Dengue has been known for more than

Dengue has been known for more than 200 years. The first dengue viruses were isolated about 50 years ago. Prior to the 1950's, dengue was considered a mild febrile disease, though rare hemorrhagic and fatal cases were known to occur. After that date, the first epidemics of dengue hemorrhagic fever (DHF) appeared in Southeast Asia, and DHF became the most important cause of childhood morbidity and mortality in the region. The emergence of DHF epidemics was first explained by mutations affecting dengue viruses, making them more virulent, but this hypothesis was not retained. Then, the "secondary infection" or "immune enhancement" theory was proposed to explain the increased virulence of dengue viruses when children had a secondary infection. This second hypothesis is still actually favoured. However, observations in Southeast Asia, some Pacific islands, and Americas do not agree with the "secondary infection" hypothesis, which consequently has been modified several times. Recent advances in molecular biology have led to the recognition that some viral strains are more virulent than others. Another hypothesis is the selection of more virulent dengue strains by the new vector Ae. aegypti, replacing the local vector Ae. albopictus, when urbanization and modern transportation increased in Southeast Asia after the last war. Comparisons between epidemics are very difficult, because of the distinction between DHF cases according to WHO criteria and dengue fever (DF) cases with hemorrhages. This distinction has no pathogenic or prognostic grounds, and makes the task of clinicians more difficult. The actual situation in countries facing dengue epidemics makes clear that this disease will continue to be a public health problem for some time to come.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไข้เลือดออกที่รู้จักมากกว่า 200 ปี ไวรัสไข้เลือดออกครั้งแรกได้แยกประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะ 1950's ไข้เลือดออกถือเป็นโรคไข้อ่อน ว่ายากเลือดออก และกรณีร้ายแรงไม่รู้จักเกิดขึ้น หลังวันที่ โรคระบาดครั้งแรกของไข้เลือดออก (DHF) ปรากฏในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ DHF กลายเป็น สาเหตุสำคัญของวัยเด็ก morbidity และตายในภูมิภาค เกิดโรคระบาดของ DHF ถูกอธิบาย โดยการกลายพันธุ์ที่มีผลต่อไวรัสไข้เลือดออก ทำให้พวกเขาเพิ่มเติม virulent ก่อน แต่สมมติฐานนี้ถูกเก็บไว้ไม่ แล้ว "รองติดเชื้อ" หรือ "เพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกัน" ทฤษฎีถูกนำเสนออธิบาย virulence เพิ่มขึ้นของไวรัสไข้เลือดออกเมื่อเด็กมีการติดเชื้อรอง สมมติฐานที่สองนี้ยังคงเป็นจริง favoured อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตุในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะแปซิฟิกบาง และอเมริกาไม่เห็นด้วยกับทฤษฏี "รองเชื้อ" ซึ่งเวลาต่อมา มีการปรับเปลี่ยนหลายครั้ง ความก้าวหน้าล่าสุดในอณูชีววิทยาได้นำไปสู่การรู้บางสายพันธุ์ไวรัส virulent ยิ่งกว่าผู้อื่น สมมติฐานอื่นเป็นตัวเลือกของไข้เลือดออกสายพันธุ์ที่ขึ้น virulent โดยเวกเตอร์ใหม่ Ae aegypti แทนเวกเตอร์ภายใน Ae albopictus เมื่อขนส่งที่ทันสมัยและความเป็นเมืองเพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังสงครามล่าสุด เปรียบเทียบระหว่างโรคระบาดยาก เนื่องจากความแตกต่างระหว่าง DHF กรณีตามเงื่อนไขและกรณีโรคไข้เลือดออก (DF) ด้วย hemorrhages ความแตกต่างมีเหตุผลไม่ pathogenic หรือ prognostic และทำให้งานของ clinicians ยากขึ้น สถานการณ์จริงในประเทศที่เผชิญกับโรคระบาดไข้เลือดออกทำให้ชัดเจนว่า โรคนี้จะยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขในบางเวลามา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไข้เลือดออกเป็นที่รู้จักกันมานานกว่า 200 ปี ไวรัสไข้เลือดออกครั้งแรกที่แยกได้ประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะปี 1950 โรคไข้เลือดออกได้รับการพิจารณาเป็นโรคไข้อ่อน แต่โรคที่หายากและกรณีร้ายแรงเป็นที่รู้จักกันที่จะเกิดขึ้น หลังจากวันที่โรคระบาดครั้งแรกของโรคไข้เลือดออก (DHF) ปรากฏตัวขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโรคไข้เลือดออกกลายเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดของการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตในวัยเด็กในภูมิภาค การเกิดขึ้นของการระบาดของโรคไข้เลือดออกได้รับการอธิบายเป็นครั้งแรกโดยมีผลกระทบต่อการกลายพันธุ์ของไวรัสไข้เลือดออกทำให้พวกเขารุนแรงมากขึ้น แต่สมมติฐานนี้ไม่ได้ถูกเก็บรักษาไว้ จากนั้น "ติดเชื้อทุติยภูมิ" หรือ "การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน" ถูกเสนอทฤษฎีที่จะอธิบายความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของไวรัสไข้เลือดออกเมื่อเด็กมีการติดเชื้อรอง สมมติฐานที่สองนี้ยังคงได้รับการสนับสนุนเป็นจริง อย่างไรก็ตามข้อสังเกตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกาะแปซิฟิกและอเมริกาไม่เห็นด้วยกับ "การติดเชื้อรอง" สมมติฐานซึ่งส่งผลให้ได้รับการแก้ไขหลายครั้ง ความก้าวหน้าล่​​าสุดในอณูชีววิทยาได้นำไปสู่​​การรับรู้ว่าสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสบางอย่างที่รุนแรงมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ สมมติฐานก็คือการเลือกสายพันธุ์ไข้เลือดออกรุนแรงมากขึ้นโดยเวกเตอร์ใหม่แอะ ลายเปลี่ยนเวกเตอร์ท้องถิ่นแอะ albopictus เมื่อกลายเป็นเมืองที่ทันสมัย​​และการขนส่งที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังสงครามที่ผ่านมา เปรียบเทียบระหว่างการระบาดของโรคเป็นเรื่องยากมากเพราะความแตกต่างระหว่างกรณีโรคไข้เลือดออกตามเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและโรคไข้เลือดออก (DF) กรณีที่มีเลือดออก ความแตกต่างนี้ไม่เคยมีใครที่ทำให้เกิดโรคหรือเหตุการพยากรณ์โรคและทำให้งานของการแพทย์ที่ยากขึ้น สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศที่หันหน้าไปทางระบาดไข้เลือดออกทำให้เห็นได้ชัดว่าโรคนี้จะยังคงเป็นปัญหาสุขภาพของประชาชนในบางเวลาที่จะมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไข้เลือดออกที่ได้รับการรู้จักกันมานานกว่า 200 ปี ไข้เลือดออกไวรัสแรกแยกได้ประมาณ 50 ปีมาแล้ว ก่อนปี 1950 ′ ไข้เลือดออกก็ถือว่าไม่รุนแรง โรคไข้เลือดออก แต่ที่หายากและเป็นที่รู้จักกรณีที่ร้ายแรงจะเกิดขึ้น หลังจากวันที่ , ระบาดของโรคไข้เลือดออกที่ปรากฏในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ และกลายเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและการตายในวัยเด็ก ) การเกิดขึ้นของโรคไข้เลือดออกระบาดได้อธิบายครั้งแรกโดยการกลายพันธุ์ต่อไข้เลือดออก ทําให้รุนแรงมากขึ้น แต่สมมติฐานนี้ไม่ได้ถูกเก็บไว้ จากนั้น" ติดเชื้อ " หรือ " รองปรับภูมิคุ้มกัน " ทฤษฎีที่เสนอเพื่ออธิบายเพิ่มความรุนแรงของไวรัสไข้เลือดออก เมื่อเด็กมีการติดเชื้อทุติยภูมิ สมมติฐานที่สองนี้ยังคงเป็นจริงที่ชื่นชอบ . อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางหมู่เกาะแปซิฟิก และอเมริกาไม่เห็นด้วยกับ " ติดเชื้อ " รอง สมมติฐาน ซึ่งมีหลายครั้งที่แก้ไขความก้าวหน้าในการศึกษาชีววิทยาระดับโมเลกุล ทำให้รับรู้ว่า มีไวรัสสายพันธุ์ที่เป็นรุนแรงมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ สมมติฐานหนึ่งคือการเลือกสายพันธุ์ไข้เลือดออกรุนแรงมากขึ้นโดยเวกเตอร์ใหม่เอ ลูกน้ำยุงลายแทนเวกเตอร์ในท้องถิ่นเอ จากเมื่อเมืองและการขนส่งที่ทันสมัยเพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากสงครามครั้งสุดท้ายการเปรียบเทียบระหว่างโรคระบาดยากมาก เพราะความแตกต่างระหว่างกรณีโรคไข้เลือดออกตามที่เกณฑ์และไข้เลือดออก ( DF ) กรณีมีจุดเลือดออก . ความแตกต่างนี้ไม่มีลาน เชื้อโรค หรือ กราฟ และทำให้งานของแพทย์ยากสถานการณ์จริงในประเทศที่มีการระบาดให้ชัดเจนว่าโรคนี้จะยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุข สำหรับเวลาที่จะมา