องลดลงมีได้เพิ่มขึ้นดอกเบี้ยในแบบอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี (NTBs)อาจบิดเบือน และอินเตอร์เนชั่นแนลจำกัดทางการค้า มีการสนับสนุนที่เห็นมีจากหลายการศึกษาพบว่า NTBsประกอบด้วยสุขาภิบาลและอนามัย Phyto(SPS) มาตรการที่ครอบคลุมสารเคมีสารตกค้าง โรค แมลง ประดิษฐ์สารและปนเปื้อนอาหารเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้เกิดปัญหาการผลไม้ไทยส่งออก แห่งวิเคราะห์คุณภาพยังระบุที่จีนจะยังคงสถานะเป็นมูลค่าเพิ่มภาษี (VAT) ถึง 13% ในการนำเข้าผลไม้ในประเทศทั้งหมด รวมทั้งผลไม้จากประเทศไทย ดังนั้นการรักษาและเพิ่มหุ้นตลาดผลไม้ในตลาดจีน เกษตรกรที่มีการเติบโตผลไม้ที่มีการปรับตัวรับมือมาตรการ SPS และรัฐบาลมีการทำบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับ valueaddedภาษีเพิ่มแทนภาษีโดยรัฐบาลจีนภายใต้สถานการณ์เหล่านั้น มากคำถามมีการชุมนุมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเทศไทยและอาเซียนมีข้อตกลงเกี่ยวกับเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับจีนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน2003 และจะได้รับการดำเนินการในเดือนกรกฎาคมปี2005 หลังจากที่เอฟทีเอดำเนินการส่วนใหญ่ลดภาษีในผลไม้ส่งออกผลไม้ไทยไปยังประเทศจีนได้รับการเพิ่มขึ้นอย่างมากและจีนช่วยให้ผลไม้ไทย 23 ที่จะนำเข้าและเหล่านี้ลำไยทุเรียนมังคุดส้มโอเงาะมะขามหวานชมพู่และมะม่วงอย่างรวดเร็วได้รับความนิยม คิดว่าแม้ภาษีอุปสรรคได้รับลดลงอย่างต่อเนื่องได้มีการเพิ่มความสนใจในวิธีการที่อุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี(NTBs) อาจบิดเบือนและ จำกัด ระหว่างประเทศการค้า ได้มีการสนับสนุนที่หลักฐานจากการศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า NTBs, ประกอบด้วยสุขาภิบาลและ Phyto-สุขาภิบาล(SPS) มาตรการครอบคลุมสารเคมีตกค้างโรคแมลงเทียมสารและการปนเปื้อนอาหารได้เมื่อเร็วๆ นี้ทำให้เกิดปัญหาบางอย่างเพื่อการส่งออกผลไม้ไทย นอกจากนี้การวิเคราะห์เชิงคุณภาพนอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่าประเทศจีนยังคงมีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มภาษี(VAT) ได้ถึง 13% นำเข้าผลไม้ทุกจังหวัดรวมทั้งผู้ที่ผลไม้จากประเทศไทย ดังนั้นเพื่อรักษาและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของผลไม้ในตลาดประเทศจีนเกษตรกรที่มีการเติบโตผลไม้ที่มีการปรับตัวเพื่อรับมือกับมาตรการSPS และรัฐบาลมีการทำบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับvalueadded ภาษีที่เพิ่มเข้ามาแทนอัตราค่าไฟฟ้าโดยรัฐบาลจีน. ภายใต้ผู้ สถานการณ์หลายคำถามที่ได้รับการโผล่ออกมาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไทยและอาเซียนมีข้อตกลง
ในเขตการค้าเสรี ( FTA ) กับจีน
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2546 และได้รับ
ดำเนินการในเดือนกรกฎาคม 2005 หลังจากเขตการค้าเสรี การลดภาษีที่ส่วนใหญ่ใช้

ผลไม้ ผลไม้ไทยส่งออกไปจีนได้เพิ่มขึ้นอย่างมากและจีน

ได้รับอนุญาตให้นำเข้าผลไม้ไทยเป็น 23
เหล่านี้ ลำไย ทุเรียน มังคุด เงาะ ส้มโอ มะขามหวาน

, ,ชมพู่กับมะม่วงได้อย่างรวดเร็วสู่
ความนิยม คิดว่าแม้อัตราภาษี
อุปสรรคที่ได้รับอย่างต่อเนื่องลดลง

มีความสนใจเพิ่มขึ้นในวิธีที่อุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี ( NTB )
อาจบิดเบือนและ จำกัด การค้าระหว่างประเทศ

มีหลักฐานสนับสนุนจากหลายการศึกษาพบว่า NTB

ประกอบด้วย , สุขาภิบาล และไฟโตสุขาภิบาล
( SP ) มาตรการครอบคลุมสารเคมี
กาก , โรคแมลง , สารเทียม
และการปนเปื้อนอาหาร
เพิ่งสร้างปัญหา
เพื่อการส่งออกผลไม้ไทย นอกจากนี้ ยังพบว่า การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ

จีนยังคงเป็นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ( VAT )
ถึง 13% ในการนำเข้าผลไม้ทั้งหมด

มณฑล รวมทั้งผลไม้จากประเทศไทย ดังนั้น เพื่อรักษาและเพิ่มส่วนแบ่งตลาด

ตลาดผลไม้ในจีนเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ต้องปรับตัวเอง

เพื่อรับมือกับมาตรการ SPS และรัฐบาลต้องทำอะไร

ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีถูกเพิ่มแทน

โดยรัฐบาลจีน ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ได้เกิดคำถามมากมาย
โดยเฉพาะ