The major parts of precision farmin

The major parts of precision farming can mainly be broken up into three steps; pre-planting, post-planting and during the growth, and lastly, during harvest (Pfister, 1998). The pre-planting stage consists of gathering data required for planning. This includes, but is not limited to, gathering soil nutrient data from the farming area, gathering and evaluating data such as ground water level, potential pest and weed and also determining the areas, if any, affected by disease which may affect crop yields (Goddard, Kryzanowski, Cannon, Izaurralde, & Martin, n.d.). After planting and during the growth period, farmers have to use the data and information obtained during the pre-planting stage, through GIS, to manage different areas of the crops specifically depending on their needs. This may include dealing with weeds, diseases, pests and other problem affecting the crop (Pfister, 1998). The last stage is during harvesting, which the famers use a technique called “yield monitor” which analyzes the data of the yield from the crow to see whether the overall plan is working and to prepare for the next farming period (Pfister, 1998). Data collected by the farmer is then fed into GIS software for analysis providing the farmer with the desired information and maps. It might even be said that GIS is the central component of precision farming. Without it, all the farmer would have is just a list of coordinates and random data. It is only after the data is analyzed using GIS software that it becomes useful information. Still, when looking at it from an overview perspective, the requirements and necessary steps in precision farming may seem daunting. Nonetheless, its effects and benefits seem to outweigh the necessary dedication on the part of the farmers which is clearly visible both from the level of adoption and the initial data being advertised

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนสำคัญของความแม่นยำในการทำการเกษตรสามารถส่วนใหญ่จะแตกออกเป็นสามขั้นตอน ก่อนปลูก ปลูกหลัง และใน ระหว่างการเจริญเติบโต และ ใน ระหว่างการเก็บเกี่ยว (Pfister, 1998) ประกอบด้วยการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการวางแผนขั้นตอนก่อนปลูก ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัด รวบรวมข้อมูลธาตุอาหารดินจากพื้นที่ทำการเกษตร รวบรวม และประเมินข้อมูลระดับน้ำใต้ดิน การเกิดศัตรูพืช และวัชพืช และยัง กำหนดพื้นที่ ถ้ามี ผลกระทบจากโรคที่มีผลต่อพืชอัตราผลตอบแทน (ก็อดเดิร์ด Kryzanowski ปืนใหญ่ Izaurralde และ มาร์ติน n.d.) หลัง จากปลูก และช่วงการเจริญเติบโต เกษตรกรมีการใช้ข้อมูลและข้อมูลที่ได้รับในระหว่างขั้นตอนก่อนปลูก ผ่าน GIS การจัดการพื้นที่ต่าง ๆ ของพืชโดยเฉพาะตามความต้องการของพวกเขา ซึ่งอาจรวมถึงการจัดการกับวัชพืช โรค ศัตรูพืช และปัญหาอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพืช (Pfister, 1998) ขั้นสุดท้ายอยู่ในระหว่างการเก็บเกี่ยว famers ที่ใช้เทคนิคที่เรียกว่า "ผลผลิตจอภาพ" การวิเคราะห์ข้อมูลจากผลตอบแทนจากขัน เพื่อดูว่า แผนงานโดยรวมทำงาน และเตรียมทำนารอบถัดไป (Pfister, 1998) แล้วมีติดตามข้อมูลที่เก็บรวบรวม โดยชาวนาในซอฟต์แวร์ GIS สำหรับการวิเคราะห์ที่ให้ชาวนาต้องข้อมูลและแผนที่ มันอาจแม้แต่จะกล่าวว่า GIS เป็นส่วนกลางของความแม่นยำในการทำการเกษตร โดยไม่ได้ จะมีชาวนาเป็นเพียงรายการพิกัดและข้อมูลสุ่ม หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ซอฟต์แวร์ GIS ว่า จะกลายเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ ยังคง มองมันจากมุมมองภาพรวมการ ความต้องการและขั้นตอนจำเป็นในการทำนาความแม่นยำอาจดูเหมือนยุ่งยาก กระนั้น ผลกระทบและประโยชน์ดูเหมือนไปหมดอุทิศในส่วนเกษตรกรที่จำเป็นซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้ง จากระดับของการยอมรับและข้อมูลเริ่มต้นที่การโฆษณา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชิ้นส่วนที่สำคัญของการทำฟาร์มที่มีความแม่นยำส่วนใหญ่สามารถแบ่งออกเป็นสามขั้นตอน; ปลูกก่อนการโพสต์การปลูกและระหว่างการเจริญเติบโตและสุดท้ายในระหว่างการเก็บเกี่ยว (Pfister, 1998) ขั้นตอนก่อนการปลูกประกอบด้วยการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการวางแผน นี้รวมถึง แต่ไม่ จำกัด เพียงการรวบรวมข้อมูลธาตุอาหารในดินจากพื้นที่การเกษตรรวบรวมและประเมินผลข้อมูลเช่นระดับน้ำพื้นดินศัตรูพืชที่มีศักยภาพและวัชพืชและการกำหนดพื้นที่ถ้ามีผลกระทบจากโรคซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตพืช ( ก็อดดาร์ด Kryzanowski, แคนนอน, Izaurralde และมาร์ติน ND) หลังจากการปลูกและในช่วงระยะเวลาการเจริญเติบโตของเกษตรกรมีการใช้ข้อมูลและข้อมูลที่ได้รับในช่วงขั้นตอนก่อนการปลูกผ่านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในการจัดการพื้นที่ที่แตกต่างของพืชโดยเฉพาะขึ้นอยู่กับความต้องการของพวกเขา ซึ่งอาจรวมถึงการจัดการกับวัชพืชโรคศัตรูพืชและปัญหาอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อการเพาะปลูก (Pfister, 1998) ขั้นตอนสุดท้ายคือในช่วงการเก็บเกี่ยวที่เกษตรกรใช้เทคนิคที่เรียกว่า "การตรวจสอบผลผลิต" ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลของอัตราผลตอบแทนจากอีกาเพื่อดูว่าแผนโดยรวมคือการทำงานและเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับรอบระยะเวลาการเลี้ยงถัดไป (Pfister, 1998) ข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยชาวนาจะถูกป้อนเข้าไปในซอฟต์แวร์ GIS ในการวิเคราะห์ให้เกษตรกรที่มีข้อมูลที่ต้องการและแผนที่ แม้มันอาจจะกล่าวได้ว่าระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการทำฟาร์มที่มีความแม่นยำ โดยไม่ได้ทั้งหมดที่เกษตรกรจะต้องเป็นเพียงรายชื่อของพิกัดและข้อมูลแบบสุ่ม มันเป็นเพียงหลังจากที่ข้อมูลจะถูกวิเคราะห์โดยใช้ซอฟต์แวร์ GIS ที่จะกลายเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ถึงกระนั้นเมื่อมองจากมุมมองของภาพรวมความต้องการและขั้นตอนที่จำเป็นในการทำการเกษตรที่มีความแม่นยำอาจจะดูน่ากลัว อย่างไรก็ตามผลกระทบและผลประโยชน์ของตนดูเหมือนจะเกินดุลการอุทิศตนที่จำเป็นในส่วนของเกษตรกรที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งจากระดับของการยอมรับและข้อมูลเริ่มต้นการโฆษณา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชิ้นส่วนหลักของความแม่นยำการเกษตรสามารถส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็นสามขั้นตอน ก่อนปลูก และหลังปลูกในระหว่างการเจริญเติบโต และสุดท้าย ในระหว่างการเก็บเกี่ยว ( ฟิสเตอร์ , 1998 ) ก่อนปลูก ขั้นตอนประกอบด้วยการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการวางแผน นี้รวมถึง แต่ไม่ จำกัด การรวบรวมข้อมูลธาตุอาหารดินจากพื้นที่เกษตร รวบรวมและประเมินผลข้อมูล เช่น ระดับน้ำใต้ดินศัตรูพืชและวัชพืชที่มีศักยภาพและยังกำหนดพื้นที่ ถ้าใด ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตพืช ( กอดดาร์ด , kryzanowski แคนนอน izaurralde & , มาร์ติน n.d. ) หลังจากปลูกและระยะการเจริญเติบโต เกษตรกรต้องใช้ข้อมูลและข้อมูลที่ได้รับในระหว่างขั้นตอนก่อนปลูก โดยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อการบริหารจัดการพื้นที่ที่แตกต่างกันของพืชโดยเฉพาะขึ้นอยู่กับความต้องการของพวกเขานี้อาจรวมถึงการจัดการกับวัชพืช โรค แมลงศัตรูพืช และปัญหาอื่น ๆที่มีผลต่อพืช ( ฟิสเตอร์ , 1998 ) ขั้นตอนสุดท้ายคือ ในการเก็บเกี่ยว ซึ่งชาวนาใช้เทคนิคที่เรียกว่า " ผลผลิตจอภาพซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลผลผลิตจากอีกา เพื่อดูว่าแผนโดยรวมการทำงานและเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับช่วงการถัดไป ( ฟิสเตอร์ , 1998 )เก็บรวบรวมข้อมูล โดยเกษตรกรจะเลี้ยงเป็นซอฟต์แวร์ GIS ในการวิเคราะห์การให้เกษตรกรที่ต้องการข้อมูลและแผนที่ มันอาจจะกล่าวได้ว่า ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เป็นองค์ประกอบกลางของความแม่นยําา ถ้าไม่มีมัน ทั้งหมด เกษตรกรจะเป็นเพียงรายการของพิกัดและข้อมูลแบบสุ่ม มันเป็นเพียงหลังจากที่วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรม GIS ที่เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ยังคงเมื่อมองจากภาพรวมมุมมอง ความต้องการและความจำเป็นในขั้นตอนการเลี้ยงอาจดูเหมือน daunting . อย่างไรก็ตาม ผลกระทบและประโยชน์ที่ดูเหมือนจะเกินความจำเป็นในส่วนของเกษตรกร ซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากทั้งระดับของการยอมรับและข้อมูลเริ่มต้น โฆษณา