boring or even more distant locatio

boring or even more distant locations can be as important
as the conditions at the location itself.
Land-use and land-cover change are the result of
many interacting processes. Each of these processes
operates over a range of scales in space and time. These
processes are driven by one or more of these variables
that influence the actions of the agents of land-use and
cover change involved. These variables are often referred
to as underlying driving forces which underpin
the proximate causes of land-use change, such as wood
extraction or agricultural expansion (Geist and Lambin
2001). These driving factors include demographic factors
(e.g., population pressure), economic factors (e.g.,
economic growth), technological factors, policy and
institutional factors, cultural factors, and biophysical
factors (Turner and others 1995, Kaimowitz and Angelsen
1998). These factors influence land-use change
in different ways. Some of these factors directly influence
the rate and quantity of land-use change, e.g. the
amount of forest cleared by new incoming migrants.
Other factors determine the location of land-use
change, e.g. the suitability of the soils for agricultural
land use. Especially the biophysical factors do pose
constraints to land-use change at certain locations,
leading to spatially differentiated pathways of change. It
is not possible to classify all factors in groups that either
influence the rate or location of land-use change. In
some cases the same driving factor has both an influence
on the quantity of land-use change as well as on
the location of land-use change. Population pressure is
often an important driving factor of land-use conversions
(Rudel and Roper 1997). At the same time it is the
relative population pressure that determines which
land-use changes are taking place at a certain location.
Intensively cultivated arable lands are commonly situated
at a limited distance from the villages while more
extensively managed grasslands are often found at a
larger distance from population concentrations, a relation
that can be explained by labor intensity, transport
costs, and the quality of the products (Von Thu¨nen
1966). The determination of the driving factors of land
use changes is often problematic and an issue of discussion
(Lambin and others 2001). There is no unifying
theory that includes all processes relevant to landuse
change. Reviews of case studies show that it is not
possible to simply relate land-use change to population
growth, poverty, and infrastructure. Rather, the interplay
of several proximate as well as underlying factors
drive land-use change in a synergetic way with large
variations caused by location specific conditions
(Lambin and others 2001, Geist and Lambin 2001). In
regional modeling we often need to rely on poor data
describing this complexity. Instead of using the underlying
driving factors it is needed to use proximate variables
that can represent the underlying driving factors.
Especially for factors that are important in determining
the location of change it is essential that the factor can
be mapped quantitatively, representing its spatial variation.
The causality between the underlying driving
factors and the (proximate) factors used in modeling
(in this paper, also

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สถานน่าเบื่อ หรือไกลยิ่งควรให้ความสำคัญเป็นเงื่อนไขที่ตัวเองเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและครอบคลุมที่ดินเป็นผลกระบวนการ interacting หลายทาง แต่ละขั้นตอนเหล่านี้ทำงานช่วงสเกลเวลา เหล่านี้กระบวนขับเคลื่อน ด้วยอย่างน้อยหนึ่งตัวแปรเหล่านี้ที่มีอิทธิพลต่อการกระทำของตัวแทนการใช้ที่ดิน และครอบคลุมการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้อง ตัวแปรเหล่านี้มักเรียกกันถึงขับรถอยู่ภายใต้กองกำลังที่หนุนฟอร์ดที่มีสาเหตุของการใช้ที่ดินเปลี่ยนแปลง เช่นไม้เคียงแยกหรือขยายเกษตร (Geist และ Lambin2001) การขับขี่ปัจจัยได้แก่ปัจจัยประชากร(เช่น ประชากรความดัน), เศรษฐกิจปัจจัย (เช่นเติบโตทางเศรษฐกิจ), ปัจจัยเทคโนโลยี นโยบาย และสถาบันปัจจัย ปัจจัยทางวัฒนธรรม และ biophysicalปัจจัย (Turner และอื่น ๆ 1995, Kaimowitz และ Angelsen1998) นั้นปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินในลักษณะต่าง ๆ บางส่วนของปัจจัยเหล่านี้มีผลโดยตรงอัตราและปริมาณการใช้ที่ดินเปลี่ยนแปลง เช่นการจำนวนป่าล้าง โดยอพยพเข้ามาใหม่ปัจจัยอื่น ๆ ที่กำหนดที่ตั้งของที่ดินใช้เปลี่ยนแปลง เช่นความเหมาะสมของดินเนื้อปูนสำหรับการเกษตรที่ดินใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัย biophysical ก่อให้เกิดข้อจำกัดการใช้ที่ดินเปลี่ยนบางตำแหน่งนำไปสู่ spatially การณ์หลักของการเปลี่ยนแปลง มันไม่สามารถจัดประเภทปัจจัยทั้งหมดในกลุ่มที่หนึ่งมีอิทธิพลต่ออัตราหรือตำแหน่งของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ในบางกรณีขับเดียวกันปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อทั้งสองปริมาณของการเปลี่ยนแปลงที่ดินใช้ณเช่นสถานที่ตั้งของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ประชากรความดันเป็นมักขับปัจจัยสำคัญของการใช้ที่ดินแปลง(Rudel และ Roper 1997) ขณะเดียวกัน ก็เป็นการประชากรที่สัมพันธ์กับความดันที่กำหนดซึ่งเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินจะมีสถานที่ตั้งแน่นอนโดยทั่วไปอยู่ดินแดนเพาะปลูกปลูก intensivelyในระยะทางจำกัดจากหมู่บ้านในขณะที่เพิ่มเติมมักพบ grasslands อย่างกว้างขวางมีการจัดการที่เป็นระยะทางขนาดใหญ่จากความเข้มข้นของประชากร ความสัมพันธ์ที่สามารถอธิบายได้ โดยความเข้มของแรงงาน ขนส่งต้นทุน และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ (ฟอน Thu¨nen1966) กำหนดปัจจัยขับของที่ดินใช้การเปลี่ยนแปลงมักจะเป็นปัญหา และต้อง การออกไปของการสนทนา(Lambin และผู้อื่น 2001) มีความสามัคคีไม่ทฤษฎีที่รวมกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ landuseเปลี่ยนแปลง รีวิวดูกรณีศึกษาที่ไม่สามารถเชื่อมโยงเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินประชากรเพียงเจริญเติบโต ความยากจน และโครงสร้างพื้นฐาน ค่อนข้าง ล้อเคียงเช่นเดียวกับปัจจัยพื้นฐานหลายชนิดเปลี่ยนที่ดินใช้ไดรฟ์แบบ synergetic มีขนาดใหญ่รูปแบบที่เกิดจากเงื่อนไขเฉพาะตำแหน่ง(Lambin และผู้อื่น 2001, Geist และ Lambin 2001) ในสร้างโมเดลภูมิภาคที่เรามักจะต้องอาศัยข้อมูลที่ดีอธิบายความซับซ้อน แทนที่จะใช้ต้นแบบปัจจัยที่ต้องการใช้ตัวแปรเคียงขับรถที่สามารถแสดงถึงปัจจัยขับรถต้นแบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปัจจัยที่มีความสำคัญในการกำหนดตำแหน่งของมันเป็นสิ่งจำเป็นปัจจัยสามารถเปลี่ยนแปลงสามารถแม็ป quantitatively แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่Causality ระหว่างขับรถต้นแบบปัจจัยและปัจจัย (เคียง) ที่ใช้ในการสร้างโมเดล(ในเอกสารนี้ ยัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สถานที่ที่น่าเบื่อหรือแม้กระทั่งที่ห่างไกลมากขึ้นอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญ
เป็นเงื่อนไขที่สถานที่ของตัวเอง.
การใช้ที่ดินและการเปลี่ยนแปลงที่ดินปกเป็นผลมาจาก
กระบวนการปฏิสัมพันธ์หลาย แต่ละกระบวนการเหล่านี้
ดำเนินการในช่วงของเครื่องชั่งในพื้นที่และเวลา เหล่านี้
กระบวนการจะขับเคลื่อนด้วยหนึ่งหรือมากกว่าของตัวแปรเหล่านี้
ที่มีอิทธิพลต่อการกระทำของตัวแทนของการใช้ที่ดินและ
การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับการปก ตัวแปรเหล่านี้มักจะถูกเรียก
ว่าเป็นแรงผลักดันพื้นฐานที่หนุน
สาเหตุใกล้เคียงของการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเช่นไม้
สกัดหรือการขยายตัวทางการเกษตร (จิตและ Lambin
2001) เหล่านี้ปัจจัยผลักดันรวมถึงปัจจัยทางด้านประชากรศาสตร์
(เช่นความดันประชากร) ปัจจัยทางเศรษฐกิจ (เช่น
การเติบโตทางเศรษฐกิจ) ปัจจัยทางเทคโนโลยีนโยบายและ
ปัจจัยสถาบันปัจจัยทางวัฒนธรรมและชีวฟิสิกส์
ปัจจัย (เทอร์เนอและอื่น ๆ ปี 1995 Kaimowitz และ Angelsen
1998) ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน
ในรูปแบบที่แตกต่างกัน บางส่วนของปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลต่อโดยตรง
อัตราและปริมาณของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินเช่น
ปริมาณของป่าล้างโดยแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาใหม่.
ปัจจัยอื่น ๆ ที่กำหนดตำแหน่งของการใช้ที่ดิน
การเปลี่ยนแปลงเช่นความเหมาะสมของดินสำหรับการเกษตร
การใช้ที่ดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยชีวฟิสิกส์ทำก่อให้เกิด
ข้อ จำกัด ในการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินในสถานที่บางอย่าง
ที่นำไปสู่ทางเดินที่แตกต่างของการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ มัน
เป็นไปไม่ได้ที่จะจำแนกประเภทปัจจัยทั้งหมดในกลุ่มที่อาจ
มีผลต่ออัตราการหรือสถานที่ของการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ใน
บางกรณีปัจจัยผลักดันเดียวกันมีทั้งอิทธิพล
กับปริมาณของการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเช่นเดียวกับ
สถานที่ตั้งของการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ความดันประชากร
มักจะปัจจัยผลักดันสำคัญของการแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน
(Rudel และโรเพอร์ 1997) ในขณะเดียวกันมันก็เป็น
ความดันประชากรญาติที่กำหนดซึ่ง
การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เกิดขึ้นในสถานที่บาง.
อย่างหนาแน่นที่ปลูกพื้นที่การเพาะปลูกอยู่ทั่วไป
ในระยะทางที่ จำกัด จากหมู่บ้านในขณะที่
ทุ่งหญ้าที่มีการจัดการอย่างกว้างขวางมักจะพบได้ที่
ขนาดใหญ่ ระยะทางจากความเข้มข้นของประชากร, ความสัมพันธ์
ที่สามารถอธิบายได้ด้วยความเข้มแรงงาน, การขนส่ง
ค่าใช้จ่ายและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ (Von Thünen
1966) ความมุ่งมั่นของปัจจัยผลักดันของที่ดิน
เปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์มักจะมีปัญหาและปัญหาของการสนทนา
(Lambin และอื่น ๆ 2001) ไม่มีการรวมกันเป็น
ทฤษฎีที่ว่ารวมถึงกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดิน
การเปลี่ยนแปลง ความคิดเห็นของกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้เป็น
ไปได้ที่จะเกี่ยวข้องเพียงการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินของประชากร
การเจริญเติบโตของความยากจนและโครงสร้างพื้นฐาน แต่อิทธิพลซึ่งกันและกัน
ของใกล้เคียงหลายเช่นเดียวกับปัจจัยพื้นฐานที่
ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในทางที่ถกกับขนาดใหญ่
รูปแบบที่เกิดจากการตั้งเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจง
(Lambin และอื่น ๆ ปี 2001 จิตและ Lambin 2001) ใน
การสร้างแบบจำลองในภูมิภาคเรามักจะต้องอาศัยข้อมูลที่น่าสงสาร
อธิบายความซับซ้อนนี้ แทนการใช้พื้นฐาน
ปัจจัยขับรถมันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะใช้ตัวแปรที่ใกล้เคียง
ที่สามารถเป็นตัวแทนของปัจจัยพื้นฐานการขับรถ.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปัจจัยที่มีความสำคัญในการกำหนด
สถานที่ตั้งของการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญที่ปัจจัยที่สามารถ
แมปเชิงปริมาณที่เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ของตน
เวรกรรมระหว่างการขับรถภายใต้
ปัจจัยและ (ใกล้เคียง) ปัจจัยที่ใช้ในการสร้างแบบจำลอง
(ในบทความนี้ยัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น่าเบื่อ หรือแม้ไกลมากขึ้นสถานที่สามารถเป็นสิ่งสำคัญ
เป็นเงื่อนไขที่สถานที่ที่ตัวเอง การใช้ที่ดินและการเปลี่ยนแปลงสิ่งปกคลุมดิน

หลายโต้ตอบเป็นผลของกระบวนการ แต่ละกระบวนการเหล่านี้ทำงาน
ช่วงของเครื่องชั่งในพื้นที่และเวลา กระบวนการเหล่านี้
จะขับเคลื่อนโดยหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งของตัวแปรเหล่านี้
ที่มีอิทธิพลต่อการกระทำของตัวแทนของการใช้ที่ดินและการเปลี่ยนแปลง
ครอบคลุมเกี่ยวข้องตัวแปรเหล่านี้มักจะถูกเรียกว่าเป็นแรงขับเคลื่อน ซึ่งเป็นต้น

สาเหตุของการหนุนนำไปเปลี่ยน เช่น การสกัดไม้
หรือเกษตรขยายตัว ( ไก และ lambin
2001 ) ได้แก่ ปัจจัยด้านประชากร ปัจจัยเหล่านี้ทำให้
( เช่นประชากรความดัน ) , ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ( เช่น
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ) , ปัจจัยด้านเทคโนโลยี นโยบาย และปัจจัยด้าน
สถาบันวัฒนธรรมและปัจจัยทางชีวกายภาพ
( Turner และอื่น ๆ kaimowitz angelsen
1995 และ 1998 ) ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
ในวิธีที่แตกต่างกัน บางส่วนของปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลต่อ
อัตราและปริมาณของการเปลี่ยนแปลง เช่น ปริมาณของป่าไม้
ล้างโดยผู้อพยพที่เข้ามาใหม่
ปัจจัยอื่น ๆ ตรวจสอบตำแหน่งของการใช้ที่ดิน
เปลี่ยน เช่น ความเหมาะสมของดิน การใช้ที่ดิน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจัยชีวกายภาพทำข้อจำกัดเพื่อเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินบริเวณท่า

เปลี่ยนแน่นอน นำไปสู่ความแตกต่างทางเปลี่ยน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแบ่งปัจจัย

อิทธิพลในกลุ่มที่ให้อัตราหรือที่ตั้งของการเปลี่ยนแปลง ในบางกรณีปัจจัยการขับรถเหมือนกัน

มีทั้งอิทธิพลต่อปริมาณการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินรวมทั้ง
สถานที่ตั้งของการเปลี่ยนแปลง ความดันประชากร
มักจะสำคัญปัจจัยผลักดันของการแปลง
( รูเดิล และ โรเปอร์ ปี 2540 ) ในเวลาเดียวกันมันเป็นญาติประชากรความดันที่กำหนด

การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินมีการวางในสถานที่หนึ่ง ที่ดินเพาะปลูก
ปลูกอย่างมักตั้งอยู่
ที่ระยะทางจากหมู่บ้านในขณะที่มากขึ้น
จำกัดการบริหารจัดการอย่างกว้างขวางทุ่งหญ้ามักจะพบใน
ขนาดใหญ่ห่างจากความเข้มข้นของประชากร , ความสัมพันธ์ที่สามารถอธิบายได้ด้วย

ความเข้มแรงงาน ต้นทุนการขนส่ง และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ( ฟอนทูตั้งเณร
1966 ) ปณิธานของการขับขี่ปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน
มักจะเป็นปัญหาและปัญหาของการอภิปราย
( lambin และผู้อื่น 2001 ) ไม่มีการรวม
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดิน
รวมถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลง รีวิวของกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ

การเจริญเติบโตของประชากร ความยากจน และโครงสร้างพื้นฐาน มากกว่า , มีอิทธิพล
หลายใกล้เคียง ตลอดจนถึงปัจจัยพื้นฐาน
ขับรถการเปลี่ยนแปลงในทางใหญ่ ซึ่งทำงานร่วมกันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสถานที่เฉพาะเงื่อนไข

( lambin และคนอื่น ๆ ปี 2001 และ ไก lambin 2001 ) ใน
แบบภูมิภาคเรามักจะต้องพึ่งพาข้อมูลคนจน
อธิบายถึงความซับซ้อนนี้ แทนการใช้ต้นแบบ
ปัจจัยการขับรถมันต้องใช้วิเคราะห์ตัวแปรที่สามารถแสดงถึงการขับรถ

โดยเฉพาะปัจจัย ปัจจัยที่สำคัญในการกำหนดสถานที่ตั้งของ
เปลี่ยนเป็นสิ่งจำเป็นที่ปัจจัยที่สามารถ
สามารถแมปโดยเป็นตัวแทนของพื้นที่ต่างๆ ความสัมพันธ์ระหว่างขับรถ

) และปัจจัย ( โดยประมาณ ) ปัจจัยที่ใช้ในการสร้างแบบจำลอง
( ในกระดาษนี้ยัง