ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ที่ได้จากมะเขือเทศจัดว่าเป็นอาหารที่สำคัญชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมะเขือเทศซึ่งเป็นที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย ทาให้มีความต้องการน้ามะเขือเทศที่มีคุณภาพดี มีความคงตัวทางกายภาพในระหว่างการเก็บรักษาเป็นเวลานาน ดังนั้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ามะเขือเทศให้มีคุณภาพดี จาเป็นต้องคำนึงถึงความคงตัวทางกายภาพของน้ามะเขือเทศที่ผลิตได้ เนื่องจากความคงตัวทางกายภาพเป็นคุณลักษณะที่สังเกตเห็นได้ง่าย ซึ่งใช้เป็นตัวควบคุมคุณภาพของน้ามะเขือเทศได้ อีกทั้งยังใช้เป็นมาตรฐานในการซื้อขายด้วย ดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงศึกษาผลของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี High Pressure Homogenization (HPH) ในการเพิ่มความคงตัวทางกายภาพของน้ามะเขือเทศ โดยใช้ความดันในการโฮโมจีไนซ์ (PH) ที่ 0, 25, 50, 75 และ 100 MPa ที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส โดยใช้ตัวอย่าง NH (Non-homogenize) และ 0 MPa เป็นตัวอย่างควบคุม จากการทดลองพบว่าตัวอย่างที่ผ่าน HPH มีขนาดอนุภาคและความขุ่นของ Serum ลดลงเมื่อ PH เพิ่มขึ้นตามลาดับ อีกทั้งยังมีผลทาให้ความเป็นสีแดงเพิ่มมากขึ้น โครงสร้างเชิงอนุภาคและการกระจายขนาดของอนุภาค (PSD) สม่ำเสมอมากขึ้นเมื่อ PH เพิ่มขึ้นตามลาดับ และเมื่อเก็บน้ามะเขือเทศไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 60 วัน พบว่าตัวอย่างควบคุมมีการตกตะกอนตลอดช่วงระยะเวลาในการเก็บรักษา ในขณะที่ตัวอย่างที่ผ่าน HPH ไม่พบการตกตะกอน โดยที่ PH 75 และ 100 MPa มีความขุ่นค่อนข้างคงตัว แต่มีผลทาให้น้ามะเขือเทศมีสีคล้ามากขึ้นตามลาดับ ดังนั้นการใช้ PH ที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มความคงตัวทางกายภาพของน้ามะเขือเทศ จึงควรใช้ PH ไม่เกิน 50 MPa น้ามะเขือเทศจึงจะมีความคงตัวทางกายภาพอยู่ได้โดยไม่เกิดสีคล้าที่ไม่พึงประสงค์
คำสำคัญ : Tomato juices, High pressure homogenization, Physical stability