เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังเหตุการณ์ตุลาวิปโยคเมื่อปีพุทธศักราช 2519 จุดกำเนิดของเรื่องเกิดมาจากการปราบปรามการชุมนุมประท้วงของนักศึกษา โดยได้มีการระดมยิงเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้ผู้ที่ชุมนุมประท้วงอยู่ต่างพากันวิ่งหลบหนีไปตามส่วนต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งได้มีผู้ประท้วงส่วนหนึ่งวิ่งหนีเข้าไปหลบในลิฟต์ของอาคารคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีด้วยความหวังว่าจะใช้ลิฟต์ตัวนี้เพื่อหลบหนีไปชั้นอื่น แต่พอลิฟต์เปิดออกพวกทหารก็กระหน่ำยิงเข้าไปในลิฟต์ ทำให้ผู้ที่อยู่ในลิฟต์ถูกยิงตายทั้งหมด โดยเลือดของผู้เสียชีวิตได้กระจัดกระจายฉาบไปทั่ว ต่อมาลิฟต์ตัวนี้ถูกทาด้วยสีแดงจนจทั่วลิฟต์เพื่ออำพรางรอยเลือดทั้งหมด จนลิฟต์ตัวนั้นได้รับฉายาว่าลิฟต์แดง และวิญญาณของนักศึกษาเหล่านั้นก็วนเวียนอยู่ภายในตัวลิฟต์กระทั่งถึงปัจจุบัน
ภายหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านไป ก็ได้มีเรื่องเล่าถึงนักศึกษาที่ใช้ลิฟต์ตัวนี้ในเวลาค่ำคืน ก็มักจะพบกับเหตุการณ์ประหลาด เช่น ลิฟต์หยุดในชั้นที่ไม่มีคน ได้พบกับผู้ร่วมโดยสารที่ร่างเปลี่ยนเป็นโชกไปด้วยเลือดภายในพริบตา น้ำหนักในลิฟต์เกินแบบไม่ทราบสาเหตุทั้งๆที่มีคนอยู่ไม่กี่คน หรือเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นเป้าหมายก็จะพบกับภาพเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเหตุตุลาวิปโยคนั้น
ตัวอย่างเรื่องเล่าจากผู้พบเห็น
"เอ" น.ส.เอนริณ ธนาเดชาวุฒิ นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 เล่าว่า ตอนเย็นๆ จะไม่มีใครกล้าขึ้นลิฟต์แดงคนเดียว เพราะลิฟต์แดงขึ้นชื่อว่าหลอนมาก
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เพื่อนของดิฉันขึ้นลิฟต์กันแค่ 2 คน แต่ลิฟต์กลับร้องเตือนว่าน้ำหนักเกิน ประตูไม่ยอมปิด ร้องอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุด น่ากลัวมาก และในช่วงตอนเย็นจะไม่มีใครกล้าเดินผ่านลิฟต์แดงเลย ยิ่งตอนที่ประตูลิฟต์เปิดค้างไว้จะไม่มีใครกล้ามองเข้าไปเพราะเคยมีคนเห็นภาพศพที่เต็มไปด้วยกองเลือดนอนทับๆ กันอยู่ในลิฟต์เป็นตั้งๆ ได้ยินแล้วเสียวสันหลังมาก