You may have already heard that gre

You may have already heard that green tea is good for your heart, but did you know that it also lowers your cholesterol levels and decreases your risk of disability as you age?

The cholesterol finding comes from an analysis of 14 randomized controlled trials involving a total of 1,136 participants and was published in the American Journal of Clinical Nutrition in 2011. The review was conducted by researchers from the Key Laboratory for Clinical Cardiovascular Genetics, the Sino-German Laboratory for Molecular Medicine, the Cardiovascular Institute, FuWai Hospital and Peking Union Medical College.

In all 14 studies, participants were divided into a placebo group and a group that drank either green tea or a green tea extract for between three weeks and three months. Overall, the researchers found that higher levels of green tea (or extract) consumption were associated with significantly lower levels of total cholesterol and LDL ("bad") cholesterol. No change was seen in the levels of HDL ("good") cholesterol.

Green tea is high in antioxidants, which protect cells from the damage and inflammation that lead to many chronic diseases, including heart disease. One of the antioxidant families found in green tea, known as the catechins, appears to decrease the gut's absorption of cholesterol.

These findings are particularly significant because although green tea consumption has strongly been linked to lower rates of heart disease, the mechanisms by which this protection functions have been unclear.

Because the observed cholesterol decrease in the studies was small, heart disease prevention specialist Nathan Wong of the University of California, Irvine cautioned against relying solely on green tea if you have dangerously high cholesterol. But green tea "could be a useful component of a heart-healthy diet," he said.

Green tea also reduces disability
Heart protection it is just one of the many health benefits that researchers have linked to green tea. For example, a 2012 study published in the American Journal of Clinical Nutrition found that people who drink at least five cups of green tea per day stay significantly more agile and independent as they age, with a lower risk of disability and frailty.

The study, conducted by researchers at the Tohoku University Graduate School of Medicine, followed almost 14,000 people over the age of 64 for three years. They found that approximately seven percent of participants who drank five or more cups of green tea daily became functionally disabled in that time, compared with 13 percent of those who drank fewer than one cup per day.

Functional disability was defined as having trouble with everyday tasks, such as bathing or getting dressed.

People who drank more green tea were also more likely to have healthier diets, higher education, lower rates of smoking, more robust social networks, and overall better health. However, even when the researchers adjusted for potential interference from these factors, green tea consumption was still strongly correlated with lower disability risk.

"Green tea consumption is significantly associated with a lower risk of incident functional disability, even after adjustment for possible confounding factors," the researchers wrote.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คุณอาจมีอยู่แล้วได้ยินว่า ชาเขียวเหมาะสำหรับหัวใจของคุณ แต่คุณรู้ว่า มันยังช่วยลดระดับของไขมัน และลดความเสี่ยงพิการเป็นคุณอายุ?

หาไขมันมาทดลองวิเคราะห์ 14 randomized ควบคุมที่เกี่ยวข้องกับจำนวนผู้เข้าร่วม 1,136 และเผยแพร่ในแบบอเมริกันสมุดรายวันของคลินิกโภชนาการใน 2011 ตรวจทานถูกดำเนินการ โดยนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการคีย์พันธุศาสตร์ทางคลินิกที่หัวใจและหลอดเลือด Sino-เยอรมันห้องปฏิบัติการ เวชศาสตร์ระดับโมเลกุล Cardiovascular สถาบัน โรง พยาบาล FuWai และปักกิ่งสหภาพแพทย์วิทยาลัย

ในการศึกษาทั้งหมด 14 ผู้เข้าร่วมได้แบ่งกลุ่มยาหลอกและกลุ่มที่ดื่มชาเขียวหรือสารสกัดชาเขียวในระหว่างสัปดาห์ที่สามและเดือนที่สาม โดยรวม นักวิจัยพบว่า ระดับที่สูงขึ้นของการบริโภคชา (หรือแยก) สีเขียวถูกเชื่อมโยงกับระดับต่ำของไขมันรวมและไขมัน LDL ("ด้อย") เปลี่ยนแปลงไม่ได้เห็นในระดับของ HDL ("ดี") ไขมัน

ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ การปกป้องเซลล์จากความเสียหายและการอักเสบซึ่งนำไปสู่โรคเรื้อรังต่าง ๆ รวมทั้งโรคหัวใจ สูงขึ้น ครอบครัวต้านอนุมูลอิสระที่พบในชาเขียว เรียกว่า catechins หนึ่งปรากฏขึ้นเพื่อลดการดูดซึมของลำไส้ไขมัน

ผลการวิจัยเหล่านี้เป็นสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากแม้ว่าการบริโภคชาเขียวมีการเชื่อมโยงอัตราลดลงของโรคหัวใจ กลไก โดยที่ฟังก์ชันป้องกันได้ชัดเจนอย่างยิ่ง

เนื่องจากลดไขมันที่พบในการศึกษาขนาดเล็ก หัวใจผู้เชี่ยวชาญด้านป้องกันโรคธันวงศ์ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์วินเตือนกับอาศัยอยู่ในชาเขียวเท่านั้นถ้าคุณมีไขมันสูงเลิฟ แต่ชาเขียว "อาจจะเป็นส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์ของอาหารเพื่อสุขภาพหัวใจ เขากล่าวว่า

ชาเขียวยังช่วยลดความพิการ
ป้องกันหัวใจเป็นเพียงหนึ่งของประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายที่นักวิจัยได้เชื่อมโยงกับชาเขียว ตัวอย่าง การศึกษา 2012 ที่เผยแพร่ในแบบอเมริกันสมุดรายวันของคลินิกโภชนาการพบว่า คนที่ดื่มชาเขียววันละน้อยห้าถ้วย พักมากขึ้น และคล่องตัวอิสระอายุมาก มีความเสี่ยงต่ำกว่าพิการและ frailty

การศึกษา ดำเนินการ โดยนักวิจัยที่โทมหาวิทยาลัยบัณฑิตวิทยาลัยโรงเรียนของยา ตามเกือบ 14000 คนเหนืออายุ 64 ปีสาม พวกเขาพบว่าประมาณเจ็ดเปอร์เซ็นต์ของคนที่ดื่มห้า หรือมากกว่าถ้วยของชาเขียวทุกวันกลายเป็นปิดใช้งานฟังก์ชันในเวลานั้น เมื่อเทียบกับร้อยละ 13 ของผู้ที่ดื่มน้อยกว่าหนึ่งถ้วยต่อวัน

พิการทำงานถูกกำหนดว่ามีปัญหากับงานประจำวัน เช่นอาบน้ำหรือการแต่งตัวด้วย

ยังมีแนวโน้มที่จะมีอาหารสุขภาพ ศึกษา ราคาต่ำกว่าของบุหรี่ เครือข่ายทางสังคมที่แข็งแกร่งมากขึ้น และสุขภาพโดยรวมดีกว่าคนที่ดื่มชาเขียวเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่านักวิจัยปรับปรุงสัญญาณรบกวนที่มีศักยภาพจากปัจจัยเหล่านี้ การบริโภคชาเขียวยังขอ correlated มีความเสี่ยงต่ำกว่าพิการ

"การบริโภคชาเขียวเป็นอย่างมากเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่ต่ำกว่าของความพิการทำงานแก้ไขปัญหา แม้หลังจากปรับปรุงปัจจัยเป็น confounding นักวิจัยเขียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณอาจจะเคยได้ยินว่า ชาเขียวเป็นสิ่งที่ดีสำหรับหัวใจของคุณ แต่คุณรู้ไหมว่า มันยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และลดความเสี่ยงของการเป็นคุณอายุ ?

คอเลสเตอรอลค้นหามาจากการวิเคราะห์ 14 สุ่มควบคุมการทดลองที่เกี่ยวข้องกับทั้งหมด 1136 เข้าร่วมและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารโภชนาการทางคลินิกใน 2011ความคิดเห็นที่ดำเนินการโดยนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการหลักพันธุศาสตร์หัวใจและหลอดเลือดคลินิก , SINO เยอรมันสำหรับห้องปฏิบัติการอณูทางการแพทย์ สถาบันโรคหัวใจ โรงพยาบาล fuwai ปักกิ่งยูเนี่ยนและวิทยาลัยแพทยศาสตร์

ในทั้งหมด 14 การศึกษากลุ่มตัวอย่างแบ่งออกเป็นกลุ่มยาหลอก และกลุ่มที่ดื่มด้วยชาเขียวหรือสารสกัดจากชาเขียว ระหว่างสามสัปดาห์และ 3 เดือน โดยรวมแล้ว นักวิจัยพบว่าระดับที่สูงขึ้นของชาเขียว ( หรือแยก ) มีความสัมพันธ์กับการลดลงของระดับคอเลสเตอรอลรวมและ LDL ( " ไม่ดี " ) คอเลสเตอรอลไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นในระดับของ HDL ( " ดี " ) คอเลสเตอรอล .

ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งป้องกันเซลล์จากความเสียหายและการอักเสบที่นำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ มากมาย อาทิ โรคหัวใจ หนึ่งในครอบครัวของสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในชาเขียว ที่เรียกว่า catechins จะปรากฏขึ้นเพื่อลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลเป็นไส้

การค้นพบนี้จะคัญอย่างยิ่ง เพราะแม้ว่าการบริโภคชาเขียวได้มีการเชื่อมโยงกับอัตราที่ลดลงของโรคหัวใจ กลไกซึ่งป้องกันฟังก์ชันนี้ได้ชัดเจน

เพราะสังเกตคอเลสเตอรอลลดลง ในการศึกษาขนาดเล็ก ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ เนธาน วงของมหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียเออร์เตือนกับอาศัยแค่ชาเขียว ถ้ามีอันตรายคอเลสเตอรอลสูง แต่ชาเขียว " อาจเป็นองค์ประกอบที่เป็นประโยชน์ของหัวใจอาหารเพื่อสุขภาพ , " เขากล่าว .

ชาเขียวยังช่วยป้องกันโรคหัวใจพิการ
มันเป็นเพียงหนึ่งในประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายที่นักวิจัยได้เชื่อมโยงกับชาเขียว ตัวอย่างเช่น2012 การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารอเมริกันคลินิกโภชนาการพบว่า คนที่ดื่มอย่างน้อย 5 ถ้วยของชาเขียวต่อวันอยู่มากว่องไวและอิสระเช่นที่พวกเขาอายุ กับการลดความเสี่ยงของการพิการและความอ่อนแอ .

การศึกษาดำเนินการโดยนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Tohoku บัณฑิตวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ตามมาเกือบ 14000 คนอายุ 64 ปี เป็นเวลา 3 ปีพวกเขาพบว่า ประมาณร้อยละเจ็ดของผู้ดื่มหรือมากกว่าห้าถ้วยของชาเขียวทุกวันกลายเป็นง่ายความสะดวกในช่วงเวลานั้น , เมื่อเทียบกับ 13 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ดื่มน้อยกว่าหนึ่งถ้วยต่อวัน มีการทำงานความพิการ

หมายถึงมีปัญหากับชีวิตประจําวันงาน เช่นอาบน้ำหรือแต่งตัว

คนที่ดื่มชาเขียวเพิ่มเติม ก็น่าจะมี healthier อาหาร , อุดมศึกษา , ลดอัตราการสูบบุหรี่ , เครือข่ายทางสังคมที่แข็งแกร่งมากขึ้นและโดยรวมสุขภาพที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้เมื่อนักวิจัยปรับศักยภาพการรบกวนจากปัจจัยเหล่านี้ การบริโภคชาเขียวยังความสัมพันธ์อย่างยิ่งกับการลดความเสี่ยง .

" การบริโภคชาเขียว มีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของเหตุการณ์การการทำงาน แม้หลังจากการได้รับปัจจัย confounding ,
" นักวิจัยเขียน