The peak power must be large enough

The peak power must be large enough to vaporise the work-
piece. There exists a threshold value of laser beam intensity
below which no melting/evaporation will occur. When a laser
(without gas jet) heats a metal target, the energy absorbed is
conducted into the surrounding colder metal. For steels, if the
absorption rate is low (,10
5
Wcm
−2
, about 2 W for a spot
size of 50 mm in diameter) compared to the rate of conduction,
the target surface will remain below the melting point. At
higher absorption rates, the surface region of the metal will
melt and perhaps begin to vaporise. At even higher absorption
rate (.10
7
Wcm
−2
, about 200 W for a spot size of 50 µmin
diameter), vaporisation becomes the dominant mechanism of
material removal from the target [8]. The calculation of vaporis-
ation energy intensity is referred to in Appendix A. When the
power density becomes too high, however, the gas near the
spot where the laser interacts with the workpiece material is
instantly transformed to plasma. The plasma formation has
been shown to cause some form of material damage such
as microcracks.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พลังงานสูงสุดต้องใหญ่พอที่จะ vaporise งาน-ชิ้นส่วน มีค่าขีดจำกัดความเข้มของลำแสงเลเซอร์ไม่ละลาย/ระเหยจะเกิดขึ้นที่ เมื่อเลเซอร์โดยไม่ต้องใช้แก๊ส jet) heats เป้าหมายโลหะ พลังงานที่ดูดซึมได้ดำเนินเป็นโลหะหนาวรอบ สำหรับ steels ถ้าการอัตราการดูดซึมจะต่ำ ( 105Wcm−2เกี่ยวกับ 2 W ในขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 mm) เปรียบเทียบกับอัตราการนำพื้นผิวเป้าหมายจะอยู่ต่ำกว่าจุดหลอมเหลว ที่อัตราการดูดซึมสูง พื้นที่ผิวของโลหะจะละลาย และบางทีเริ่ม vaporise ที่ดูดซึมได้สูงอัตรา (.107Wcm−2กำลัง 200 W ขนาดจุดของ 50 µminเส้นผ่าศูนย์กลาง), vaporisation กลายเป็น กลไกหลักของเอาวัสดุจากเป้าหมาย [8] การคำนวณของ vaporis-ความเข้มพลังงาน ation อ้างอิงในภาคผนวกเอ เมื่อการพลังงานความหนาแน่นจะสูงเกินไป แต่ ก๊าซใกล้เลเซอร์ที่โต้ตอบกับวัสดุเทคโนโลยีที่มีทันทีเปลี่ยนพลาสม่า มีการก่อตัวของพลาสม่ารับการแสดงเพื่อทำให้รูปแบบของวัสดุความเสียหายดังกล่าวเป็น microcracks

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อำนาจสูงสุดต้องมีขนาดใหญ่พอที่จะ vaporise
งานที่ชิ้น มีค่าเกณฑ์ที่มีอยู่ของความเข้มแสงเลเซอร์ด้านล่างซึ่งไม่ละลาย / การระเหยจะเกิดขึ้น
เมื่อเลเซอร์
(ไม่แก็ดเจ็ต)
ร้อนเป้าหมายโลหะดูดซึมพลังงานจะดำเนินการเข้าสู่รอบโลหะที่หนาวเย็น สำหรับเหล็กถ้าอัตราการดูดซึมอยู่ในระดับต่ำ (10 5 Wcm -2 ประมาณ 2 W สำหรับจุดขนาด 50 มม) เมื่อเทียบกับอัตราการนำ, พื้นผิวเป้าหมายจะยังคงอยู่ต่ำกว่าจุดหลอมละลาย ที่สูงกว่าอัตราการดูดซึมภูมิภาคพื้นผิวของโลหะจะละลายและอาจจะเริ่มต้นที่จะvaporise ในการดูดซึมสูงขึ้นอัตรา (0.10 7 Wcm -2 ประมาณ 200 W สำหรับขนาดจุด 50 μminเส้นผ่าศูนย์กลาง), ระเหยกลายเป็นกลไกที่โดดเด่นของการกำจัดวัสดุจากเป้าหมาย [8] การคำนวณ vaporis- ation เข้มของพลังงานจะเรียกในภาคผนวก A เมื่อความหนาแน่นของพลังงานสูงเกินไปแต่ก๊าซที่อยู่ใกล้จุดที่เลเซอร์มีปฏิสัมพันธ์กับวัสดุชิ้นงานที่มีการเปลี่ยนทันทีที่พลาสม่า การก่อตัวพลาสม่าได้รับการแสดงที่จะทำให้เกิดรูปแบบของความเสียหายของวัสดุบางอย่างเช่นเป็นmicrocracks

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อำนาจสูงสุดต้องใหญ่พอที่จะ vaporise งาน -
ชิ้น มีเกณฑ์คุณค่าของลำแสงเลเซอร์ความเข้ม
ด้านล่างซึ่งไม่ละลาย / การระเหยจะเกิดขึ้น เมื่อแสงเลเซอร์
( ไม่มีเจ็ทแก๊สร้อนชิ้นงานโลหะ พลังงานดูดซับ
ดำเนินการในรอบโลหะเย็น สำหรับเหล็ก ถ้า
อัตราการดูดซึมต่ำ ( 10
5

wcm − 2
w
2 จุดขนาด 50 มม. ) เมื่อเทียบกับอัตราของการนํา
ชิ้นงานจะอยู่ด้านล่าง จุดหลอมเหลว อัตราการดูดซึมที่
สูงกว่าพื้นผิวเขตของโลหะจะละลายและอาจเริ่ม vaporise
. อัตราการดูดซึม
สูงขึ้น ( 10

7

wcm − 2 , 200 W สำหรับจุดขนาด 50 µมิน
เส้นผ่าศูนย์กลาง ) , vaporisation กลายเป็นกลไกเด่นของ
วัสดุ กำจัด จากเป้าหมาย [ 8 ] การคำนวณ vaporis -
ation พลังงานเข้มปรากฏในภาคผนวก ก. เมื่อ
ความหนาแน่นพลังงานจะสูงเกินไป แต่แก๊สใกล้
จุดที่เลเซอร์โต้ตอบกับวัสดุชิ้นงานเป็น
ทันทีแปลงกับพลาสมา พลาสมาการก่อตัวได้
ถูกแสดงเพื่อให้บางรูปแบบของวัสดุ ความเสียหายดังกล่าวเป็น microcracks
.