Aim: The study aimed at assessing a

Aim: The study aimed at assessing awareness about their own orthodontic treatment need and their perceptions about the dental attractiveness in school children. Subjects and Methods: The random sample of 200 school children (126 boys, 74 girls), aged 9-16 years was selected and categorized into eight different groups according to their occlusion after the dental check-up. Their own orthodontic treatment need and perception of the dental attractiveness was assessed by using questionnaire and was scored by showing eight intraoral frontal photographs and assessing their responses. Statistical Analysis Used: Chi-square test. Results: About 86% of school children considered well-aligned teeth important for overall facial appearance. School children scored photos having severe crowding (95.5%), highly placed canine (86.5%), and Class II Division 2 (70.5%) as most unattractive. 69.5% students did not feel the need of orthodontic treatment and 14.5% students did not know about orthodontic treatment. Conclusion: The study concluded that after showing positive perception toward dental attractiveness, when similar malocclusion was observed in them, they did not feel the need for orthodontic treatment due to lack of awareness. The study emphasizes the need to increase awareness especially among school children about different malocclusion and importance of orthodontic treatment as it is advantageous in preventing further complications.

Keywords: Awareness, orthodontic treatment need, perceptions of dental attractiveness, school children


How to cite this article:
Sheikh S, Nene S, Kalia A, Gupta G, Mehta K, Mirdehghan N. Awareness of orthodontic treatment need and perceptions of dental attractiveness among school children. Univ Res J Dent 2015;5:63-7

How to cite this URL:
Sheikh S, Nene S, Kalia A, Gupta G, Mehta K, Mirdehghan N. Awareness of orthodontic treatment need and perceptions of dental attractiveness among school children. Univ Res J Dent [serial online] 2015 [cited 2015 Sep 24];5:63-7. Available from: http://www.urjd.org/text.asp?2015/5/2/63/157727


  Introduction  



Awareness is the state or quality of being aware of something. Need to identify the awareness levels of children with respect to oral health and the orthodontic treatment as children play an important role in inculcating healthy lifestyle practices to last for a lifetime. Further malocclusion complications can be prevented if there is knowledge about orthodontic treatment since the early orthodontic treatment could be advantageous and preadolescents and adolescents would be benefitted. It is important to gain a better understanding of the biopsychosocial aspects of malocclusion and its effect on the quality of life among such individuals, addressing the issue as a public health problem. Malocclusion can further lead to many other dental problems such as dental caries, periodontal problems, temporomandibular joint problems, etc., Most malocclusion cases are still not treated properly due to ignorance of patients, parents, inadequacy of resources, lack of knowledge about malocclusion, and other influencing factors like literacy rate and socioeconomic status. Furthermore, knowledge about age-related patient concerns may guide and assist the orthodontist in educating potential patients and their parents and in providing advice. [1]

Although some do not recognize that they have problems, others believe that they cannot afford or cannot obtain orthodontic treatment. Both perceived need and demand vary with social and cultural conditions, but the most important motivation for orthodontic treatment is usually an improvement in appearance. [2] A variety of social, cultural, psychological, and personal factors influences the perception of dental appearance (Graber and Lucker, 1980; Baldwin, 1980; Grzywacz, 2003; Mugonzibwa et al., 2004). Dissatisfaction with dental appearance is the main factor associated to the decision to undergo orthodontic treatment (Bos et al., 2003). It has been estimated that 80% of orthodontic patients seek services out of a concern for aesthetics rather than for reasons related to health or function (Albino et al., 1981; Brook and Shaw, 1989; Richmond et al., 1995; Tang and So, 1995; Birkeland et al., 1999; de Oliveira and Sheiham, 2004). Thus, an individual's self-perceived dental esthetics affects normative assessments regarding the need for orthodontic treatment (de Oliveira and Sheiham, 2004). [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมาย: การศึกษาเพื่อประเมินการรับรู้เกี่ยวกับตนเองต้องการอุปกรณ์และความเข้าใจเกี่ยวกับศิลปะกรรมในเด็กนักเรียน หัวเรื่องและวิธีการ: เลือกตัวอย่างสุ่มของเด็กนักเรียน 200 (ชาย 126 หญิง 74), อายุ 9-16 ปี และแบ่งเป็น 8 กลุ่มตามสิ่งที่สำคัญหลังจากการตรวจสุขภาพฟันด้วย อุปกรณ์จำเป็นของตนเองและรับรู้ของศิลปะกรรมถูกประเมิน โดยใช้แบบสอบถาม และมีคะแนนแสดงภาพหน้าผาก intraoral แปด และประเมินการตอบสนองของพวกเขา สถิติวิเคราะห์ที่ใช้: การทดสอบ Chi-square ผลลัพธ์: ประมาณ 86% ของเด็กนักเรียนถือว่าฟันจัดตำแหน่งห้องพักจำลักษณะใบหน้าโดยรวม เด็กนักเรียนคะแนนภาพถ่ายมีรุนแรงกครั้ง (95.5%), สูงวางสุนัข (86.5%), และคลาส II หาร 2 (70.5%) เป็นที่สุดว่าขี้เหร่ 69.5% นักเรียนไม่รู้สึกจำเป็นต้องอุปกรณ์ และ 14.5% นักเรียนได้ทราบเกี่ยวกับอุปกรณ์ไม่ สรุป: การศึกษาสรุปว่า หลังแสดงการรับรู้ในเชิงบวกต่อศิลปะกรรม เมื่อ malocclusion คล้ายที่พบในพวกเขา พวกเขาไม่ได้ไม่รู้สึกต้องรักษาเดย์ครบกำหนดเพื่อจิตสำนึก การศึกษาเน้นจำเป็นในการสร้างจิตสำนึกโดยเฉพาะเด็กนักเรียนเกี่ยวกับ malocclusion แตกต่างและความสำคัญของอุปกรณ์ซึ่งเป็นประโยชน์ในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนเพิ่มเติมคำสำคัญ: รับรู้ อุปกรณ์จำเป็น ภาพลักษณ์ของศิลปะกรรม เด็กนักเรียนวิธีการอ้างอิงบทความนี้:ชีค S, Nene S เบดรวม A กุปตา G, Mehta K, Mirdehghan N. ความต้องการอุปกรณ์และแนวของศิลปะกรรมในหมู่เด็กนักเรียน Univ Res J เด็นท์ 2015; 5:63-7วิธีการอ้างอิง URL นี้:ชีค S, Nene S เบดรวม A กุปตา G, Mehta K, Mirdehghan N. ความต้องการอุปกรณ์และแนวของศิลปะกรรมในหมู่เด็กนักเรียน Univ Res J เด็นท์ [ออนไลน์ประจำ] 2015 [อ้างอิง 2015 Sep 24]; 5:63-7 จาก: http://www.urjd.org/text.asp?2015/5/2/63/157727 แนะนำ ความเป็นรัฐหรือคุณภาพของการตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง จำเป็นต้องระบุระดับความรู้ของเด็กเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและรักษาเดย์เป็นเด็กมีบทบาทสำคัญในการ inculcating สุขภาพปฏิบัติการสุดท้ายในชีวิต สามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อน malocclusion ต่อไปถ้ามีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์รักษาเดย์ช่วงสามารถให้ประโยชน์ และจะ benefitted preadolescents และวัยรุ่น เป็นสิ่งสำคัญเพื่อความเข้าใจด้าน biopsychosocial malocclusion และผลของคุณภาพชีวิตในหมู่บุคคลดังกล่าว การแก้ปัญหาออกเป็นปัญหาสาธารณสุข Malocclusion สามารถไปรอหลายฟันปัญหาอื่น ๆ เช่นฟันผุ ปัญหาโรคเหงือก ปัญหาร่วม temporomandibular ฯลฯ malocclusion ใหญ่มียังคงไม่บำบัดอย่างถูกต้องเนื่องจากความไม่รู้ของผู้ป่วย ผู้ปกครอง inadequacy ทรัพยากร ขาดความรู้เกี่ยวกับ malocclusion และอื่น ๆ มีอิทธิพลต่อปัจจัยเช่นวัดอัตราและสถานะของประชากรได้ นอกจากนี้ ความรู้เกี่ยวกับอายุที่เกี่ยวข้องกับความกังวลของผู้ป่วยอาจแนะนำ และช่วยเหลือ orthodontist ให้เกิดผู้ป่วยและครอบครัว และให้คำแนะนำ [1]แม้ว่าบางคนไม่รู้จักว่า พวกเขามีปัญหา ผู้อื่นเชื่อว่า พวกเขาไม่สามารถ หรือไม่สามารถรับอุปกรณ์ เห็นความจำเป็นและความต้องการที่แตกต่างกับสภาพสังคม และวัฒนธรรม แต่แรงจูงใจที่สำคัญที่สุดสำหรับอุปกรณ์มักจะมีการปรับปรุงในลักษณะ [2] ความหลากหลายของปัจจัยทางสังคม วัฒนธรรม จิตวิทยา และส่วนบุคคลมีผลต่อการรับรู้ของลักษณะฟัน (Graber และ Lucker, 1980 บอลด์วิน 1980 Grzywacz, 2003 Mugonzibwa et al., 2004) ความไม่พอใจกับลักษณะฟันเป็นปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจรับรักษาเดย์ (บอสและ al., 2003) มันมีการประมาณว่า 80% ของผู้ป่วยเดย์บริการค้นหาหมดกังวล สำหรับความสวยงามไม่ ใช่เหตุผลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหรือฟังก์ชัน (Albino et al., 1981 บรู๊คและ Shaw, 1989 ริชมอนด์และ al., 1995 ถังและนั้น 1995 Al. ร้อยเอ็ด Birkeland, 1999 de Oliveira ก Sheiham, 2004) ดังนั้น ของแต่ละตนเองมองเห็นสุขภาพผิวพรรณทันตกรรมมีผลต่อการประเมิน normative เกี่ยวกับต้องรักษาเดย์ (de Oliveira และ Sheiham, 2004) [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เล็ง: การศึกษามุ่งเป้าไปที่การประเมินการรับรู้เกี่ยวกับความจำเป็นในการรักษาทันตกรรมจัดฟันของตัวเองและการรับรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับความน่าดึงดูดใจทางทันตกรรมในเด็กนักเรียน วิชาและวิธีการ: กลุ่มตัวอย่างแบบสุ่มของเด็กนักเรียน 200 (126 ชาย 74 หญิง) อายุ 9-16 ปีได้รับการคัดเลือกและจัดหมวดหมู่ออกเป็นแปดกลุ่มที่แตกต่างกันไปตามการบดเคี้ยวของพวกเขาหลังจากที่ทางทันตกรรมตรวจ ความจำเป็นในการจัดฟันของตัวเองและการรับรู้ของความน่าดึงดูดใจทางทันตกรรมได้รับการประเมินโดยใช้แบบสอบถามและได้รับคะแนนโดยการแสดงภาพที่หน้าผากแปดช่องปากและการประเมินการตอบสนองของพวกเขา การวิเคราะห์ทางสถิติที่ใช้ในการทดสอบไคสแควร์ ผลการศึกษา: เกี่ยวกับ 86% ของเด็กนักเรียนพิจารณาฟันดีสอดคล้องสำคัญสำหรับลักษณะใบหน้าโดยรวม เด็กนักเรียนทำคะแนนได้ภาพที่มีความแออัดอย่างรุนแรง (95.5%) วางสุนัขสูง (86.5%) และชั้นที่สองส่วนที่ 2 (70.5%) ในขณะที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด 69.5% ของนักเรียนไม่ได้รู้สึกความต้องการของการจัดฟันและ 14.5% นักเรียนไม่ทราบเกี่ยวกับการรักษาทันตกรรมจัดฟัน สรุป: การศึกษาสรุปได้ว่าหลังจากที่การแสดงการรับรู้ที่ดีต่อความน่าดึงดูดใจทางทันตกรรมเมื่อสบฟันที่คล้ายกันพบในพวกเขาพวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าต้องสำหรับการรักษาทันตกรรมจัดฟันเนื่องจากการขาดความตระหนัก การศึกษาเน้นความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มการรับรู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เด็กนักเรียนเกี่ยวกับการสบฟันที่แตกต่างกันและความสำคัญของการจัดฟันในขณะที่มันเป็นข้อได้เปรียบในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่อไป. คำสำคัญ: การให้ความรู้การรักษาทันตกรรมจัดฟันจำเป็นในการรับรู้ของความน่าดึงดูดทันตกรรมเด็กนักเรียนวิธีการกล่าวถึงในบทความนี้: ชีค S, เน S, Kalia A, แคนด์ G, เมธา K, Mirdehghan เอ็นให้ความรู้ของความจำเป็นในการจัดฟันและการรับรู้ของความน่าดึงดูดทันตกรรมในหมู่เด็กนักเรียน Univ Res J บุ๋ม 2015; 5: 63-7 วิธีการอ้างอิง URL นี้: ชีค S, เน S, Kalia A, แคนด์ G, เมธา K, Mirdehghan เอ็นให้ความรู้ของความจำเป็นในการจัดฟันและการรับรู้ของความน่าดึงดูดทันตกรรมในหมู่เด็กนักเรียน Univ Res J บุ๋ม [ออนไลน์อนุกรม] 2015 [อ้าง 24 กันยายน 2015]; 5: 63-7 ได้จาก: http://www.urjd.org/text.asp?2015/5/2/63/157727   การแนะนำให้ความรู้เป็นรัฐหรือคุณภาพของการตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง ต้องระบุระดับการรับรู้ของเด็กที่เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันเป็นเด็กที่มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังการปฏิบัติวิถีการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดีจะมีอายุการใช้งานตลอดชีวิต ภาวะแทรกซ้อน malocclusion เพิ่มเติมสามารถป้องกันได้ถ้ามีความรู้เกี่ยวกับการจัดฟันตั้งแต่การจัดฟันในช่วงต้นอาจจะเป็นข้อได้เปรียบและ preadolescents และวัยรุ่นจะได้รับประโยชน์ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะได้รับความเข้าใจที่ดีในด้านของ biopsychosocial malocclusion และผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของบุคคลดังกล่าวที่การแก้ไขปัญหาเป็นปัญหาสุขภาพของประชาชน malocclusion ยังสามารถนำไปสู่หลายปัญหาทางทันตกรรมอื่น ๆ เช่นโรคฟันผุปัญหาปริทันต์ปัญหาร่วมกัน temporomandibular ฯลฯ ส่วนใหญ่กรณี malocclusion ยังคงได้รับการรักษาอย่างถูกต้องไม่ได้เพราะความไม่รู้ของผู้ป่วยผู้ปกครองไม่เพียงพอของทรัพยากรขาดความรู้เกี่ยวกับการสบฟัน, และปัจจัยที่มีอิทธิพลอื่น ๆ เช่นอัตราการรู้หนังสือและสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนี้ความรู้เกี่ยวกับความกังวลของผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับอายุอาจจะให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือในการจัดฟันให้ความรู้แก่ผู้ป่วยที่มีศักยภาพและพ่อแม่ของพวกเขาและในการให้คำแนะนำ [1] ถึงแม้ว่าบางคนไม่รับรู้ว่าพวกเขามีปัญหาอื่น ๆ เชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถหรือไม่สามารถรับการรักษาทันตกรรมจัดฟัน ทั้งความจำเป็นในการรับรู้และความต้องการที่แตกต่างกันกับสภาพสังคมและวัฒนธรรม แต่แรงจูงใจที่สำคัญที่สุดสำหรับการจัดฟันมักจะมีการปรับปรุงในลักษณะ [2] ความหลากหลายของสังคมวัฒนธรรมจิตใจและปัจจัยส่วนบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้ของลักษณะทางทันตกรรม (Graber และ Lucker 1980; บอลด์วิน, 1980; Grzywacz 2003. Mugonzibwa, et al, 2004) ความไม่พอใจที่มีลักษณะทางทันตกรรมเป็นปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจที่จะรับการรักษาทันตกรรมจัดฟัน (Bos et al., 2003) มีการประเมินว่า 80% ของผู้ป่วยทันตกรรมจัดฟันแสวงหาบริการจากความกังวลสำหรับความสวยงามมากกว่าด้วยเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหรือฟังก์ชั่น (เผือก et al, 1981;. ห้วยและชอว์ 1989; ริชมอนด์, et al, 1995;. ถังและ ดังนั้น 1995; Birkeland et al, 1999;. de Oliveira และ Sheiham, 2004) ดังนั้นบุคคลของตัวเองรับรู้สุนทรียภาพทางทันตกรรมที่มีผลต่อการประเมินกฎเกณฑ์เกี่ยวกับความจำเป็นในการรักษาทันตกรรมจัดฟัน (de Oliveira และ Sheiham, 2004) [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป้าหมาย : การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการรับรู้เกี่ยวกับความต้องการการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันของตนเอง และการรับรู้เกี่ยวกับความน่าดึงดูดใจทางทันตกรรมในเด็กวัยเรียน กลุ่มตัวอย่างและวิธีการ : กลุ่มตัวอย่างสุ่มจาก 200 โรงเรียนเด็ก ( 126 ชาย , หญิง อายุ 74 ปี มีผล ) ซึ่งแบ่งออกเป็น 8 กลุ่มตามการของพวกเขาหลังจากตรวจฟันตนเองการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันและการรับรู้ความน่าดึงดูดใจทันตกรรมถูกประเมินโดยใช้แบบสอบถามและได้รับคะแนนโดยแสดงแปดฟันด้านหน้าภาพ และการประเมินการตอบสนองของพวกเขา สถิติที่ใช้ทดสอบไคสแควร์ ผล : ประมาณ 86% ของนักเรียนถือว่าชิดดี ฟันที่สำคัญสำหรับลักษณะที่ปรากฏโดยรวมหน้าเด็กโรงเรียนคะแนนภาพถ่ายมีรุนแรงกดดัน ( 95.5 % ) ขอวางสุนัข ( ปฐม % ) และชั้นที่สอง ดิวิชั่น 2 ( 70.5 % ) ที่ขี้เหร่ที่สุด นักเรียนแบบ % ไม่ได้รู้สึกว่าต้องเรียนการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน และ 14.5% ไม่ได้รู้เกี่ยวกับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน . สรุป : จากการศึกษาพบว่า หลังจากแสดงรับรู้ในเชิงบวกต่อฟัน น่าดึงดูดใจเมื่อเปลี่ยนแปลงที่คล้ายกันพบว่าในพวกเขา พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าต้องสำหรับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันเนื่องจากการขาดความตระหนัก ศึกษาถึงความต้องการที่จะเพิ่มความตระหนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เด็กนักเรียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน และความสำคัญของการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันเป็นประโยชน์ในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่อไป

คำสำคัญ : ไหมรู้ ต้องเข้ารับการรักษาทันตกรรมจัดฟันการรับรู้ของฟัน สนใจเรียนเด็ก


วิธีการอ้างอิงบทความนี้ :
ชีค S , เนเน่ , คาเลีย , Gupta กรัมเมธา K , mirdehghan . ความตระหนักของการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันและการรับรู้ของความน่าดึงดูดใจทันตกรรมในเด็กที่โรงเรียน UNIV RES J บุ๋ม 2015 ; 5:63-7

วิธีการอ้างอิง URL นี้ :
ชีค S , เนเน่ , คาเลีย , Gupta กรัมเมธา K , mirdehghan )ความตระหนักและการรับรู้ของผู้ต้องการการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันทันตกรรมในเด็กที่โรงเรียน UNIV RES J บุ๋ม [ Serial ] [ อ้างออนไลน์และทำไม 2015 ก.ย. 24 ] ; 5:63-7 . พร้อมใช้งานจาก : http://www.urjd.org/text.asp เหรอ ? 5 / 5 / 2 / 63 / 157727


  แนะนำรึเปล่า



รู้เป็นรัฐ หรือคุณภาพของการตระหนักถึงบางสิ่งต้องระบุระดับการรับรู้ของเด็กที่มีต่อสุขภาพในช่องปากและการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันเป็นเด็กมีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติเพื่อพัฒนาวิถีชีวิตมีสุขภาพดีเพื่อล่าสุดตลอดชีวิตภาวะแทรกซ้อนที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม สามารถป้องกันได้ หากมีความรู้เกี่ยวกับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันจัดฟันตั้งแต่ต้น อาจจะได้ประโยชน์ และความสัมพันธ์ใกล้ชิดและวัยรุ่นจะได้รับประโยชน์ . มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะได้รับความเข้าใจที่ดีขึ้นของ biopsychosocial ของ malocclusion ลักษณะและผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของบุคคลดังกล่าวแก้ไขปัญหานี้เป็นปัญหาสาธารณสุข ด้านหลังยังสามารถนำไปสู่ปัญหาทางทันตกรรมอื่น ๆอีกมากมาย เช่น ฟันผุ ปัญหาปริทันต์ temporomandibular joint ปัญหา ฯลฯ กรณีเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่จะยังคงไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจากความไม่รู้ของผู้ป่วย ผู้ปกครอง ขาดทรัพยากร ขาดความรู้เกี่ยวกับด้านหลัง ,และมีอิทธิพลต่อปัจจัยเช่นอัตราการรู้หนังสือและสถานภาพทางเศรษฐกิจสังคม ความรู้เกี่ยวกับความกังวลของผู้ป่วยอาจแนะนำและช่วยเหลือทันตแพทย์ในความรู้ศักยภาพผู้ป่วยและผู้ปกครองของพวกเขาในการให้คำแนะนำ [ 1 ]

ถึงแม้ว่าบางคนไม่ตระหนักว่าพวกเขามีปัญหา คนอื่นเชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถหรือไม่ได้รับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน .ทั้งการรับรู้ความต้องการและความต้องการแตกต่างกัน ด้วยเงื่อนไขทางสังคมและวัฒนธรรม แต่แรงจูงใจที่สำคัญที่สุดสำหรับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันมักจะมีการปรับปรุงในลักษณะที่ปรากฏ [ 2 ] ความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรม จิตวิทยา และปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อการรับรู้ลักษณะฟัน ( เกรเบอร์ และลักเคอร์ , 1980 ; Baldwin , 1980 ; grzywacz , 2003 ; mugonzibwa et al . , 2004 )ความไม่พอใจกับลักษณะฟันเป็นหลัก ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการตัดสินใจเข้ารับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน ( บอส et al . , 2003 ) มีการประมาณว่า 80% ของผู้ป่วยทางทันตกรรมจัดฟันแสวงหาบริการของความกังวลสำหรับสุนทรียศาสตร์มากกว่าด้วยเหตุผลด้านสุขภาพหรือฟังก์ชัน ( เผือก et al . , 1981 ; ห้วยและชอว์ , 1989 ; ริชมอนด์ et al . , 1995 ; ถังและดังนั้น , 1995 ; เบิร์กเลินด์ et al . ,2542 ; เดอ โอลิเวียร่า และ sheiham , 2004 ) ดังนั้น ของแต่ละคนด้วยตนเอง การรับรู้ต่อการประเมินมาตรฐานเกี่ยวกับทันตกรรมความงามสำหรับการรักษาทางทันตกรรมจัดฟัน ( เดอ โอลิเวียร่า และ sheiham , 2004 ) [ 2 ]