Ruminal acidosis is a common metabo

Ruminal acidosis is a common metabolic disorder mainly found in high producing dairy herds and beef cattle fed high
concentrate diets (Nagaraja and Titgemeyer, 2007) and which has important economic as well as welfare implications,
such as reduced feed intake and performance, laminitis and liver abscesses. Several reviews on ruminal acidosis have been
recently published (Krause and Oetzel, 2006; Calsamiglia et al., 2012; Gonzalez et al., 2012) but the causes of negative effects
in the rumen are still unclear. The most widely used index of acidosis is rumen pH; thus, a pH below 5.0 is considered as
acute acidosis, whereas a pH range of 5.0 to 5.5-5.6 is regarded as subacute ruminal acidosis – SARA – (Owens et al., 1998;
Krause and Oetzel, 2006), also characterised by a total volatile fatty acids (VFA) concentration above 150 mmol/L (Nagaraja
and Titgemeyer, 2007). Time of pH below optimal values is also an important factor to be considered (Cooper et al., 1999)
even though Cerrato-Sánchez et al. (2007) have shown in vitro that the effect of pH on rumen fermentation appeared to take
place as soon as the pH starts to become suboptimal. Nevertheless, Calsamiglia et al. (2012) proposed that acidosis may be
caused by the combined effects of pH and changes in the microbial profile related to the type of diet. Streptococcus bovis has
been associated with the triggering of the acute form of this syndrome (Russell and Hino, 1985) and it has been described
as the main lactic acid producer in acidosis conditions in vitro (Marounek and Bartos, 1987). However, its concentration in
the rumen of cattle fed high-concentrate diets is generally very low (Nagaraja and Titgemeyer, 2007), suggesting that other
microorganisms may also be involved in the subacute form of acidosis. In contrast, Megasphaera elsdenii and Selenomonas
ruminantium are known to be the main rumen lactic acid utilizers (Counotte et al., 1981), although the former appears to
play a more relevant role in preventing acidosis because of its higher acid tolerance (Therion et al., 1982). Among other
rumen bacteria species, Butyrivibrio fibrisolvens is considered an alternative starch utilizer to S. bovis (Klieve et al., 2003),
whereas Prevotella ruminicola may affect starch fermentation through intracellular storage in form of glycogen (Lou et al.,
1997

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Ruminal acidosis เป็นโรคเผาผลาญทั่วไปส่วนใหญ่พบในฝูงโคนม producing สูงและเนื้อวัวที่เลี้ยงสูงอาหารข้น (Nagaraja และ Titgemeyer, 2007) และที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและผลกระทบของสวัสดิการเช่นลดปริมาณอาหาร และประสิทธิภาพ laminitis และให้ฝีที่ตับ รีวิวต่าง ๆ บน ruminal acidosis ได้เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ (Krause และ Oetzel, 2006 Calsamiglia et al., 2012 Gonzalez et al., 2012) แต่สาเหตุของผลกระทบเชิงลบในการต่อจะยังคงชัดเจน ดัชนีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายของ acidosis เป็น pH ต่อ ดังนั้น มี pH ต่ำกว่า 5.0 ถือว่าเป็นacidosis เฉียบพลัน ใน ขณะที่ช่วง pH 5.0 ถึง 5.5 - 5.6 ถือเป็นกึ่ง ruminal acidosis –ซาร่า – (Owens et al., 1998Krause และ Oetzel, 2006), ยังรนีรวมระเหยกรดไขมัน (VFA) เข้มข้นเหนือ 150 mmol/L (Nagarajaก Titgemeyer, 2007) เวลาที่ pH ต่ำกว่าค่าที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อพิจารณา (คูเปอร์ et al., 1999)แม้ Sánchez Cerrato et al. (2007) แสดงให้เห็นการเพาะเลี้ยงที่ปรากฏผลของ pH ต่อหมักจะpH เริ่มจะกลายเป็นสภาพ อย่างไรก็ตาม Calsamiglia et al. (2012) เสนอ acidosis ที่อาจเกิดจากผลรวมของค่า pH และการเปลี่ยนแปลงในโพรไฟล์จุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับชนิดของอาหาร บริษัทอุณหภูมิได้การเชื่อมโยงกับการเรียกกลุ่มอาการนี้ (รัสเซลและฮีโน่ 1985) แบบเฉียบพลัน และการอธิบายเป็นกรดแลคติหลัก โปรดิวเซอร์ใน acidosis เงื่อนไขใน (Marounek และ Bartos, 1987) อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นในต่อของโคได้รับอาหารที่เข้มข้นสูงเป็นต่ำมากโดยทั่วไป (Nagaraja และ Titgemeyer, 2007), แนะนำที่อื่นจุลินทรีย์ยังอาจเกี่ยวข้องในรูปกึ่งของ acidosis ในความคมชัด Megasphaera elsdenii และ Selenomonasruminantium รับว่า การต่อหลักกรด utilizers (Counotte et al., 1981), แม้ว่าเดิมปรากฏมีบทบาทเกี่ยวข้องในการป้องกัน acidosis เนื่องจากความสูงกรดค่าเผื่อ (Therion et al., 1982) อื่น ๆต่อแบคทีเรียชนิด Butyrivibrio fibrisolvens ถือว่าเป็นการ utilizer แป้งทดแทนกับบริษัท S. (Klieve et al., 2003),ในขณะที่ Prevotella ruminicola อาจมีผลกระทบต่อการหมักแป้งผ่าน intracellular เก็บในรูปแบบของไกลโคเจน (Lou et al.,ปี 1997

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดิสก์ในกระเพาะรูเมนเป็นความผิดปกติของการเผาผลาญที่พบส่วนใหญ่พบในฝูงโคนมการผลิตสูงและเนื้อวัวที่เลี้ยงสูงอาหารข้น (Nagaraja และ Titgemeyer 2007) และที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับผลกระทบสวัสดิการเช่นการกินอาหารลดลงและผลการดำเนินงานlaminitis และตับ ฝี ความคิดเห็นหลายดิสก์ในกระเพาะรูเมนที่ได้รับการตีพิมพ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ (กรอสและ Oetzel 2006; Calsamiglia et al, 2012;. กอนซาเล et al, 2012). แต่สาเหตุของการเกิดผลกระทบเชิงลบในกระเพาะรูเมนยังไม่ชัดเจน ดัชนีใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดของดิสก์เป็นกระเพาะพีเอช; ทำให้ค่า pH ดังต่อไปนี้ 5.0 ถือเป็นดิสก์เฉียบพลันในขณะที่ช่วงค่าpH 5.0 5.5-5.6 ถือได้ว่าเป็นดิสก์ในกระเพาะรูเมนกึ่งเฉียบพลัน - ซาร่า - (Owens, et al, 1998;. กรอสและ Oetzel, 2006) นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วย กรดไขมันระเหยรวม (VFA) ความเข้มข้นดังกล่าวข้างต้น 150 มิลลิโมล / ลิตร (Nagaraja และ Titgemeyer 2007) เวลาค่า pH ด้านล่างค่าที่ดีที่สุดยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพิจารณา (Cooper et al., 1999) แม้ว่า Cerrato-Sánchez et al, (2007) ได้แสดงให้เห็นในหลอดทดลองที่มีผลของค่าความเป็นกรดในกระเพาะหมักที่ปรากฏที่จะใช้สถานที่ที่เร็วที่สุดเท่าที่พีเอชเริ่มที่จะกลายเป็นก่อให้เกิดผลลัพธ์ อย่างไรก็ตาม Calsamiglia et al, (2012) เสนอว่าดิสก์อาจจะเกิดจากผลรวมของค่า pH และการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดของจุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับประเภทของอาหาร Streptococcus bovis ได้รับการเชื่อมโยงกับวิกฤติในรูปแบบเฉียบพลันของโรคนี้(รัสเซลและ Hino, 1985) และจะได้รับการอธิบายเป็นผู้ผลิตกรดแลคติกที่สำคัญในสภาพดิสก์ในหลอดทดลอง(Marounek และ Bartos, 1987) แต่ความเข้มข้นในกระเพาะรูเมนของวัวที่เลี้ยงอาหารเข้มข้นสูงโดยทั่วไปเป็นที่ต่ำมาก (Nagaraja และ Titgemeyer 2007) ชี้ให้เห็นว่าคนอื่น ๆ จุลินทรีย์อาจจะมีส่วนร่วมในรูปแบบกึ่งเฉียบพลันของดิสก์ ในทางตรงกันข้าม Megasphaera elsdenii และ Selenomonas ruminantium ที่รู้จักกันเป็นหลักกระเพาะใช้บริการกรดแลคติก (Counotte et al., 1981) แม้ว่าจะปรากฏขึ้นในอดีตที่จะมีบทบาทที่เกี่ยวข้องมากขึ้นในการป้องกันภาวะเลือดเป็นกรดเพราะความอดทนกรดที่สูงขึ้น(Therion et al, ., 1982) ในหมู่อื่น ๆสายพันธุ์แบคทีเรียในกระเพาะรูเมน, Butyrivibrio fibrisolvens ถือว่าเป็น utilizer แป้งทางเลือกที่จะ bovis เอส (Klieve et al., 2003) ในขณะที่ Prevotella ruminicola อาจมีผลต่อการหมักแป้งที่ผ่านการจัดเก็บข้อมูลภายในเซลล์ในรูปแบบของไกลโคเจน (ลู et al., 1997

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และระดับเป็นสามัญการเผาผลาญอาหารโรคส่วนใหญ่ที่พบในการผลิตโคนมฝูงโคเนื้อสูงและอาหารข้นสูง
( nagaraja และ titgemeyer , 2007 ) และที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสวัสดิการสำคัญ
เช่น ลดปริมาณอาหาร และ ประสิทธิภาพ ลามิไนทิสและฝีที่ตับ ความคิดเห็นต่าง ๆในกระเพาะ ) ได้รับการเผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ และ oetzel
( กรอส , 2006 ;calsamiglia et al . , 2012 ; กอนซาเลซ et al . , 2012 ) แต่สาเหตุของผลเชิงลบในอาหารจะยังคงไม่ชัดเจน ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายดัชนี ) เป็นกระเพาะพีเอช ; ดังนั้น , pH ต่ำกว่า 5.0 ถือเป็น
) เฉียบพลัน ในขณะที่ pH ในช่วง 5.0 5.5-5.6 ถือเป็นกึ่งเฉียบพลัน ( ซาร่า ) และภาวะเลือดเป็นกรด ( Owens et al . , 1998 ;
เคราส์ และ oetzel , 2006 )นอกจากนี้ ลักษณะโดยรวมเป็นกรดไขมันที่ระเหยได้ ( ง่าย ) ที่ความเข้มข้นสูงกว่า 150 มิลลิโมล / ลิตร ( nagaraja
และ titgemeyer , 2007 ) เวลาที่เหมาะสมคือ ค่า pH ด้านล่างยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะได้รับการพิจารณา ( Cooper et al . , 1999 )
ถึงแม้ว่า cerrato-s . kgm nchez et al . ( 2550 ) ได้แสดงให้เห็นในหลอดทดลองที่ผลของ pH ต่อกระบวนการหมักมาใช้
เร็ว pH เริ่มกลายเป็น suboptimal .อย่างไรก็ตาม calsamiglia et al . ( 2012 ) เสนอว่า ) อาจจะเกิดจากผลของ
รวม และการเปลี่ยนแปลงในโปรไฟล์ของจุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้องกับชนิดของอาหาร บ bovis ได้
ได้เกี่ยวข้องกับเรียกแบบฟอร์มเฉียบพลันของโรคนี้ ( รัสเซลและฮีโน่ , 1985 ) และได้รับการอธิบาย
เป็นหลัก กรดแลคติกที่ผลิตในภาวะกรดในหลอดทดลอง ( marounek และบาร์โตส , 1987 ) อย่างไรก็ตาม มีความเข้มข้นในกระเพาะรูเมนของโค
อาหารข้นสูงโดยทั่วไปจะต่ำมาก ( nagaraja และ titgemeyer , 2007 ) แนะนำว่า จุลินทรีย์อื่นๆ
อาจจะมีส่วนร่วมในรูปแบบกึ่งเฉียบพลันของกรด . ในทางตรงกันข้าม megasphaera elsdenii selenomonas
และruminantium เป็นที่รู้จักกันเป็นอาหารหลัก utilizers กรดแลคติก ( counotte et al . , 1981 ) และถึงแม้ว่าอดีตปรากฏ
มีบทบาทเกี่ยวข้องมากขึ้นในการป้องกันภาวะเลือดเป็นกรด เพราะกรดที่สูงขึ้นของความอดทน ( เธเรียน et al . , 1982 ) ในหมู่อื่น ๆ ทั้งหมด butyrivibrio
แบคทีเรียชนิด fibrisolvens ถือเป็นทางเลือกแป้ง utilizer เอส bovis ( klieve et al . , 2003 ) ,
ส่วน prevotella ruminicola อาจมีผลต่อการหมักแป้งผ่านการจัดเก็บในรูปของไกลโคเจน ( ลู et al . ,
1997