The main benefit of "".equals(s) is

The main benefit of "".equals(s) is you don't need the null check (equals will check its argument and return false if it's null), which you seem to not care about. If you're not worried about s being null (or are otherwise checking for it), I would definitely use s.isEmpty(); it shows exactly what you're checking, you care whether or not s is empty, not whether it equals the empty string

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประโยชน์หลักของ "" .equals(s) คือ คุณไม่จำเป็นการตรวจสอบค่า null (เท่ากับจะตรวจสอบอาร์กิวเมนต์ และกลับเท็จถ้าเป็น null), ซึ่งดูเหมือนไม่สนใจ ถ้าคุณไม่ได้กังวลเกี่ยวกับ s เป็น null (หรือกำลังมิฉะนั้นตรวจสอบมัน), แน่นอนฉันจะใช้ s.isEmpty() มันแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่คุณกำลังตรวจสอบ คุณดูแลหรือไม่ s เปล่า ไม่ว่าเท่ากับสตริงว่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประโยชน์หลักของ "" .equals (s) คุณไม่จำเป็นต้องตรวจสอบเป็นโมฆะ (เท่ากับจะตรวจสอบหลักฐานและกลับเท็จถ้ามัน null) ซึ่งคุณดูเหมือนจะไม่สนใจเกี่ยวกับ หากคุณไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของ null (หรือมิฉะนั้นจะถูกตรวจสอบได้) แน่นอนฉันจะใช้ s.isEmpty (); มันแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่คุณกำลังตรวจสอบคุณสนใจหรือไม่ s ว่างเปล่าไม่ได้ไม่ว่าจะมีค่าเท่ากับสตริงที่ว่างเปล่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประโยชน์หลักของ " " มีค่าเท่ากับ ( s ) คุณไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ null ( เท่ากับจะตรวจสอบอาร์กิวเมนต์และกลับเท็จถ้าเป็น null ) ซึ่งดูเหมือนคุณจะไม่ได้สนใจ ถ้าคุณไม่กังวลเรื่องของการบอกเลิก ( หรือมิฉะนั้นจะตรวจสอบได้ ) ผมจะใช้ isempty() s ; มันแสดงให้เห็นสิ่งที่คุณกำลังตรวจสอบ คุณดูแลหรือไม่ s ว่างเปล่า ไม่ว่าจะเป็นสตริงที่ว่างเปล่า